รอยตีนกา คือ? รู้สาเหตุและวิธีรักษาเร็ว ช่วยป้องกันปัญหาหน้าแก่ก่อนวัย
รอยตีนกา หรือริ้วรอยบริเวณหางตาทั้งสองข้าง เป็นปัญหาที่ส่วนใหญ่พบได้เมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจน ในขณะที่ยิ้ม หรือหัวเราะ ทำให้ใบหน้าดูแก่ขึ้นกว่าเดิม เกิดเป็นความกังวลใจ อยากหาวิธีแก้ ซึ่งบทความวันนี้รวบรวมวิธีลดรอยตีนกา เลือกแบบไหน ที่เหมาะกับเรา
สารบัญเนื้อหา
รอยตีนกา คืออะไร
ตีนกา คือ เส้นขีด เส้นพับ ที่ผิวหนังบริเวณหางตาทั้งสองข้าง มีสาเหตุมาจากการสูญเสียคอลลาเจนในชั้นผิวทำให้ผิวเกิดการยุบตัวลงเป็นร่องลึก โดยมักพบได้ในกลุ่มคนวัยผู้ใหญ่ที่เริ่มมีอายุที่มากขึ้น หรือกลุ่มคนที่มีการเสื่อมโทรมของคอลลาเจนในชั้นผิวที่ไวกว่าปกติ
รอยตีนกามีกี่ประเภท?
ในปัจจุบันเราสามารถแบ่งประเภทของรอยตีนกาออกได้เป็น แบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ
1. รอยตีนกาตื้น
เกิดจากการที่ผิวหนังโดนมลภาวะต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่นแสงแดดแรงๆ อากาศเย็นจนผิวแห้ง จะทำให้ผิวบริเวณหางตาเกิดริ้วรอยขึ้นมาเป็นรอยขีดเล็กๆ
2. รอยตีนกาลึก
เป็นปัญหารอยตีนกาที่เกิดจากผิวหนังเสื่อมสภาพด้วยอายุที่มากขึ้น การทำงานของชั้นใต้ผิวเริ่มเสื่อมโทรม หากไม่รีบแก้ไข ริ้วรอยตีนกาเหล่านี้จะค่อยๆ ลึกขึ้น และสร้างความหย่อนคล้อยให้ผิวหนัง
สาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดตีนกา
สำหรับผู้ที่กำลังมีปัญหารอยตีนกา มาเช็กกันก่อนดีไหมว่า สาเหตุและปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เกิดรอยตีนกา เพื่อที่จะได้ทราบและได้หาแนวทางการแก้ไขได้อย่างเหมาะสม
- อายุมากขึ้น
เมื่ออายุมากขึ้น ผิวจะค่อยๆ เสื่อมสภาพ และสูญเสียคอลลาเจน และอีลาสติน จึงทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น และขาดความชุ่มชื้น ซึ่งแน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ตามมาคือผิวบริเวณหางตา จะค่อยๆ เกิดริ้วรอยตื้นๆ และค่อยๆ ลึกขึ้น จนเกิดเป็นริ้วรอยที่มาพร้อมความหย่อนคล้อย ทำให้ผิวหนังย้วยและยาน
- การขยี้ตา
การใช้มือไปสัมผัสบริเวณผิวรอบดวงตาบ่อยๆ ก็มีผลทำให้ผิวหนังเกิดรอยพับ จนเป็นขีดริ้วรอยเริ่มตามมา ซึ่งการพฤติกรรมการสัมผัสถี่ๆ บริเวณรอบดวงตาก็คือ การขยี้ตา นั่นเอง
- การแสดงอารมณ์ทางสีหน้า
เมื่อผิวหนังบนใบหน้าขยับมากๆ จากการแสดงอารมณ์ เช่น การยิ้ม การหัวเราะ หรือแม้แต่การขมวดคิ้ว ร้องไห้จนตาบวม ก็ส่งผลต่อผิวหนังบริเวณรอบดวงตาด้วยกันทั้งสิ้น จึงเป็นสาเหตุเล็กๆ ที่ค่อยๆ สร้างรอยตีนกาขึ้นมาได้เช่นกัน
- ช่วงอายุที่มักจะมีรอยตีนกา
สำหรับรอยตีนกา จะเห็นได้ชัดเจน ในผู้ที่มีอายุ 35 -40 ขึ้นไป และอาจน้อยกว่านั้นหากมีปัจจัยของพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่ดีต่อผิว เช่น การตากแดดแรงๆ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ นอนดึกเป็นประจำ เป็นต้น
- แสงแดดและมลภาวะต่างๆ
ในแสงแดด ทั้งแสง UVA, UVB และฝุ่น มลภาวะต่างๆ ล้วนเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะไปทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว จนทำให้เกิดการเสื่อมโทรมจนชั้นผิวยุบตัวกลายเป็นรอยตีนกาหรือริ้วรอยนั่นเอง
รอยตีนกาสามารถขึ้นบริเวณไหนได้บ้าง?
ริ้วรอยตีนกา หรือริ้วรอยขีดเกิดขึ้นได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า ไม่ใช่เกิดแค่บริเวณหางตาเท่านั้น ซึ่งบริเวณที่เกิดขึ้นได้ง่าย และเห็นได้ชัดเจนมีดังนี้
- ริ้วรอยบนหน้าผาก
- ริ้วรอยระหว่างคิ้ว หางคิ้ว
- ริ้วรอยรอบดวงตา
- ริ้วรอยร่องแก้ม
- ริ้วรอยสันจมูก
- ริ้วรอยร่องมุมปาก หรือที่เรียกกันว่า ร่องน้ำหมาก
รอยตีนกากับความหมายตามหลักโหวงเฮ้ง
การมีรอยตีนกาบนใบหน้านั้นก็จะว่าส่งผลต่อความหมายตามหลังของโหวงเฮ้งได้อีกด้วย ซึ่งตามตำราได้กล่าวไว้ว่าผู้ที่มีรอยตีนกามากกว่า 2 เส้นขึ้นไปจะหมายถึง “คนที่ชีวิตมีแต่ความยุ่งเหยิง มีความเจ้าชู้ อัธยาศัยดี เป็นมิตรต่อผู้คนรอบข้าง”
13 วิธีลดรอยตีนกา
การรักษารอยตีนกา มีหลายวิธีมาก ตั้งแต่สามารถทำเองได้ง่ายๆ สำหรับผู้ที่มีรอยตีนกาไม่มาก ไปจนถึงผู้ที่มีรอยตีนกาเยอะ ต้องใช้วิธีรักษาโดยนวัตกรรม-เทคนิคการแพทย์เข้ามาช่วย เพื่อได้ผลลัพธ์ที่ดี ชัดเจน ในระยะเวลาอันรวดเร็ว หมอจึงรวบรวมวิธีรักษารอยตีนกามาให้ผู้ที่กำลังมีปัญหาทั้งสิ้น 12 วิธีดังนี้
1. ครีมลดริ้วรอยหางตา
วิธีนี้จะเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในการช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น สร้างความยืดหยุ่นและทำให้ผิวกลับมาเต่งตึงขึ้น ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองและมีงานวิจัยบ่งชรี้อย่างมากมายว่าช่วยกู้ปัญหาริ้วรอยได้ดีก็คือ กลุ่มของวิตามินเอ (Vitanim A) หรือเรตินอล (Retinol) เป็นการกลุ่มสารที่สามารถพบได้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์กลุ่ม Anti-Aging
เรตินอลมีจุดเด่นในเรื่องการช่วยผลัดเซลล์ผิว เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการสร้างตัวของเม็ดสี ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แต่แน่นอนว่าการใช้เรตินอลนั้นจะต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะเห็นผล และจะต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังหรือเภสัชกรเนื่องจากตัวเรตินอลมีฤทธิ์ที่ค่อยข้างแรง เสี่ยงต่อการเกิดอาการระคายเคืองผิวได้ง่ายมากๆ
การทาครีมลดรอยตีนกา เหมาะกับใคร
- คนที่ไม่มีเวลาไปเข้าคลินิกความงาม และต้องการเลือกวิธีในการลดรอยตีนกาด้วยตัวเองแบบง่ายๆ
- คนที่มีงบประมาณจำกัด เนื่องจากในปัจจุบันตัวเรตินอลสามารถพบได้เยอะในตลาดกลุ่มสกินแคร์ จึงทำให้มีราคาที่ถูกและเข้าได้ง่าย
2. สครับผิว / พอกหน้าลดริ้วรอย
เป็นอีกวิธีแก้ปัญหารอยตีนกา ที่ทำเองได้ที่บ้าน ด้วยสมุนไพร หรือผลไม้ที่หาซื้อได้ง่าย โดยใช้ผัก ผลไม้ และสมุนไพรที่มีคุณสมบัติฟื้นฟู ลดเลือนรอยตีนกา
วิธีการคือนำมาปั่นให้มีเนื้อหยาบๆ นำมาสครับผิว ด้วยกันค่อยๆ ใช้นิ้วนวดวนบริเวณหางตา หรือจะนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ก็ได้เช่นกัน แต่ให้ปั่นเป็นน้ำละเอียด หรือผสมอย่างอื่น เช่น น้ำผึ้ง โยเกิร์ต ไข่ขาว ให้มีความเป็นน้ำชุ่มชื้น จะเหมาะกับการพอกหน้ามากกว่า
โดยผลไม้ ผัก และสมุนไพร ที่เหมาะกับการนำมาสครับผิว – พอกหน้าเพื่อลดรอยตีนกามีดังนี้
- ว่านนางคำ
- ใบตำลึง
- ใบบัวบก
- แครอท
สครับผิว / พอกหน้า เหมาะกับใคร?
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหารอยตีนกาตื้น หรือริ้วรอยบริเวณรอบดวงตาที่เกิดจากมลภาวะแวดล้อม และการใช้ชีวิตประจำวัน
3. ฉีดโบท็อกลดรอยตีนกา
การฉีดโบท็อกหรือ (Botulinum toxin A) ไปที่บริเวณรอยตีนกา เพื่อไปออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ ให้บริเวณที่เป็นรอยตีนกา ค่อยๆลบเลือนจางลงไปในที่สุด ไม่เพียงเท่านั้น ยังทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตา ตึงกระชับ เรียบเนียนขึ้น ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและเห็นได้ชัดเจนว่าผิวเกิดการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ 4 – 5 วันแรกหลังฉีด และจะแสดงผลลัพธ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพใน 2 สัปดาห์
ฉีดโบท็อกเหมาะกับใคร?
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยก่อนวัย หรือเกิดรอยตีนกาตื้น อันเป็นผลมาจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น โดนแสงแดดจัดอยู่บ่อยๆ นอนดึก ขยี้ตาบ่อย
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า ให้มีความสมดุล เรียบเนียน เรียวสวย และเต่งตึง
- เหมาะกับผู้ที่ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ต้องการคืนความกระชับขึ้น และยังคงความเป็นธรรมชาติ
บทความเพิ่มเติม : โบท็อกหางตา คืออะไร ริ้วรอยลดลง ช่วยให้หน้าเด็กได้จริงหรือไม่
4. ฉีดฟิลเลอร์รักษาริ้วรอย
ลดรอยตีนกาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ลดริ้วรอยหรือสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid เพื่อลดริ้วรอยและชะลอวัยใบบนหน้า อีกทั้งยังเป็นการช่วยยกพยุงผิวให้กลับมาเต่งตึงขึ้น และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับรอบดวงตา และชะลอการเกิดรอยตีนกาอันจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ดีอีกด้วย
ฉีดฟิลเลอร์เหมาะกับใคร?
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหารอยตีนกา ทำให้รอยตีนกาตื้นขึ้น
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก ร่องแก้ม ร่องสันจมูก
- เหมาะกับผู้ที่มีคางสั้น ต้องการฉีดเติมเต็มคางให้ดูเรียวยาว อย่างเป็นธรรมชาติ
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการเติมเต็มความอวบอิ่มของปาก อันเกิดจากปัญหาปากมีริ้วรอย ร่องลึก หรือปากบางเกิน ไม่สมส่วน
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาลดรอยหลุมสิว ทำให้ดูตื้นขึ้น และเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ
5. เลเซอร์ริ้วรอยตีนกา
เป็นแก้ปัญหารอยตีนกาด้วยการยิงพลังงานลงไปใต้ผิวหนัง และต้องยิงซ้ำหลายๆ ครั้ง เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาชัดเจน รอยตีนกาจะค่อยๆ ตื้นขึ้น
การทำเลเซอร์เหมาะกับใคร?
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหารอยตีนกาไม่ลึกมาก
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาริ้วรอยแบบถาวร
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยไปพร้อมๆ กับ สร้างคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวอิ่มฟู เนียนใส
6. ไอฟู (HIFU) แก้รอยตีนกา
สำหรับการทำ Hifu ยกกระชับหน้า เพื่อแก้ไขรอยตีนกา จะเป็นการปล่อยพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง ลงไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้คอลลาเจนเพื่มขึ้น เรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบขึ้น ส่งผลให้ริ้วรอยตีนกาของดวงตาทั้งสองข้างตื้นขึ้น และทำให้ผิวเรียบเนียนในที่สุด เนื่องจากการยกกระชับหน้าด้วย Hifu นั้นมีหลายแบบหมอแนะนำอ่านต่อที่ Hifu มีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร?
HIFU เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีปัญหาผิวแก้มหย่อนคล้อย ร่องแก้มลึกไม่กระชับ
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหลายด้าน และต้องการทำหัตถการอื่นๆ ต่อจากนี้ได้
7. เอ็นโดไทน์หน้าผากลดตีนกา
แก้ปัญหารอยตีนกา ด้วยนวัตกรรมยกกระชับใบหน้า เป็นการศัลยกรรมแผลขนาดเล็กพิเศษ โดยการส่องกล้องและนำการนำเอา Endotine (เอนโดไทน์) ซึ่งเป็นวัสดุทางการแพทย์เข้าไปยึดเหนี่ยวผิวหนังที่มีความหย่อนคล้อย รวมถึงริ้วรอยให้ตึงกระชับขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ เป็นผลดีต่อการฟื้นฟูผิวหนังให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม
เอ็นโดไทน์ เหมาะกับใคร
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าให้เต่งตึงทั่วทั้งใบหน้า
- เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยย่นบนหน้าผาก คิ้วตก รอยตีนกา หางตาตก หนังตาหย่อน ชั้นตาหลบใน แก้มย้อย ผิวหย่อนคล้อยทั้งบริเวณหน้าคอ
8. นวดหน้าสลายตีนกา
การนวดใบหน้า และบริเวณรอบดวงตา เพื่อลดรอยตีนกา มีวิธีการนวดโดยใช้นิ้วมือค่อยๆ คลึงไปบริเวณหางตา และวนไปด้านใดด้านหนึ่งให้รอบผิวหนังดวงตา เพื่อไปกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดการคลายตัวและเรียบเนียนขึ้นโดยใช้ระยะเวลาในการนวดหน้าลดร่องแก้ม ประมาณ 10-20 นาที
นวดหน้า เหมาะกับใคร
- เหมาะกับผู้ที่อายุยังไม่เยอะ และมีปัญหารอยตีนกา หรือริ้วรอยบริเวณรอบดวงตาเพียงเล็กน้อย อันเกิดจากกล้ามเนื้อตาเกร็ง เหนื่อยล้า รอยพับรอยย่นจากการที่ผิวแห้ง โดนแสงแดดจัด
9. กัวซาลดริ้วรอยตีนกา
หินกัวซา ศาสตร์การรักษาโรคของแพทย์แผนจีน ที่นอกจากจะช่วยในเรื่องของสุขภาพร่างกายแล้ว ยังนำมาช่วยในเรื่องของความสวย ความงามบนใบหน้าได้ด้วยเช่นกัน
สำหรับการนวดหินกัวซา เพื่อลดรอยตีนกา ใช้หลักการเดียวกับการนวดหินกัวซา เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือดใต้ผิวหน้า ไปพร้อมๆ กับขับสารพิษใต้ชั้นผิว ซึ่งการเคลียร์ของเสียใต้ผิว และจัดกระบวนการทำงานของผิวให้ทำงานดีขึ้น ก็จะช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น กักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีมากขึ้น ริ้วรอยตีนกาก็จะค่อยๆ ตื้นและดูจางลง
กัวซา เหมาะกับใคร
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้ามีรอยตีนกาเล็ก ๆ จากมลภาวะ หรือแสงแดด
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการพักผ่อนผิวหน้า หรือรีบูทการทำงานของเซลล์ผิวหน้าให้ฟื้นตัวดีขึ้น
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ จากการพักผ่อนไม่เพียงพอ
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าอ่อนแอ จากการโดนมลพิษในชีวิตประจำวัน
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการคืนความสดใสให้กับผิวหน้า
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีใบหน้าเลือดฝาดอย่างเป็นธรรมชาติ
10. Ulthera
ลดรอยตีนกาโดยใช้ คลื่นไมโครโฟกัสอัลตร้าซาวน์ ยิงเข้าสู่ใต้ผิวหนังบริเวณที่มีริ้วรอย เพื่อไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว โดยเครื่องนี้จะมีหัวยิงแบบ 3 ระดับในการส่งคลื่นพลังงานไปยังชั้นผิวที่มีความลึกต่างกัน เพื่อให้พลังงานสามารถลงไปแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและแม่นยำ
Ulthera เหมาะกับใคร
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดรอยตีนกา แต่ไม่ต้องการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า
- เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง เนื่องจาก การทำ Ulthera ไม่จำเป็นต้องทำถี่ เพียงแค่ทำปีละ 1 ครั้ง เพราะผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจยังคงอยู่ได้นาน 1 – 2 ปี
11. Thermage
ลบรอยตีนกาด้วยการใช้ความถี่ของคลื่นวิทยุแบบขั้วเดียว เปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน เข้าไปในชั้นหนังแท้ (Dermis) ไปจนถึงชั้นกล้ามเนื้อ (SMAS) เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนที่เสื่อมสภาพบริเวณรอบดวงตาให้สร้างขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้ผิวมีความยืดหยุ่น รอยตีนกาตื้น แต่ให้ผิวเรียบเนียนเต่งตึง ดูอ่อนกว่าเยาว์
Thermage เหมาะกับใคร
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอยตีนกาปานกลางถึงมาก
- เหมาะกับผู้ที่มีไขมันบนใบหน้าเยอะ และผู้ต้องการคืนความอ่อนเยาว์ทั้งใบหน้าให้กลับมาเต่งตึง ได้รูปที่ชัดเจนขึ้น
12. ผ่าตัดศัลยกรรมลบรอยตีนกา
การผ่าตัดรอยตีนกา คือการผ่าเอากล้ามเนื้อบริเวณหางตา อันเป็นปัญหาหลักของรอยตีนกาออก ไปพร้อมๆ กับตัดเอาผิวหนังที่หย่อนคล้อยออกไปด้วย จึงให้ผลลัพธ์ที่ทำให้ใบหน้าเต่งตึง ยกกระชับมากยิ่งขึ้น
ผ่าตัดศัลยกรรมลบรอยตีนกา เหมาะกับใคร
- เหมาะกับผู้ที่มีรอยตีนกาลึกมาก หรือเป็นผู้ที่มีอายุมาก และต้องการลบตีนกาแบบถาวร ไปพร้อมๆ กับยกกระชับใบหน้าให้ดูอ่อนวัยขึ้น
13. ร้อยไหมฟิลเลอร์ด้วยไหม Volume
คือวิธีการร้อยไหมเข้าไปเพื่อยกกระชับผิวให้มีความเต่งตึงขึ้น พร้อมช่วยปรับริ้วรอย ร่องลึกต่างๆ ให้จางลง ซึ่งความพิเศษของ ไหม Volume คือนอกจากจะช่วยยกกระชับผิวแล้วทำหน้าที่เหมือนฟิลเลอร์ในการช่วยเติมเต็มผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว และเห็นผลได้ยาวนานถึง 8-12 เดือน
ร้อยไหมฟิลเลอร์ด้วยไหม Volume เหมาะกับใคร
- เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอย มีปัญหาหนังตาหรือถุงใต้ตาหย่อนคล้อย และผู้ที่ต้องการร้อยไหมและฉีดฟิลเลอร์เต็มเต็มผิวในคราวเดียวกัน
วิธีดูแลตัวเองเพื่อป้องกันรอยตีนกา
ปัญหารอยตีนกา เป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ง่าย ไม่ต้องเข้ารับหัตถการหรือใช้เทคนิคแพทย์พิเศษ และไม่ต้องเจ็บตัว ดูแลตัวเองเป็นพิเศษจากการผ่าตัดศัลยกรรม ดังนั้นจะดีกว่าไหม ถ้าเริ่มจากการดูแลตัวเองเพื่อป้องกันรอยตีนกา หรือชะลอการเกิดรอยตีนกาที่เกิดเร็ว ให้ช้าลงกว่าเดิม ซึ่งวิธีการดูแลตัวเองมีดังนี้
- บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น สามารถบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ ได้ตั้งแต่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์เป็นหลัก รวมถึงทาครีมกันแดดเป็นประจำ
- ทานอาหาร เลือกทานอาหาร ผัก ผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อผิว ดื่มน้ำสะอาดต่อวันอย่างเพียงพอ
- ทานวิตามิน หากการรับประทานอาหารต่อวันอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการผิว อาจเสริมด้วยวิตามินบำรุงผิว เช่น คอลลาเจน, Astaxanthin, Coenzyme Q10 เป็นต้น
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำ เนื่องจากแสงแดดเป็นอีกปัจจัยหลักๆ ในการทำร้ายผิวให้เกิดปัญหาผิวหมองคล้ำ ผิวไหม้ รวมไปถึงส่งผลให้เกิดริ้วรอย ร่องลึกได้ง่ายอีกด้วย ซึ่งควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปเป็นประจำทุกวัน
- พักผ่อนให้เพียงพอ โดยควรนอนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงขึ้นไปเพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูเซลล์ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนั้นการอดนอนบ่อยๆ จะส่งผลทำให้คอลลาเจนในผิวเสื่อมโทรมจนนำไปสู่ปัญหาริ้วรอยในอนาคตได้
- งดการสูบบุหรี่ เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวนั้นจะทำให้สารนิโคตินในตัวบุหรี่เข้าทำลายคอลลาเจนในชั้นผิวทำให้ผิวเกิดการเสื่อมโทรมและผิวแก่ไวขึ้น
- งดการให้ผิวเผชิญแสงและความร้อน ไม่ว่าจะเป็นแสงไฟ แสงแดด แสงจากหน้าจอคอมหรือมือถือก็ตาม และสิ่งสำคัญควรเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องตากแดดเช่น การอาบแดด การออกกำลังกายกลางแจ้งเป็นต้น
- เลี่ยงการขยี้ตา พฤติกรรมจะทำให้ผิวรอบดวงตาที่มีความบอบบางสูงเกิดการช้ำและนำไปสู่ปัญหาริ้วรอยได้ในอนาคต
สรุป
วิธีลดรอยตีนกา เลือกแบบไหนที่เหมาะกับเรา แม้ว่าจะเป็นหัวใจสำคัญหลักที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แต่อย่าลืมว่าผิวบริเวณรอบดวงตา เป็นผิวที่บอบบาง ดังนั้นนอกจากวิธีที่เหมาะสมแล้ว ยังต้องเลือกคลินิกและแพทย์ผู้ทำหัตถการที่เชี่ยวชาญ ไม่เช่นนั้นอาจให้ผลลัพธ์ออกมาไม่เป็นธรรมชาติ ดวงตาดูแข็ง แน่นอนว่า กังนัมคลินิก ให้ความสำคัญทั้งการเลือกหัตถการที่เหมาะกับลูกค้า ไปจนถึงมีเทคนิคการทำที่แม่นยำ ละเอียด ไม่ยอมให้เกิดปัญหาตามมาอย่างแน่นอน
ดังนั้นแล้ว หากใครที่กำลังมองหาวิธีแก้ปัญหารอยตีนกาสามารถปรึกษาคุณหมอเพื่อเลือกวิธีรักษาให้เหมาะกับรอยตีนกาแต่ละประเภท หรือติดต่อได้ที่ Gangnam clinic ที่มีทั้ง 34 สาขาทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล หรือสามารถแอดไลน์ Line: @gangnamclinic เพื่อนัดหมาย/ ปรึกษา และขอรับบริการ
ขอบคุณข้อมูล : vogue, MedicalNewsToday