เลเซอร์ IPL กำจัดขน ยังดีไหม? ให้ผลลัพธ์ต่างจากเลเซอร์ตัวอื่นอย่างไร?
สำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดขน คงจะคุ้นเคยกับการทำเลเซอร์บ้าง ไม่มากก็น้อย และคงเคยได้ยินหรือสัมผัสการเลเซอร์ IPL มาบ้างแล้ว แต่รู้ลึกแล้วจริงหรอว่า เลเซอร์ IPL กำจัดขนดีไหม? ใช้กำจัดขนส่วนไหนได้บ้าง และทำกีครั้งถึงจะเห็นผล ต่างจากเลเซอร์แบบอื่นหรือไม่? วันนี้กังนัมคลินิก จะมาเจาะลึกและไขข้อสงสัยเหล่านี้กัน
IPL ใช้กำจัดขนบริเวณไหนบ้าง
การเลเซอร์ IPL หรือ IPL หรือ Intense Pulsed Light เพื่อกำจัดขน เหมาะกับผู้ที่มีขนเส้นหนา ขนสีเข้ม สามารถกำจัดขนได้ทุกส่วน แต่ที่นิยมมากที่สุดมีดังนี้
- ขนรักแร้
- ขนหน้าแข้ง
- ขนขา
- ขนแขน
นอกเหนือจากบริเวณดังกล่าว เช่น ริมฝีปาก ขาหนีบ บิกินี หรือผิวที่ไวต่อการสัมผัส การทำเลเซอร์ IPL เพื่อกำจัดขน อาจเกิดความรู้สึกเจ็บมากกว่าส่วนอื่น ดังนั้นแพทย์จะต้องปรับความเข้มของแสงให้เหมาะกับสีผิวของแต่ละคน
เลเซอร์ IPL กำจัดขนมีกี่แบบ?
ปัจจุบันการกำจัดขนโดยการเลเซอร์ IPL มีรูปแบบที่เอื้ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้ารับบริการได้เป็นอย่างดี โดยมีให้เลือก 2 รูปแบบดังนี้
แบบทำเองได้ที่บ้าน
เป็นวิธีที่สะดวกสบายรวมถึงเหมาะกับยุคที่เร่งรีบเอามากๆ สำหรับเครื่องเลเซอร์ IPL กำจัดขนที่สามารถทำได้เองที่บ้าน ถูกออกแบบและผลิตออกมาให้มีขนาดกระทัดรัด พกพาได้ มีคุณสมบัติเรียบง่ายที่เหมาะกับการใช้งานได้เอง และปัจจุบันมีให้เลือกหลายยี่ห้อ
ข้อดี-ข้อเสียของวิธีนี้ เหมาะกับใคร
- สะดวกและรวดเร็วไม่เสียเวลาเดินทางไปคลินิก
- ประหยัดเงินค่าเข้าคอร์สทำเลเซอร์กำจัดขนที่คลินิก
- ให้ผลลัพธ์ไม่ชัดเจนเท่ากับทำที่คลินิก
- ให้ผลลัพธ์ที่ช้ากว่าทำที่คลินิก
- ต้องทำซ้ำบ่อยๆ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีและชัดเจน
- ความถี่ที่ต้องเลเซอร์ : 4-5 ครั้ง ในทุกๆ 2 สัปดาห์
- ระยะเวลาของผลลัพธ์ : 3-6 ครั้ง / 1-2 เดือน
- เหมาะกับใคร : การใช้เครื่องเลเซอร์ IPL กำจัดขนเองที่บ้าน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาเดินทางไปคลินิก และต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว หรืออาจจะเคยเข้ารับการเลเซอร์กำจัดขนที่คลินิกมาบ้างแล้ว แต่ต้องการกำจัดขนออกนิดหน่อยด้วยตัวเอง
แบบเข้ารับบริการที่คลินิก
เครื่องมือ IPL ที่ใช้กำจัดขนในคลินิก จะมีคุณภาพความเข้มข้นของแสงที่เข้มข้นสูง และทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำแนะนำ แก้ปัญหาปัญหาขนและสีผิวอย่างเหมาะสมกับแต่ละคน
ข้อดี-ข้อเสียของวิธีนี้ เหมาะกับใคร
- สามารถเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเครื่องมีความเข้มข้นของแสงสูง กว่าเครื่อง IPL ที่ทำที่บ้าน
- ปลอดภัยสูง เนื่องจากควบคุมและดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- อาจเกิดการระคายเคืองผิวได้ จากเครื่องที่มีความเข้มข้นของแสงสูง
- ความถี่ที่ต้องเลเซอร์ : 6 – 8 ครั้ง ทุก 6 สัปดาห์
- ระยะเวลาของผลลัพธ์ : 2-3 ครั้ง /1-2 เดือน
- เหมาะกับใคร : เหมาะกับผู้ที่ต้องการกำจัดขนที่ให้ผลลัพธ์ระยะยาว และถอนขนถึงรากลึก ผู้ที่มีปัญหาขนคุด
เลเซอร์ขน IPL กี่ครั้งเห็นผล?
จำนวนครั้งในการเลเซอร์ IPL เพื่อกำจัดขน การตอบสนองของการรักษาว่าเห็นผลมากน้อยแค่ไหนต่อครั้ง ขึ้นอยู่บริเวณที่ทำ ขนาดและสีของเส้นขน สีผิว อีกทั้งยังต้องใช้ความต่อเนื่องในการเลเซอร์ทุก 4-5 สัปดาห์ โดยเฉลี่ยประมาณ 5-8 ครั้ง หรือในบางรายอาจใช้เวลานานกว่านั้น
กำจัดขนด้วยเลเซอร์ IPL เจ็บไหม?
อาจมีความรู้สึกเจ็บระหว่างการทำเลเซอร์ IPL เพื่อกำจัดขน หรือมีผลค้างเคียงเช่น บวม แดง และสีผิวเข้มขึ้น หรืออ่อนลงได้ แต่อาการทั้งหมดจะหายได้เองเป็นปกติภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังทำ ซึ่งไม่ส่งผลอันตรายใดๆ ต่อผิวหนังทั้งในระยะสั้น และระยะยาว
IPL ช่วยรักษาขนคุดได้ไหม?
การกำจัดขนด้วยการเลเซอร์ IPL นอกจากจะช่วยกำจัดขนลึกถึงรากขนแล้ว ยังสามารถแก้ปัญหาขนคุด ที่เป็นบ่อเกิดของการเกิดผิวรอยดำในอนาคตอีกด้วย นอกจากนั้นยังลดการเกิดปัญหาหนังตุ่มหนังไก่อีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม : ขนคุด คืออะไร? รักษาด้วยวิธีไหนได้ผลดี?
ข้อดี-ข้อเสียของเลเซอร์ IPL
ข้อดีของเลเซอร์ IPL
- ช่วยกำจัดขนได้ถึงต้นตอของเส้นขน
- ทำให้เส้นขนชุดใหม่งอกได้ช้าลง
- ตัวเลเซอร์มีความอ่อนโยนต่อผิวจึงไม่เจ็บ และไม่ค่อยมีผลข้างเคียงหลังทำ
- ใช้ระยะเวลาในการทำแต่ละครั้งไม่นาน
- หลังทำไม่ต้องพักฟื้นร่างกาย
ข้อเสียของเลเซอร์ IPL
- เห็นผลได้ค่อนข้างช้า จะต้องทำหลายๆ ครั้งถึงจะเริ่มเห็นผล
- มีค่าใช้จ่ายที่สูง
- ไม่เหมาะกับคนที่มีเส้นขนหนาและมีผิวที่เข้ม
เลเซอร์ IPL กับ YAG มีจุดเด่น จุดด้อย แตกต่างกันอย่างไร?
สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจทำเลเซอร์กำจัดขน แล้วยังเลือกไม่ถูกว่าจะทำแบบไหนดีระหว่าง เลเซอร์ IPL กับ เลเซอร์ YAG โดยทั้งสองแบบมีข้อแตกต่างกันดังนี้
เลเซอร์ IPL (Intense Pulsed Light)
- กำจัดขนโดย : แสงความเข้มข้นสูง (ลำแสงสเปกตรัม) มีลำแสงที่กว้าง แต่ไม่สามารถเข้าสู่ผิวได้ลึกเท่าการเลเซอร์ YAG
- มีประสิทธิภาพในการกำจัดขน แต่จะต้องทำหลายครั้งมากกว่าการเลเซอร์ YAG
- จุดเด่น : ราคาถูกกว่าการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ชนิดอื่นๆ
- จุดด้อย : ระหว่างทำผิวบริเวณรอบข้างอาจได้รับความระคายเคือง เนื่องจาก IPL มีลำแสงที่กว้าง
- นิยมใช้กำจัดขนบริเวณ : รักแร้ ขา หลัง และใบหน้า
เลเซอร์ YAG (Yttrium Aluminum Garnet)
- กำจัดขนโดย : ยิงเลเซอร์ด้วยความยาวคลื่นหลายระดับ สำหรับการกำจัดขนจะใช้ Long Pulse ND Yag ที่มีความยาว 1,024 นาโนเมตรสามารถลงถึงผิวชั้นลึกได้มากกว่า IPL จึงสามารถกำจัดขนถึงราก ไปจนถึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวได้อีกด้วย
- จุดเด่น : ไม่ต้องทำเลเซอร์ซ้ำหลายครั้งเท่าแบบอื่น เพราะให้ผลลัพธ์ขนหลุดร่วงทันทีหลังทำในครั้งแรก อีกทั้งสาวผิวเข้มก็สามารถทำ YAG ได้เนื่องจากไม่จับสีผิว จึงทำให้ไม่เกิดรอยไห้ม รอยผิวดำหลังทำเท่ากับการทำ IPL อีก
- จุดด้อย : มีอาการแสบร้อน ผิวหนังบวมแดงในบริเวณที่ทำ อาการเหล่านี้จะหายไปภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังทำ
- นิยมใช้กำจัดขนบริเวณ : บริเวณที่มีพื้นที่จำกัด หรือบริเวณที่ต้องเก็บรายละเอียดเล็กๆ ให้หมดจด เช่น ใบหน้า หนวดเครา หรือแม้แต่กำจัดขนบิกนีก็ทำได้ดี
อ่านเพิ่มเติม : เจาะลึก เลเซอร์กำจัดขนถาวร คืออะไร? แบบไหนดี ควรเตรียมตัวอย่างไร?
เลเซอร์ IPL กําจัดขน ทําได้บ่อยแค่ไหน?
สำหรับการกำจัดขนด้วย IPL หากเข้ารับบริการที่คลินิก โดยปกติจะเป็นคอร์ส ต้องใช้จำนวนครั้งในการทำประมาณ 8 ครั้ง ก็จะไม่มีเส้นขนขึ้นบริเวณนั้น และสามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี และเมื่อขนบางๆ เริ่มขึ้นอีก ก็สามารถกลับมาเข้ารับบริการทำ IPL ได้อีกครั้ง
แต่สำหรับการกำจัดขนโดยเครื่อง IPL ที่ทำเองได้ที่บ้าน ต้องใช้ความถี่และต้องทำบ่อยกว่า โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 15-20 ครั้ง ถึงจะเห็นผลลัพธ์ว่าไม่มีขนบริเวณนั้นๆ
IPL กําจัดขน อันตรายไหม มีข้อควรระวังอะไรบ้าง?
แม้ว่าการกำจัดขน IPL โดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวหนังระยะยาว แต่ทั้งนี้ก็ยังมีความเสี่ยงบางอย่างที่อาจเกิดขึ้นได้ หากไม่ดูแลตัวเองหลังเข้ารับบริการอย่างถูกวิธี
- ผิวหนังอักเสบ
การกำจัดขนด้วยเครื่อง IPL หลังทำจะมีผลข้างเคียงทำให้เกิดรอยแดงบริเวณผิวที่ทำได้ และอาจเกิดการอักเสบได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะต้องทำการรักษา และดูแลผิวที่อักเสบเป็นพิเศษ เพื่อที่จะไม่ให้เกิดปัญหาเรื้อรัง และผิวเสียในที่สุด - ผิวไหม้
เป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อยมาก หลังเข้ารับบริการเลเซอร์กำจัดขน IPL เนื่องจากผิวบริเวณที่ทำได้สำผัสกับพลังงานแสงโดยตรง จะทำให้ผิวบริเเวณนั้นบอบบาง และไวต่อสิ่งรบกวนมากที่สุด โดยเฉพาะแสงแดด หากโดนบ่อยๆ หรือโดนแสงแดดแบบแรงๆ อาจจะทำให้ผิวไหม้ในที่สุด - สีผิวไม่สม่ำเสมอ
ในกรณีนี้เกิดขึ้นได้ หากทำโดยแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญในเรื่องของการเลเซอร์ ซึ่งเป็นผลมาจากการเลือกใช้ความเข้มข้นของคลื่นพลังงานมากเกินไป กระตุ้นให้ผลิตเม็ดสีผิวผิดปกติ ทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ เกิดเป็นรอยด่าง ซึ่งเป็นปัญหารักษายาก - ผิวหนังถูกทำลายถาวร
เป็นกรณีต่อเนื่องจากการทำ IPL โดยแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญมากพอ เมื่อเลือกใช้ความเข้มข้นของคลื่นแสงพลังงานมากเกินไป ส่งผลให้ผิวเป็นรอยด่าง หรืออาจร้ายแรงถึงขั้นผิวถูกทำลาย เกิดเป็นแผลเป็นอย่างถาวร - ผิวหนังติดเชื้อ
สำหรับการเข้ารับบริการเลเซอร์ IPL แน่นอนว่าต้องคำนึงถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่นอกจากเลือกใช้ความเข้มข้นของคลื่นพลังงานให้เหมาะกับแต่ละคนแล้ว ยังต้องประเมินผิวของแต่ละคนว่ามีพื้นฐานเป็นอย่างไร เพราะไม่เช่นนั้น อาจมีภาวะผิวหนังติดเชื้อได้ ในผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และผู้ที่เป็นโรคติดต่อทางผิวหนัง เช่นผิวเป็นเริม เป็นต้น
ดังนั้นการเข้ารับการเลเซอร์กำจัดขน IPL จะต้องคำนึงถึงคุณภาพคลินิก แพทย์ที่เชี่ยวชาญ อย่าคำนึงถึงราคาที่ถูกจนเกินไป จนลืมนึกถึงความปลอดภัยของผิว เพราะปัญหาผิวเรื้อรังที่เกิดขึ้น อาจต้องเสียทั้งเงินและเวลาเป็นเท่าตัวในการรักษา
IPL กำจัดขนได้ถาวรไหม?
การกำจัดขนด้วยเครื่อง IPL ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีขนขึ้นบริเวณนั้นอีกเลย 100% เนื่องจากผลลัพธ์จากการรักษาจะทำให้ขนนั้นตายและไม่เกิดขึ้นใหม่อีก แต่ก็ยังมีขนงอกขึ้นใหม่ในบริเวณที่ใกล้เคียงกับบริเวณขนที่ถูกกำจัดไปแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะงอกช้า ต้องใช้เวลาหลังรักษาประมาณ 6-12 เดือน
IPL กำจัดขนหลายครั้งแต่ขนก็ยังไม่หลุดเพราะอะไร?
สาเหตุของการทำ IPL หลายครั้งแล้ว แต่ขนก็ยังไม่หลุด หรือหลุดร่วงออกน้อย ออกไม่มากเท่าที่ควร อาจมีสาเหตุดังนี้
IPL เป็นแสงความเข้มสูง แต่ความยาวของคลื่นสั้น
จึงทำให้พลังงานไม่สูงพอจะทำลายรากขนได้ทั้งหมดอาจจะได้ผลบ้างในไรขนอ่อนๆ บางๆ แต่ถ้าขนดกหนา ผลคือขนบางลงและขึ้นช้าแต่จะไม่หายไปทั้งหมด
ขนที่ถูกกำจัดยังไม่ใช่ขนระยะที่ 4
เส้นขนที่จะถูกเลเซอร์ทำลายได้ดีที่สุดคือระยะที่ 4 ซึ่งมีอยู่ประมาณ 25-30% ของขนทั้งหมด ดังนั้นหากผลลัพธ์ขนยังหลุดออกไม่หมด อาจต้องรอให้เส้นขนอยู่ในระยะที่ 4 ป็นขนที่โตเต็มที่แล้วมีความเข้มของเม็ดสีสูงจะถูกกำจัดไปหมด อาจจะต้องเว้นการเข้ารับการเลเซอร์ไป 1-2 เดือน
แพทย์เลือกใช้ความเข้มข้นของคลื่นพลังงานต่ำเกินไป
ความไม่เชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ให้บริการอาจทำให้ผลลัพธ์ในการทำ IPL ไม่ได้ผล ซึ่งอาจจะเป็นการประเมินความเข้มข้นของคลื่นพลังงานไม่เหมาะกับสีผิว เป็นต้น
เลเซอร์ IPL กำจัดขนมีขั้นตอนอย่างไร?
การเลเซอร์ IPL เพื่อกำจัดขนมีขั้นตอนและหลักการทำงานดังนี้
- ก่อนทำ IPL
แพทย์จะทำความสะอาดผิวบริเวณผิวที่ต้องการกำจัดขน และใช้เจลเย็นหรือยาชาชนิดทา ทาบริเวณที่จะกำจัดขน โดยทิ้งไว้ประมาณ 30-60 นาที ก่อนการทำ IPL โดยผู้ที่เข้ารับบริการเลเซอร์ IPL ต้องสวมแว่นตาสำหรับป้องกันอันตรายจากแสง IPL - ระหว่างทำ IPL
แพทย์จะวางอุปกรณ์สำหรับยิงแสง IPL ไว้บนผิวหนังบริเวณดังกล่าว ซึ่งอุปกรณ์นี้จะปล่อยพลังงานแสงออกมาที่ผิวเพื่อกำจัดขน กระบวนการทำ IPL ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ต่อครั้ง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดและบริเวณที่ต้องการกำจัดขน และระหว่างทำจะมีความรู้สึกเจ็บเล็กน้อย - หลังทำ IPL
เมื่อเสร็จสิ้นการกำจัดขน IPL ผู้เข้ารับบริการสามารถเดินทางกลับบ้านได้ทันที ไม่ต้องพักฟื้น แต่ผิวบริเวณที่ทำอาจมีรอยแดง และระคายเคืองคล้ายถูกแดดเผา อาการระคายเคืองนี้จะหายไปเองหลังจากทำ 2-3 ชั่วโมง และอาจมีอาการบวมเล็กน้อย ซึ่งจะหายเป็นปกติได้เองภายใน 1-2 วัน
การดูแลตัวเองหลังเลเซอร์กำจัดขนด้วย IPL
แม้ว่าหลังการเข้ารับเลเซอร์กำจัดขน IPL จะไม่ต้องพักฟื้น สามารถเดินทางกลับบ้าน หรือไปทำธุระได้ทันที แต่ก็ต้องการวิธีดูแลผิวบริเวณที่ถูกเลเซอร์ด้วยเช่นกัน เพราะผิวบริเวณดังกล่าวจะบอบบางและไวต่อการเกิดระคายเคืองได้ง่าย จึงต้องดูแลดังนี้
- หลีกเลี่ยงการโดนแดดเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ หลังเข้ารับบริการ IPL
- ควรทาผลิตภัณฑ์กันแดดโดยเลือกชนิดที่อ่อนโยนต่อผิวที่แพ้ง่าย
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำด้วยน้ำอุ่น หรือการประคบร้อน จะทำให้ผิวบริเวณที่ทำ IPL จะกลับมามีภาวะปกติเร็วที่สุด
- ในกรณีที่มีอาการบวมแดง อาจใช้เจลว่านหางจระเข้ทาผิวบริเวณนั้นๆ ได้
- ทาครีมบำรุงผิวที่เน้นมอบความชุ่มชื้นให้ผิว เพื่อให้ผิวบริเวณที่ทำ IPL กลับมาเนียนนุ่ม สุขภาพดี หลังจากการทำเลเซอร์ขนได้อีกครั้ง
สรุป
การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ IPL เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่นิยมแพร่หลาย และแทบทุกคลินิกก็มีพร้อมให้บริการ แต่ทั้งนี้ผู้เข้ารับบริการต้องคำนึงถึงคือความปลอดภัยของผิวตัวเอง ดังนั้นนอกจากบริการเลเซอร์ IPLแล้ว ยังต้องคำนึงถึงแพทย์ผู้ที่ทำว่ามีความเชี่ยวชาญมากแค่ไหน