ฉีด Filorga ใต้ตา คืออะไร อยู่ได้นานไหม ต่างจากฉีดฟิลเลอร์อย่างไร?
เชื่อว่าคงเป็นคำถามคาใจของใครหลายๆ คนกันอยางมากว่า Filorga VS ฟิลเลอร์ใต้ตาต่างกันอย่างไร? คำตอบก็คือ Filorga (ฟิลอก้า) เป็นการฉีดเมโสหน้าใสประเภทหนึ่งที่มีส่วนผสมของ ไฮยาลูรอนิค แอซิด ประเภทโมเลกุลเดี่ยว (Non Cross -Linked) จะที่ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ปรับผิวใต้ตาให้กลับมากระจ่างใสอีกครั้ง ส่วนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็คือการฉีดฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มประเภท HA (Hyaluronic acid) ประเภทโมเลกุลที่มีการเชื่อมเกาะกัน (Cross-Linked) เข้าไปช่วยแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ เติมร่องใต้ตา แก้ปัญหาริ้วรอย
Filorga คืออะไร
การฉีด Filorga (ฟิลอก้า) คือการทำเมโสเทอราปี (MesoTherapy) หรือเมโสหน้าใสชนิดหนึ่ง ด้วยการฉีดตัวยาเข้าไปช่วยบำรุงผิวใต้ตาให้มีความกระจ่างใสและผิวชุ่มชื้นมากขึ้น จึงเด่นในเรื่องของการช่วยลดปัญหาใต้ตาดำคล้ำ ใต้ตาหมีแพนด้า หรือใต้ตาแห้งนั่นเอง
การฉีด Filorga ต่างกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างไร
ทั้ง 2 หัตถการถือว่ามีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในหลาย ๆ ด้านด้วยกัน ดังนี้
1. การฉีด Filorga ใต้ตา
เป็นเสมือนการฉีดตัวยาบำรุงผิวเข้าไปเพื่อไปช่วยปรับให้ผิวส่วนนั้นเกิดความกระจ่างใส และชุ่มชื้นขึ้น ซึ่งตัวยาจะประกอบไปด้วยสารต่าง ๆ มากมาย อาทิเช่น กรดไฮยาลูรอนิค (HA), กรดอะมิโน, กลูต้าไธโอน, วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ อีกมากมาย
Filorga ช่วยเรื่องอะไร
- ปรับผิวใต้ตาให้กระจ่างใสขึ้น ลดใต้ตาคล้ำ ใต้ตาดำ ใต้ตาหมีแพนด้า
- เพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้ผิว
- ปรับผิวให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
- ปรับผิวให้มีความอิ่มฟู ดูสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น
Filorga เหมาะกับใคร : ผู้ที่ต้องการปรับผิวให้มีความกระจ่างใส เพิ่มความชุ่มชื้นทำให้โครงสร้างผิวมีความยืดหยุ่นแข็งแรง และต้องการบำรุงผิวใต้ตาอย่างเร่งด่วนที่จะช่วยให้เห็นผลไวกว่าการทาอายครีมแบบปกติ
Filorga ต้องฉีดครั้งละกี่ CC : ใน 1 ขวดจะมีตัวยาทั้งหมด 3 CC (สามารถใช้ฉีดได้ทั่วใบหน้า) จึงแนะนำให้ฉีดครั้งละ 1 ขวดเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ไวมากยิ่งขึ้น
2. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) คือการฉีดสารฟิลเลอร์เข้าไปเติมเต็มชั้นผิวบริเวณใต้ตาทำให้ชั้นผิวดูตื้นขึ้น ลดอาการใต้ตาดำคล้ำ ช่วยลดริ้วรอย ร่องลึก แก้ปัญหาถุงใต้ตาบวม ถุงใต้ตาหย่อนคล้อยได้ ซึ่งตัวสารฟิลเลอร์นั้นมีส่วนประกอบของกรดไฮยาลูรอนิค (HA) ที่มีความบริสุทธิ์สูงมาก ๆ มาในรูปแบบของลักษณะเนื้อเจลที่มีความยืดหยุ่น จึงทำให้ไปช่วยทดแทนชั้นผิวที่มีการเสื่อมโทรมของคอลลาเจนได้เป็นอย่างดี
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเรื่องอะไร
- แก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึก รอยตีนกา
- ปรับผิวใต้ตาให้มีความเรียบเนียนสม่ำเสมอ
- ลดปัญหาใต้ตาหมองคล้ำ
- แก้ปัญหาใต้ตาลึก ตาโบ๋
- แก้ปัญหาถุงใต้ตาหย่อน ถุงใต้ตาบวม
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร : ผู้ที่ต้องการปรับผิวใต้ตาให้มีความเติมเต็มมากยิ่งขึ้น ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย รอยตีนกา ตาลึก ตาโหลจนทำให้ใบหน้าดูโทรม
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาต้องฉีดครั้งละกี่ CC : ปกติจะเริ่มฉีดอยู่ที่ข้างละ 1 CC แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาเดิมของคนไข้และการประเมินของหมอผู้ฉีด
Filorga VS ฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นานแค่ไหน
ต้องบอกเลยว่าถึงแม้ทั้งคู่จะมีขั้นตอนการทำที่คล้ายคลึงกัน แต่ต่างก็มีระยะเวลาการเห็นผลที่แตกต่างกันมากๆ ดังนี้
- ระยะเวลาการเห็นผลของ Filorga
สามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำประมาณ 20% โดยการฉีด 1 ครั้งจะอยู่ได้ประมาณ 3-4 สัปดาห์ หากต้องการเรื่องลดความหมองคล้ำแนะนำให้ฉีดประมาณ 3-5 ครั้งขึ้นไปโดยเว้นระยะ 2 สัปดาห์ต่อครั้ง และหลังจากนั้นสามารถทำเดือนละ 1 ครั้งเพื่อคงผลลัพธ์ให้ยาวนานยิ่งขึ้น - ระยะเวลาการเห็นผลของ ฟิลเลอร์ใต้ตา
สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังทำ โดยจะมีระยะเวลาเห็นผลประมาณ 6-12 เดือนขึ้นอยู่กับยี่ห้อรวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังฉีด ซึ่งหลังครบระยะเวลาแล้วสามารถไปฉีดเติมฟิลเลอร์ได้
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ลดปัญหาใต้ตาดำคล้ำ ปลอดภัยได้ผลจริง
ผลข้างเคียงของ Filorga VS ฟิลเลอร์ใต้ตา
เนื่องจากทั้ง Filorga และฟิลเลอร์ใต้ตาต่างมีวิธีขั้นตอนการรักษาที่เหมือนกัน จึงทำให้มีผลค้างเขียงที่คล้ายคลึงกันเช่น มีรอยแดง รอยเข็มหรืออาการบวมของตัวยา ซึ่งอาการดังกล่าวจะหายไปเองภายใน 3-4 ชั่วโมง โดยสามารถใช้การประคบเย็นเพื่อช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้
การเตรียมตัวก่อนทำ
- งดทานยา อาหารเสริมกลุ่มยาแอสไพริน กิงโกะ แปะก๊วย น้ำมันปลา เป็นต้นเพื่อจะทำให้เลือดหยุดไหลช้าและไปกระตุ้นการบวมหลังฉีด 2 สัปดาห์
- งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนทำ เพราะเป็นตัวการกระตุ้นทำให้เลือดสูบฉีดและสู่การบวมหลังฉีดได้ง่าย
- หากมีการทานยารักษาโรคหรือมีประวัติการแพ้ยา
การดูแลตัวเองหลังทำ
- งดแต่งหน้า ทาครีมบำรุงผิวบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 12 ชั่วโมงเพื่อป้องกันการติดเชื้อจากแผลรอยเข็ม
- งดออกกำลังกายอย่างหนักและอยู่ในที่มีอากาศร้อนเป็นเวลา 48 ชั่วโมง
- หลังครบ 24 ชั่วโมง สามารถทาครีมบำรุงผิวให้ผิวมีความชุ่มชื้น และควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน
- งดทำเลเซอร์หรือทรีตเมนต์หน้าที่ต้องใช้ความร้อนเป็นเวลา 1 เดือน
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดการสูบบุหรี่ รวมถึงงดทานอาหารหมักดอง
วิธีเลือกคลินิกสำหรับทำ Filorga กับ ฟิลเลอร์ใต้ตา
การเลือกคลินิกถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการทำหัตถการทางความงามเป็นอย่างมาก ซึ่งก่อนจะตัดสินใจเลือกทำนั้นจะต้องตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ทั้งหมด 5 อย่างหลักๆ ดังนี้
- คลินิกเปิดบริการอย่างถูกต้องตามกฎหมายไหม?
เพราะจะมีแค่คลินิกที่เปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้นที่จะสามารถสั่งซื้อตัวยา Filorga และฟิลเลอร์ใต้ตาได้ เนื่องจากบางยี่ห้อจะต้องมีการใช้เลขใบอนุญาต 11 หลักในการสั่งซื้อ และตัวเลขดังกล่าวสามารถนำเลข 11 หลักไปตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ checkmd.tmc.or.th - แพทย์ผู้ทำการรักษาเก่งไหม?
เพราะการฉีด Filorga และฟิลเลอร์ใต้ตานั้นต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูงมาก เนื่องจากเป็นบริเวณใกล้ดวงตาซึ่งหากไม่ชำนาญมากพอก็อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงขึ้นได้ โดยคนไข้สามารถตรวจสอบข้อมูลว่าเป็นแพทย์จริงหรือไม่ได้ที่ เว็บไซต์ แพทยสภาด้วยการนำชื่อแพทย์ไปค้นหาได้เลย - คลินิกต้องมีบริการดูแลหลังทำดีไหม?
คลินิกควรมีการติดตามผลคนไข้หลังทำ ว่ามีอาการผิดปกติอะไรไหม มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง และหากมีก็ควรมีการแสดงความรับผิดชอบต่อคนไข้ด้วย - มีราคาที่สมเหตุสมผลไหม?
ก่อนทำทางคลินิกต้องมีการแจ้งราคาให้ครบถ้วนและชัดเจน เพื่อป้องกันการบวกเพิ่มหลังรับบริการ และไม่ควรมีการเก็บค่าบริการเพิ่มเติมที่นอกเหนือจากการรักษา - มีรีวิวจากลูกค้าจริงไหม?
การเช็กรีวิวก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะทำให้เราสามารถรู้ได้เลยว่า ฝีมือของคุณหมอเก่งไหม คลินิกดูแลและให้บริการดีมากน้อยแค่ไหน
คำถามที่ทุกคนสงสัยเกี่ยวกับ Filorga
Filorga และ ฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม
การทำ Filorga และ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นต่างเป็นหัตถการความงามที่มีความปลอดภัยมากๆ หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้มีการรับรองความปลอดภัยจากอย. และใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ทำการรักษา
Filorga เจ็บไหม
ถือเป็นอีกหนึ่งความกังวลเป็นอย่างมาก ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าความรู้สึกตอนทำจะไม่เจ็บเลยเพราะ การฉีด Filorga ก่อนทำจะมีการแปะยาชาหรือประคบเย็นเข้าช่วย ส่วนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในตัวสารฟิลเลอร์จะมียาชาผสมอยู่แล้ว จึงทำให้ความรู้สึกเจ็บน้อยมากถึงไม่เจ็บเลย
Filorga ทำให้เสี่ยงตาบอดจริงไหม
ผลข้างเคียงนี้อาจเกิดขึ้นได้ หากใช้ตัว Filorga หรือ ฟิลเลอร์ของปลอม หรือฉีดกับแพทย์ที่ไม่ได้ความเชี่ยวชาญอย่าง “หมอกระเป๋า” เป็นต้น แต่หากเข้ารับบริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเป็นคนฉีดก็สามารถมั่นใจได้เลยว่าไม่เสี่ยงอันตรายหรือทำให้ตาบอดอย่างแน่นอน เพราะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่จะมีการอบรมและเทรนด์วิธีการฉีดให้ปลอดภัยมาก่อนแล้วทุกคน
สรุป
Filorga และ ฟิลเลอร์ใต้ตานั้นมีความแตกต่างกันอย่างมาก ซึ่งหากใครที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำเล็กน้อย และไม่มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึกต่างๆ สามารถฉีด Filorga ได้ แต่หากมีแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะตอบโจทย์ปัญหาได้อย่างครอบคลุมมากกว่า ซึ่งหากหนุ่มๆ สาวๆ คนไหนที่กำลังมองหาคลินิกในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาขอแนะนำที่กังนัมคลินิก คลินิกที่ได้มาตรฐานมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลและให้บริการอย่างใกล้ชิดทุกเคส นอกจากนั้นยังมียี่ห้อฟิลเลอร์ของแท้ให้เลือกหลายยี่ห้อในราคาที่เหมาะสมอีกด้วย ทำกับกังนัมคลินิกปลอดภัย เพิ่มความมั่นใจได้อย่างแน่นอน หากที่สนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบบถามรายละเอียดการรักษาและค่าใช้จ่ายก่อนได้ที่ Line: @gangnamclinic