เมโสหน้าใสยี่ห้อไหนดี เปรียบเทียบทุกตัวเลือก พร้อมจุดเด่นที่คุณต้องรู้

การฉีดเมโสหน้าใสจัดเป็นอีกหนึ่งวิธีการช่วยฟื้นบำรุงผิวหน้าได้เป็นอย่างดี แต่ทว่าในปัจจุบันเรามียี่ห้อเมโสกันอยู่มากมายหลายยี่ห้อด้วยกัน ดังนั้นในบทความนี้เราเลยจะมาพูดถึงยี่ห้อเมโสว่ามียี่ห้อไหนบ้าง และแต่ละยี่ห้อนั้นมีจุดเด่นในเรื่องอะไรกันบ้าง

เมโสหน้าใสคืออะไร

การฉีดเมโสหน้าใส หรือ Mesotherapy จัดเป็นหนึ่งในหัตถการตัวช่วยดูแลผิวด้วยวิธีการฉีดตัวยาที่อุดมไปด้วยสารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อเซลล์ผิวเข้าไปผ่านตัวเข็มขนาดเล็กๆ ทำให้ตัวยาสามารถซึมลงสู่ชั้นผิวได้ดีกว่าวิธีการทาครีมบำรุงผิว และนอกจากนั้นยังทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ไวและยาวนานมากกว่า
ซึ่งวิธีการฉีดเมโสนั้นปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 วิธีหลักๆ ได้แก่

  1. วิธีการสะกิด : ซึ่งจะต้องใช้เข็มขนาดเล็กในการสะกิดที่ผิวชั้นนอกเพื่อเปิดรอยแผลเล็ก ๆ ทำให้ตัวยาในเมโสสามารถซึมลงสู่ผิวได้ดี ซึ่งวิธีนี้จะแทบไม่รู้เจ็บเลย แต่มีข้อเสียหากดูแลผิวไม่ดีก็อาจเกิดการอักเสบติดเชื้อได้
  2. วิธีการฉีดเข้าผิว : โดยก็มีทั้งการฉีดแบบปกติและการฉีดให้เกิดตุ่มบนใบหน้า ขึ้นอยู่กับตัวยาและเทคนิคของหมอแต่ละคนซึ่งวิธีนี้หลังฉีดอาจมีอาการบวมและเกิดตุ่มเล็กน้อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะค่อนข้างมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าแบบสะกิด

เมโสหน้าใสช่วยเรื่องอะไร

meso
  • ช่วยปรับผิวให้มีความกระจ่างใส ให้สีผิวสม่ำเสมอกันทั้งใบหน้า
  • ช่วยลดเลือดรอยดำ รอยแดง หรือรอยแผลเป็นต่าง ๆ รวมไปถึงรอยสิว
  • ช่วยปรับผิวให้มีความชุ่มชื้นยืดหยุ่น
  • ช่วยปรับเซลล์ผิวให้แข็งแรงขึ้น
  • ช่วยปรับผิวให้มีความเรียบเนียน
  • ช่วยลดโอกาสเกิดสิว
  • ช่วยปรับผิวให้มีความอ่อนเยาว์ขึ้น

เลือกฉีดเมโสหน้าใสยี่ห้อไหนดี

ในปัจจุบันนี้เราได้มียี่ห้อเมโสหน้าใสอยู่มากมายหลายแบรนด์ ซึ่งแต่ละยี่ห้อต่างก็มีจุดเด่นหลัก ๆ ในเรื่องของส่วนผสมและการเด่นในเรื่องฟื้นฟูปัญหาผิวที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

  1. มาเด้คอลลาเจน (Made Collagen)

เป็นเมโสยี่ห้อชื่อดัง ที่มีจุดเด่นในเรื่องของการช่วยขับสารพิษที่ตกค้างอยู่ในชั้นผิวให้ออกไป ทำให้ผิวมีความแข็งแรงขึ้น ผิวชุ่มชื้นขึ้น ช่วยลดอาการอักเสบของผิว แก้ปัญหาผิวอ่อนแอ ผิวเป็นสิวได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยปรับผิวให้มีความกระจ่างใส และยังช่วยชะลอความเสื่อมโทรมของเซลล์ผิวได้เป็นอย่างดี
(อ่านข้อมูลมาเด้คอลลาเจนเพื่อเติม: ข้อควรรู้ก่อนฉีดมาเด้คอลลาเจน)

ด้วยตัวยาที่เน้นส่วนผสมของคอลลาเจน, ไฮยาลูรอนิค เอซิด, วิตามินซี และวิตามินตัวอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อผิวอย่างมากมาย

  1. ฟิลอก้า (Filorga NCTF 135 HA)
filorga nctf 135 ha

เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อเมโสที่เด่นในเรื่องของการฟื้นบำรุงและช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมโทรมให้กลับมาแข็งแรงสุขภาพดี ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นอิ่มน้ำ ช่วยเติมหลุมสิวขนาดเล็กให้เต็มมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญตัวนี้ยังเด่นในเรื่องของการช่วยลดปัญหาใต้ตาดำคล้ำได้ดีอีกด้วย

ด้วยส่วนผสมหลัก ๆ อย่างไฮยาลูรอนิค เอซิด วิตามิน กรดอะมิโน และแร่ธาตุต่าง ๆ อีกมากมาย ที่มาในรูปแบบของโมเลกุลเดี่ยวที่ไม่มีการเชื่อมเกาะกัน จึงทำให้เวลาฉีดเข้าไปแล้วตัวยาสามารถมีการกระจายตัวในชั้นผิวได้อย่างดี

  1. รีจูรัน (Rejuran)
รีจูรัน

ตัวนี้เชื่อว่าใครหลายคนก็ต่างรู้จักกันเป็นอย่างดีเพราะโด่งดังมาก ๆ ในการช่วยฟื้นฟูผิวและปรับผิวให้สวยกลาสสกินแบบสาวเกาหลีด้วยจุดเด่นที่สารประกอบหลักอย่าง Polyneucleotide (PN) ที่มีงานวิจัยรองรับว่าช่วยในเรื่องของการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวให้เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผิวมีโครงสร้างที่แข็งแรงและกระชับ อ่อนเยาว์ขึ้น
(อ่านข้อมูลรีจูรันเพื่อเติม:Rejuran คืออะไร? เหมาะกับใครบ้าง?)

นอกจากนั้นในตัวยาของรีจูรันยังมีส่วนช่วยในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้เซลล์ผิวมีความยืดหยุ่นสุขภาพ พวกริ้วรอย ร่องตื้นต่าง ๆ จึงมีความจางลงและยังช่วยเติมเต็มหลุมสิวขนาดเล็กได้ดีอีกด้วย

  1. ชาแนล (Chanel L’ebss Skin booster)
chanel

ตัวนี้เป็นอีกหนึ่งตัวที่โด่งดังอย่างมากเด่นในเรื่องของการช่วยปรับผิวให้มีความโกลว กระจ่างใส และยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นจึงทำให้ผิวมีความกระชับ เต่งตึงและช่วยลดริ้วรอยให้จางลงได้อีกด้วย
(อ่านข้อมูลชาแนล (Chanel) เพื่อเติม:Chanel injection คืออะไร?

ซึ่งตัวชาแนลนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวหลาย ๆ ด้วยโดยเฉพาะคนที่มีปัญหาผิวแห้งกร้านได้เป็นอย่างดี

  1. รีเวิร์ส (REVS)
revs

ตัวนี้เป็นเมโสจากประเทศเกาหลีเป็นอีกตัวที่เด่นในเรื่องของการช่วยฟื้นฟูผิวจากการถูกแสงแดด มลภาวะทำร้าย ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น อิ่มฟู ปรับผิวให้มีความกระจ่างใส เสริมชั้นผิวให้มีความแข็งแรง ยืดหยุ่น และยังช่วยลดเลือนพวกริ้วรอยได้เป็นอย่างดี

นั้นก็เพราะว่าในตัวยามีส่วนประกอบของไฮยาลูรอนิค เอซิด, วิตามินซี, Polynucleotide, กรดอะมิโน, เปปไทด์ และ Niacinamide

  1. นีโอ กลูต้าเน็กซ์ โกลว์ (Neo-Glutanex Glow)
neo-glutanex glow

ตัวนี้เป็นอีกหนึ่งเมโสจากประเทศเกาหลีที่มีจุดเด่นในเรื่องของการช่วยปรับผิวให้มีความกระจ่างใส ลดรอยดำ แก้ปัญหาผิวหมองคล้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังมีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดรอยดำใหม่ ๆ ในอนาคตได้เป็นอย่างดี และยังช่วยเสริมคอลลาเจนในผิวได้ดีมาก ๆ อีกด้วย

ซึ่งเมโสตัวนี้นั้นก็ถือว่าค่อนข้างมาแรงเนื่องจากมีส่วนประกอบสำคัญหลายตัวอย่าง กลูต้าไธโอน, วิตามินซี, เปปไทด์, กรดไฮยาลูริค เอซิดและวิตามินต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อเซลล์ผิว ซึ่งสารสำคัญเหล่านี้จะมีส่วนสำคัญในการเข้าไปยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานินในชั้นผิวได้เป็นอย่างดี

  1. อัลฟ่า อาร์บูติน (Alpha arbutin)
alpha arbutin

ตัวนี้เป็นตัวดังที่เด่นในเรื่องการช่วยลดเม็ดสีเมลานินในชั้นผิวให้จางลงทำให้ผิวมีความกระจ่างใสขึ้น ช่วยในเรื่องของการลดรอยดำ ฝ้า กระ รอยแผลเป็นต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งยังทำให้สีผิวมีความสม่ำเสมอกันทั้งใบหน้า และยังมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรงได้อย่างรวดเร็ว

ด้วยส่วนประกอบหลัก ๆ อย่าง Alpha arbutin นอกจากนั้นยังมีสารสำคัญที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่าง กรดไฮยาลูรอนิค และวิตามินซี, Niacinamide ที่เด่นในเรื่องของการปรับผิวให้กระจ่างใสและแข็งแรงนั่นเอง

  1. เท็นโซเนส (Tensonez)
tensonez

ยี่ห้อนี้เองก็เด่นในเรื่องของการช่วยลดฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยแดงและรอยแผลเป็นต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยทำให้ผิวมีความกระจ่างใส ให้สีผิวมีความสม่ำเสมอกันมากยิ่งขึ้น และยังบำรุงผิวให้มีความแข็งแรงมีผิวที่อิ่มน้ำ สุขภาพดี

โดยจะเน้นส่วนประกอบหลักอย่าง กรดไฮยาลูรอนิค, คอลลาเจน, กลูต้าไธโอน, Acetyl Hexapeptide-8 และ Multipeptide เป็นต้น

สรุปเลือกฉีดเมโสยี่ห้อไหนดี?

จริง ๆ แล้วการเลือกฉีดเมโสนั้นสามารถเลือกยี่ห้อไหนก็ได้ตามความสะดวกใจ รวมไปถึงความต้องการในเรื่องของผลลัพธ์การบำรุงผิว และนอกจากนั้นเมโสทุกยี่ห้อยังสามารถทำร่วมกันได้ แต่ก็ควรจะมีการเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ หรือสำหรับใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกฉีดเมโสหน้ายี่ห้อไหนดีนั้น สามารถเข้าปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญที่กังนัมคลินิกเพื่อแนะนำยี่ห้อเมโสที่เหมาะกับปัญหาผิวของแต่ละคนได้ที่ทางกังนัมคลินิกทุกสาขา หรือติดต่อผ่านทาง Line: @gangnamclinic

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง