10 วิธีรักษาสิวผด แบบเร่งด่วน ให้หน้ากลับเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ

10 วิธีรักษาสิวผด

ถ้าพูดถึงเรื่องสิวคงเป็นปัญหาผิวอันดับต้นๆที่ทำให้สาวๆ หนุ่มๆทั้งหลายขาดความมั่นใจ โดยเฉพาะสิวผดเม็ดเล็กๆที่มักขึ้นเป็นปื้นอยู่บนใบหน้าทำให้รู้สึกคันและรักษาให้หายได้ยาก ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุที่แตกต่างกัน สำหรับใครกำลังกลุ้มใจกับเจ้าสิวผดอยู่ว่าเป็นแล้วจะให้หายเองได้ไหม มีวิธีแก้ปัญหาอย่างไรบ้าง วันนี้เรามี 10 วิธีรักษาสิวผดที่กวนใจให้หายขาดแบบเร่งด่วน แต่จะต้องทำอย่างไรบ้างนั้นบอกเลยว่าห้ามพลาดบทความนี้ค่ะ

สิวผด คืออะไร?

สิวผด (Acne Aestivalis) คือ เป็นสิวประเภทหนึ่งที่สามารถพบได้บ่อยมีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ คล้ายกับผดผื่นที่เกิดจากความผิดปกติในการทำงานของต่อมเหงื่อใต้ผิวหนังที่มักจะเห่อขึ้นมาเมื่ออากาศร้อนหรือมีเหงื่อออก และอาจจะหายไปในช่วงเวลาที่อากาศเย็นลง แถมยังเป็นสิวที่รักษาให้หายขาดได้ยาก มักพบในผู้ที่มีอายุระหว่าง 20-40 ปี

ลักษณะของสิวผด เป็นอย่างไร?

ลัษณะของสิวผด

มีลักษณะคล้ายผดผื่นเม็ดเล็ก ๆ สีแดง นูนๆ เป็นตุ่มบวมแดงขนาดเล็กเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2-4 มิลลิเมตรและอาจมีอาการคันร่วมด้วย มักเกิดขึ้นพร้อมกันเป็นจำนวนมากเวลาสัมผัสจะรู้สึกไม่เรียบ เป็นเม็ดทราย กระจายทั่วใบหน้า เป็นสีแดง พบได้มากบริเวณหน้าผากและขมับ

สิวผด มีสาเหตุเกิดจากอะไร?

สิวผดเกิดจากอะไร?

สิวผดสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งปัจจัยหลักๆที่ทำให้เกิดสิวผดมีดังนี้

  • เกิดจากการสะสมของมลพิษจากสิ่งแวดล้อม ฝุ่น PM2.5 การแพ้น้ำหรือแพ้เหงื่อ รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว
  • ภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอ ทำให้เมื่อผิวหนังสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ จึงก่อให้เกิดสิวผดได้ง่าย
  • เกิดจากการอุดตันของไขมันในรูขุมขนจนเป็นตุ่มสิวเล็ก ๆซึ่งสิวผดจะไม่มีหนองและไม่มีหัวสิว
  • เกิดจากการทำความสะอาดใบหน้าแบบผิดๆ เช่นการล้างหน้าบ่อย ๆ และการเช็ดหน้าอย่างรุนแรง
  • เกิดการระคายเคืองบนผิวหนัง เช่น แพ้ครีมบำรุง แพ้เครื่องสำอาง ครีมกันแดด น้ำยาเช็ดเครื่องสำอาง น้ำหอม หรือแพ้สารสเตียรอยด์
  • มีการเพิ่มขึ้นของเชื้อราพิไทโรสโพรัมโอวาเล (Pityrosporum Ovale) ซึ่งพบได้ทั่วไปบนผิวของคนเมื่ออยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด
  • เกิดจากความเครียด ซึ่งความเครียดเป็นกระตุ้นทำให้ฮอร์โมนเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักของการเกิดสิวผด
  • พันธุกรรม หากพบว่าสมาชิกในครอบครัวมีประวัติเกิดสิวผด จากการสำรวจพบว่า 50-70% ที่ในบ้านจะเกิดสิวผดได้
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่เหมาะสม เช่น สาวๆมีผิวหน้าแห้ง แต่ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้ามัน จึงเกิดความระคายเคืองจนเกิดสิวผดได้
  • รับประทานอาหารที่มีสารอาหารไม่ครบถ้วน และการดื่มน้ำน้อยก็อาจที่ทำให้เกิดสิวผดได้เช่นกัน

บริเวณที่มักเกิดปัญหาสิวผด

สิวผดเกิดจุดไหนได้บ้าง
  • สิวผดที่หน้าผาก เกิดจากการแพ้ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม คราบเหงื่อ หรือความมันจากผมที่ตกลงมาปกคลุมบริเวณหน้าผาก
  • สิวผดที่แก้ม เกิดจากการระคายเคือง หรือการอุดตันของสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่บนผิว เนื่องจากรักษาความสะอาดไม่เพียงพอ
  • สิวผดขึ้นเต็มหน้า เกิดจากการแพ้เครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว จนเกิดสิวผดและผื่นขึ้นเต็มใบหน้า
  • สิวผดที่จมูก เกิดจากความมันที่อุดตันของผิว
  • สิวผดคาง เกิดจากการระคายเคืองของผิว ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการใส่แมส
  • สิวผดที่หน้าอกและหลัง เกิดจากการใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ไม่ดี ทำให้เมื่อมีเหงื่อออกแล้วเกิดการอับชื้น และมีการเสียดสีกับเนื้อผ้า

เป็นสิวผด กี่วันหาย? สามารถหายเองได้ไหม?

สิวผดที่เกิดจากการระคายเคืองแบบชั่วคราวจะสามารถหายเองได้ภายใน 1-2 วัน แต่หากเป็นสิวผด ที่เกิดจากการแพ้สารเคมีต่างๆอาจจะทำการรักษาให้หายได้ยากเพราะสิวชนิดนี้ เป็นสิวที่เป็นๆหายๆ ต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน 3-6 เดือนเลยทีเดียว แต่หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องก็อาจเสี่ยงที่จะทิ้งรอยสิวไว้ได้ง่าย และมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้อีก

เป็นสิวผดพร้อมกับมีอาการคันเกิดจากอะไร

อาการคันในระหว่างเป็นสิวผดนั้นทางการแพทย์สามารถวินิจฉัยได้ว่าเกิดจากอาการรูขุมขนอักเสบจากเชื้อรา ที่เกิดจากเชื้อราหรือยีสต์ไปทำปฏิกิริยากับไขมันทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาเยอะและเกิดเป็นอาการสิวผดร่วมกับมีอาการคันด้วยนั่นเอง ซึ่งอาการลักษณะนี้สามารถทำการรักษาได้ด้วยการทายาปฏิชีวนะคล้ายกับการรักษาสิวทั่วไป แต่หากมีอาการที่หนักมากๆ ก็ควรเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

สิวผดต่างกับสิวอุดตันอย่างไร

สิวผดต่างกับสิวอุดตันอย่างไร

สิวผดกับสิวอุดตันนั้นจะมีทั้งส่วนที่เหมือนกันคือลักษณะของเม็ดสิวที่จะเป็นเม็ดเล็กๆ ซ่อนอยู่ใต้ผิวหนัง เวลาจับสัมผัสจะรู้สึกได้ว่ามีตุ่มเล็กๆ ซ่อนอยู่ แต่ทั้งนี้สิวผดและสิวอุดตันก็มีส่วนที่แตกต่างกันอยู่ดังนี้

  • สิวผด มักเกิดกับคนที่มีสภาพผิวบอบบาง แพ้ง่าย ระคายเคืองกับปัจจัยภายนอกได้ง่าย มักเกิดจากการแพ้ระคายเคือง
  • สิวอุดตัน มักเกิดในกลุ่มคนที่มีสภาพผิวมัน ที่มักเกิดขึ้นจากการอุดตันของรูขุมขนจากความมันและสิ่งสกปรกต่างๆ

เป็นสิวผดจำเป็นต้องกดออกไหม

การเป็นสิวผดนั้นไม่ควรกดออกอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นประเภทสิวที่ไม่มีหัวสิว ดังนั้นกดไปก็มีแต่จะทำให้เกิดผิวหนังอักเสบ เกิดรอยแผลเป็นและยิ่งทำให้ผิวเกิดความระคายเคืองได้มากกว่าเดิม ซึ่งโดยส่วนใหญ่หมอจะแนะนำให้เป็นการทายาร่วมกับการทาครีมที่มีส่วนผสมของการเสริมเกราะป้องกันผิวมากกว่า

วิธีรักษา และ แก้สิวผด ให้ได้ผลแบบธรรมชาติ

เพื่อให้สาวๆสามารถกู้ผิวที่พังให้กลับมาเรียบเนียน วันนี้เราจะมาเฉลยการป้องกันและวิธีการรักษาให้หายขาด ซึ่งเป็นสิวผดใช้อะไรดี? มาดูกัน

1. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับผิวหน้า

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และเครื่องสำอาง

หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง โดยเฉพาะกลุ่มยาแต้มสิวที่มีส่วนผสมของสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองอย่างเช่น

  • AHA
  • BHA
  • Benzoyl Peroxide
  • Salicylic Acid

เพราะส่วนผสมเหล่านี้จะทำให้ผิวหน้าแห้ง ลอก และเกิดการระคายเคือง จนอาจทำให้มีผื่นแพ้เพิ่มขึ้นกว่าเดิม และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสูตรและส่วนผสมที่อ่อนโยน เพราะผลิตภัณฑ์ประเภทนี้จะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหน้า โดยแนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม พาราเบน และซิลิโคน

2. บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ

ด้วยการทาครีมบำรุงผิวที่เป็นกลุ่มมอยเจอร์ไรเซอร์ หรือกลุ่มไฮยาลูรอนิค ที่จะทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น เพราะว่าผิวชุ่มชื้นนั้นจะช่วยทำให้สภาพผิวมีความแข็งแรง และช่วยลดโอกาสการเกิดสิว สิวผดรวมถึงสามารถช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัยได้

3. ล้างเครื่องสำอางบนใบหน้าให้สะอาด

ล้างเครื่องสำอางให้สะอาด

ล้างเครื่องสำอางให้หมดจด เพราะการล้างเครื่องสำอางให้หมดจดใช้เพียงโฟมล้างหน้าอย่างเดียวอาจไม่พอ ดังนั้นจึงควรใช้คลีนซิ่งเช็ดใบหน้าให้ทั่วก่อนการล้างหน้า เพื่อการทำความสะอาดให้หมดจดมากกว่าเดิม เพราะการล้างหน้าไม่สะอาดนั้นจะทำให้สิ่งสกปรกต่างๆ ที่อยู่บนผิวเกิดการสะสมจนนำไปสู่ปัญหาผิวต่างๆ อย่างสิวอักเสบ สิวผดได้มากกว่าปกติ

4. ใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์

การทายากลุ่มสเตียรอยด์ที่บริเวณที่เป็นสิวผด จะช่วยลดอาการคัน ช่วยลดการระคายเคืองและผื่นแพ้ผิวได้เร็ว แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เพราะหากใช้ในปริมาณที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ผิวติดสเตียรอยด์จนนำไปสู่ปัญหาผิวด้านอื่นๆ ได้

5. หลีกเลี่ยงแสงแดด

หลักเลี่ยงแสงแดด

เพราะแสงแดดและความร้อนเป็นสาเหตุหลักของปัญหาสิวผด โดยสามารถสังเกตได้เลยว่าในช่วงฤดูร้อนจะทำให้มีโอกาสเกิดสิวผดได้ง่ายกว่าฤดูหนาว

ดังนั้นหากใครที่มีปัญหาสิวบ่อยๆ เป็นซ้ำซาก แนะนำให้ลองเลี่ยงอากาศร้อนจะทำให้สิวผดหายง่ายขึ้น แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 PA+++ และควรเลือกเนื้อครีมที่บางเบา และช่วยควบคุมมันได้

6. การไม่สัมผัสหรือจับผิวหน้า

อีกหนึ่งวิธีการรักษาสิวผดให้หายไวขึ้นและไม่ทำให้สิวผดเกิดการลุกลามไปมากกว่าเดิมนั้นก็คือการไม่จับ สัมผัสผิวหน้าที่จุดที่เกิดสิวผดบ่อยๆ เนื่องจากในมือของเราอาจมีสิ่งสกปรกต่างๆ อยู่ซึ่งจะไปทำให้สิวผดเกิดการลุกลามได้มากขึ้นกว่าเดิม

7. การพักผ่อนให้เพียงพอ

การพักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่หลายๆ คนมองข้าม เนื่องจากในช่วงเวลาที่เรานอนหลับอยู่นั้นจะเป็นช่วงที่ร่างกายจะได้ทำการฟื้นฟูเซลล์ต่างๆ ดังนั้นต่อให้เรารักษาสิวผดด้วยวิธีไหนก็ตามแต่หากเราพักผ่อนน้อย ก็จะทำให้สิวผดหายยากและอาจลุกลามได้มากกว่าเดิม

8. การพอกหน้าหรือมาส์กหน้าลดสิวผด

การพอกหน้าหรือมาส์กหน้า

วิธีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดสิวผดและยังช่วยบำรุงผิวให้มีสุขภาพที่ดี มีผิวที่ชุ่มชื้นโดยแนะนำให้เป็นมาส์กสูตรที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นหรือสูตรช่วยทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น เลี่ยงมาส์กกลุ่มที่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดการระคายเคืองอย่าง วิตามินซี วิตามินเอ AHA และ BHA เป็นต้น

9. การทำหัตถการรักษาสิวผด

ในปัจจุบันนั้นเราก็ได้มีวิวัฒนาการที่จะเข้ามาช่วยกู้บำรุงผิวได้ดีขึ้นกว่าการทาครีมนั้นก็คือหัตถการดูแลผิวต่างๆ ซึ่งกลุ่มหัตถการที่สามารถช่วยรักษาสิวผดได้จะมีดังนี้

New Pora Cool

จะเด่นในเรื่องของการช่วยทำความสะอาดผิวหน้าล้ำลึก ด้วยเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยปรนนิบัติและฟื้นฟูชั้นผิวด้วยการเปิดเซลล์ให้ผิวให้พร้อมรับการบำรุงจากวิตามิน สารอาหารผิวรวมถึงแร่ธาตุวิตามินสำคัญ เข้าสู่ชั้นผิว อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวไปพร้อมๆกัน

New Pora Cool แก้สิวผด

ฉีดเมโสหน้าใส

เป็นหัตถการ Mesotherapy ที่จะใช้การฉีดหรือสะกิดส่งตัวยาเมโสเข้าไปยังชั้นผิว ทำให้ผิวสามารถรับสารบำรุง แร่ธาตุ และวิตามินต่างๆ ในตัวยาได้ดีกว่าการทาครีม

ซึ่งในปัจจุบันการฉีดเมโสนั้นมีให้เลือกหลายยี่ห้อด้วยกันดังนี้ รีจูรัน, Exosome, Cytocare, Diorr (L’ebss), Chanel (NCFS 140HPn) และ มาเด้คอลลาเจน เป็นต้น

MADE Collagen ช่วยให้หน้าใส ลดสิวผด สิวอุดตัน

เลเซอร์หน้าใส Dual Yellow

Dual Yellow เลเซอร์ที่สามารถช่วยลดการเกิดสิวผดได้ดีด้วยการใช้แสงสีเหลืองในการเข้าไปช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวให้แข็งแรง ทำให้ช่วยลดรอยดำ รอยแดงได้อีกด้วย ที่สำคัญเป็นกลุ่มเลเซอร์ที่ไม่มีความเจ็บในระหว่างทำเลยจึงทำให้เป็นอีกวิธีที่หลายๆ คนต่างนิยม

อ่านเพิ่มเติม : เลเซอร์หน้าใส ช่วยอะไร? เหมาะกับใคร ราคาเท่าไหร่ ทำที่ไหนดี

เลเซอร์หน้าใส ผิวหน้าอมชมพู

10. ปรึกษาแพทย์ด้านผิวหนัง

ปรึกษาแพทย์ผิวหนังนั้นถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยรักษาสิวผดได้ดี เนื่องจากสิวผดนั้นมีสาเหตุการเกิดได้หลายสาเหตุ ซึ่งแต่ละสาเหตุจะต้องใช้วิธีการรักษาที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยส่วนใหญ่แล้วแพทย์แนะนำให้ใช้ยาทาหรือยารับประทานในการรักษา เพื่อช่วยปรับสมดุลและรักษาฮอร์โมนของร่างกายโดยอาจจะใช้เวลา 6-8 สัปดาห์ในการรักษาแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับปัญหาของบุคคล

วิธีป้องกันสิวผด

แน่นอนว่าอีกหนึ่งประเด็นสำคัญในการรักษาสิวผดนั้นก็คือวิธีการดูแลตัวเองเพื่อป้องกันการเกิดสิวผดตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งจะมีวิธีการดูแลตัวเองดังนี้

  • การล้างหน้าให้ถูกวิธี : อย่างเช่นการทำ Double Cleansing หรือการล้างหน้า 2 รอบ ซึ่งวิธีนี้จะเป็นการเช็ดเครื่องสำอางออกก่อนจากนั้นก็ล้างหน้าด้วยโฟมหรือเจนล้างหน้าอีกรอบเพื่อให้ผิวมีความสะอาดมากยิ่งขึ้น และจะช่วยลดโอกาสการอุดตันของผิวได้ดี
  • ทาครีมกันแดด : การทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไปจะเป็นวิธีช่วยปกป้องผิวจากการถูกแสงแดด แสงไฟ แสงหน้าจอทำร้ายผิวทำให้เซลล์ผิวเสื่อมโทรมได้
  • เลี่ยงการให้ผิวถูกแสงแดดนานๆ : แสงแดดและความร้อนจะเป็นตัวเร่งทำให้ร่างกายผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ ส่งผลทำให้ก่อให้เกิดการอุดตันผิวได้ง่ายมากๆ
  • การให้ผิวได้มีการผลัดเซลล์ผิวบ้าง : แต่ในละวันผิวเราเผชิญกับสิ่งสกปรกมากมายดังนั้นการผลัดเซลล์ผิวจะเป็นตัวช่วยในการป้องกันการอุดตันและยังช่วยทำให้สิวผดในผิวชั้นในค่อยๆ หลุดออกได้อีกด้วย ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการสครับผิว หรือการใช้สกินแคร์กลุ่ม AHA, BHA เป็นต้น
  • การไม่สัมผัสหน้าบ่อยๆ : เพราะมือของเราในบางครั้งเต็มไปด้วยฝุ่นและสิ่งสกปรกต่างๆ มากมาย หากเผลอเอามือไปสัมผัสหน้าก็จะทำให้สิ่งสกปรกดังกล่าวมาเกาะที่ผิวหน้าจนนำไปสู่การอุดตันได้
  • ลดอาหารกลุ่มที่มีไขมันและน้ำตาลสูง : เนื่องจากอาหารกลุ่มดังกล่าวนี้ถือเป็นตัวกระตุ้นการทำลายผิวเพราะจะทำให้ผิวมันง่ายขึ้น เป็นสิวง่ายขึ้น ผิวโทรมหมองคล้ำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

สรุป

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ 10 วิธีรักษาสิวผด ที่นำมาฝาก ซึ่งหากทำตามครบทุกข้อแล้ว รับรองว่าหายขาดอย่างแน่นอน เนื่องจากผิวผิดเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และถึงแม้จึงขึ้นชื่อว่ารักษาหายได้ยาก เพราะสิวชนิดนี้มักมีลักษณะแบบเป็นๆหายๆ แต่หากทำการรักษาอย่างถูกวิธี และฟื้นฟูให้ผิวหน้ามีความแข็งแรง ก็จะช่วยทำให้สิวผดนั้นหายได้ไม่ยาก แถมโอกาสการเกิดสิวผดก็จะลดลงอีกด้วย

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง