รอยแตกลาย เกิดจากอะไร? มีกี่แบบ ใช้วิธีรักษาต่างกันไหม?

ผิวแตกลายถือเป็นปัญหาที่สำคัญสำหรับสาวๆ หลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใด เช่น หน้าอกลาย ขาลาย ท้องลาย สะโพกลาย อาจทำให้สาวๆ ขาดความมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างมาก เพราะจะแต่งตัวสวยๆ โชว์สัดส่วนก็คงจะเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะในชุดว่ายน้ำที่โชว์หลายๆ สัดส่วนพร้อมกัน แต่ในปัจจุบันนี้เราไม่ต้องมาคอยกังวลกับปัญหารอยแตกลายกันแล้วเพราะสามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยหลายวิธีตามรายละเอียดด้านล่างนี้

สาเหตุของ ผิวแตกลาย เกิดจากอะไร?

รอยแตกลายรือที่ทางการแพทย์เรียกกันว่า Stretch Marks เป็นรอยแผลประเภทหนึ่งที่มีสาเหตุมาจากการยืดหรือหดตัวอย่างรวดเร็วของผิวหนัง ส่งผลทำให้คอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินเกิดการแตกตัว จนทำให้เกิดเป็นลักษณะรอยแตกลายเกิดขึ้น ซึ่งในบางรายช่วงการเกิดระยะแรกนั้นจะมักจะมีอาการคันร่วมด้วย

กลุ่มคนที่มักมีโอกาสพบรอยแตกลาย

• สตรีที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์
• ผู้ที่ผ่านการผ่าตัดหน้าอก
• กลุ่มเด็กที่ร่างกายเติบโตอย่างรวดเร็ว
• ผู้ที่น้ำหนักลดหรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
• ผู้มีการออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
• ผู้ที่ใช้สารคอร์ติโคสเตียรอยด์เป็นระยะเวลานาน

รอยแตกลายเป็นอันตรายต่อร่างกายไหม

ปัญหารอยแตกลายถือเป็นเรื่องธรรมชาติที่ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพทางกายแต่อย่างใด เพียงแต่จะมีผลในแง่ของความสวยงามเท่านั้นซึ่งในปัจจุบันวงการแพทย์ก็ได้มีวิธีเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการช่วยลบรอยแตกลายเพื่อสร้างความมั่นให้แก่ผู้เป็นอยู่หลายวิธีด้วยกัน

รอยแตกลาย มีกี่ประเภท

ก่อนที่จะไปดูวิธีการลบรอยแตกลาย ควรจะรู้ก่อนว่ารอยแตกลายมีทั้งหมด 4 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะใช้วิธีการรักษาที่แตกต่างกันไป

1. แตกเป็นรอยแดง (Striae Rubra) ลักษณะนี้จะเป็นรอยแตกลายใหม่ที่เพิงเกิดขึ้นใหม่ เกิดจากการยืดตัวของผิวหนังที่รวดเร็วเกินไป โดยบางครั้งรอยแตกลายอาจมีรอยแดงหรือสีม่วงก็ได้ ลักษณะของรอยจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน โดยรอยแตกลายแดงนั้นสามารถการรักษาได้ง่ายกว่ารอยแตกลายขาว
2. แตกเป็นรอยขาว (Striae Alba) ลักษณะนี้จะเป็นรอยแตกลายเก่า หรือ เป็นรอยแตกลายที่เกิดขึ้นมานานแล้ว เป็นรอยแตกลายที่ถูกพัฒนามาจากรอยแตกลายสีแดง ซึ่งการรักษารอยขาวนี้ ทำได้ค่อนข้างทำได้ยากกว่าลักษณะแผลที่แตกเป็นรอยแดง
3. รอยแตกลายที่มีลักษณะเป็นลายเส้นขนานจากการยืด (Striae distensae) มักพบในคนที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
4. รอยแตกลายที่มีลักษณะเป็นลายเส้นขนานโดยมีอาการผิวฝ่อ (Striae atrophicans) หรืออาการของหน้าท้องแตกลายหลังคลอด ที่มักพบในคุณแม่ และคนที่มีการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัวอย่างรวดเร็ว

วิธีลดรอยแตกลาย ให้ได้ผลแบบธรรมชาติ

ทาครีมลดรอยแตกลาย

การทาครีมบำรุงผิวเพื่อลดผิวแตกลาย เป็นวิธีรักษารอยแตกลายวิธีแรก ๆ ที่ทุกคนนึกถึง โดยให้เน้นการทาครีมบำรุงที่มีความเข้มข้นสูงหรือครีมที่มีส่วนผสม Tretinoin ซึ่งเป็นส่วนผสมของ Retinoids (วิตามินเอ) ในบริเวณผิวแตกลายทุกวันเป็นประจำก่อนนอนและในตอนเช้า หรือทาทุกครั้งหลังอาบน้ำ เพื่อช่วยลดและป้องกันการเกิดรอยแตกลายที่ผิวหนัง จะช่วยให้รอยแตกลายใหม่ๆ จางลงได้

เรตินเอ (Retin-A) ลดรอยแตกลาย

รักษาด้วย Retin-A ซึ่งมีกรดวิตามินเอเป็นส่วนประกอบสำคัญ จึงสามารถแก้ปัญหาผิวได้เป็นอย่างดี ทำงานโดยการฟื้นฟูคอลลาเจนซึ่งเป็นโปรตีนเส้นใยที่ช่วยให้ผิวของคุณมีความยืดหยุ่น ควรใช้ครีมนี้กับรอยแตกลายที่มีลักษณะเป็นสีแดงหรือชมพู โดยครีมประเภทนี้ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากอาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย

สครับผิวแตกลาย

เป็นอีกวิธีที่ช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปและกระตุ้นเซลล์ผิวหนังใหม่ให้ขึ้นมาทดแทนผิวเดิม จึงสามารถช่วยลดรอยแตกลายให้จางลงได้ โดยสูตรสครับควรเลือกส่วนผสมที่มีกรด AHA / BHA มีฤทธิ์ในการขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว แต่ไม่ควรทำบ่อยนะคะ การรักษาด้วยวิธีนี้ต้องใจเย็น ๆ เพราะการสครับผิวบ่อยจะทำให้เกราะป้องกันผิวไม่แข็งแรง บางทีอาจจะได้ผลลัพธ์ที่แย่กว่าเดิม

กรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี (Microdermabrasion)

เป็นกลไกในการซ่อมแซมผิว เน้นการเผยผิวใหม่ที่มีความยืดหยุ่น และสุขภาพดี โดยการอาศัยเทคนิคการพ่นอณู crystal ของอลูมิเนียมออกไซด์ที่ผ่านการฆ่าเชื้อโรคแล้วลงบนผิวหนังด้วยความเร็วสูง เพื่อกรอผิวหนังในระดับความลึกของชั้นขี้ไคลและ หนัง กำพร้าส่วนบนซึ่งประกอบด้วยเซลล์ผิวหนังที่เสื่อมสภาพและเม็ดสีส่วนเกินให้หลุดออกไป พร้อม กระตุ้น ให้ร่างกายสร้างเซลล์ผิวขึ้นใหม่ขึ้นทดแทน

เมโสลดรอยแตกลาย

เมโสเธอราพี (Mesotherapy) ทำโดยการใช้เข็มเล็กๆ ฉีดตัวยาเข้าไปในชั้นผิวเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสมานรอยแตกลายของชั้นผิวหนัง ฟื้นฟูความแข็งแรงของเซลล์ผิวใหม่ เพิ่มความชุ่มชื่น ช่วยป้องกัน และซ่อมแซมรอยแตกลายโดยการสร้างคอลลาเจนธรรมชาติใต้เซลล์ผิว และอีลาสตินเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ชั้นผิวมีความกระชับ เรียบเนียนมากขึ้นทำให้รอยแตกลายดูจางลง และยังช่วยแก้ปัญหาผิวเปลือกส้มได้ด้วย

เลเซอร์รอยแตกลาย

วิธีการรักษานี้จะเหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ปัญหานี้หายไปอย่างรวดเร็ว มีทั้งเลเซอร์แบบช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ปรับสีรอยแตกลายให้ใกล้เคียงกับสีผิวปกติ เลเซอร์สร้างผิวใหม่ และเลเซอร์แบบรักษารอยแดงหรือรักษาความผิดปกติของเส้นเลือด โดยเครื่องเลเซอร์ที่ที่แนะนำคือ

• V-Beam Laser เป็นเลเซอร์ที่เหมาะกับรอยแตกลายแดง สามารถช่วยกำจัดเส้นเลือดแดงโดยควรทำติดต่อกัน 3 – 5 ครั้งเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
• Fraxel Laser สำหรับรอยแตกลายที่เกิดมานานแล้วหรือรอยแตกลายขาว ควรทำติดต่อกันประมาณ 3 – 5 ครั้ง ถึงจะเห็นผลได้ชัด
• Picoway Laser เป็นเครื่องเลเซอร์ที่ใช้หน่วยค่าพลังงาน Picosecond ที่จะมีความเร็วและค่าพลังงานที่สูงทำให้สามารถลบรอยแตกลายได้ทุกประเภท ทุกสี และเห็นผลได้อย่างรวดเร็วกว่าเครื่องเลเซอร์เครื่องอื่นๆ

ผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดผลไม้ (Chemical Peel)

เป็นการเร่งให้ผิวหนังหลุดลอกออกเร็วขึ้น โดยการใช้สารเคมีทาลงไปที่ผิวหนัง อาทิ กรดผลไม้ AHAs, BHAs, PHA,และ TCA ที่มีความเข้มข้นแตกต่างกัน สารเคมีนี้จะก่อให้เกิดแผลขึ้นที่ผิวหนัง ซึ่งเป็นแผลที่เราจะต้องควบคุมได้ จากนั้นร่างกายเราก็จะเร่งขบวนการซ่อมแซมทำให้เกิดผิวหนังใหม่ตามมา ผลที่ได้รับคือ ผิวจะเรียบเนียน ขาวใส โครงสร้างผิวดีขึ้น ทั้งริ้วรอยและร่องผิวก็ตื้นขึ้น

Dermaroller

เป็นวิธีการรักษาที่ช่วยทำลายพังผืดที่หลุมบนผิวหรือรอยที่เป็นปัญหา ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง จึงสามารถช่วยทำให้การรักษาอาการหน้าท้องลายมีประสิทธิภาพที่ดีและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงใด ๆ และโดยมากแล้วจะนำมาใช้ควบคู่ไปกับตัวยาหรือเซรั่มบำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิว จึงช่วยทำให้ตัวยาซึมผ่านผิวหนังได้ดีขึ้น แต่ต้องทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอทุก ๆ 2 สัปดาห์ ติดต่อกันประมาณ 5 – 6 ครั้ง จึงจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น

คลื่นวิทยุ RF กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

เป็นการใช้พลังงานความร้อนถึงผิวชั้นหนังแท้ เพื่อกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนและอิสลาสติน ช่วยให้ผิวได้ฟื้นฟูตัวเอง ทำให้รอยแตกลายดูจางลงและผิวดูเนียนขึ้น นอกจากช่วยเรื่องรอยแตกลายแล้วยังสลายไขมันได้ดีอีกด้วย

Oxy Peel

การใช้นวัตกรรมรูปแบบใหม่ในการรักษารอยแตกลาย ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องเจ็บตัว เป็นการใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในการช่วยขจัดเซลลูไลท์ ขจัดรอยแตกลาย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นี้จะอยู่ในรูปแบบของเจลทาผิวแทน และมีมาร์คเป็นตัวช่วยทำปฏิกิริยากับชั้นผิว โดยจะใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ช่วยลดรอยแตกลายบนผิวหนัง จุดเด่นคือเห็นผลทันทีตั้งแต่ครั้งแรกว่ารอยแตกลายดูจางลง และยังช่วยลดเซลลูไลท์บนผิวได้ด้วย
ทำ IPL เป็นเทคนิคการใช้แสงความเข้มสูง นำมายิงบริเวณผิวที่เป็นรอยแตก วิธีนี้จะได้ผลดีกับรอยแตกในระยะแรกที่มีสีแดง หากเป็นรอยแตกในระยะหลัง ๆ มักจะไม่ได้ผล และต้องทำอย่างน้อย 5 ครั้ง (ห่างกันครั้งละ 2 สัปดาห์) ให้ผลรอยแตกลายจางลงประมาณ 30 – 50 % ขึ้นอยู่กับระยะของรอยแตกที่เป็น

Carboxytherapy

เป็นวิธีแก้รอยแตกลายด้วยการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปที่ชั้นหนังแท้ตามแนวร่องแตกลายของผิวหนัง เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวทำให้ผิวตึงกระชับขึ้น ทำให้รอยแตกลายดูจางลง แต่การรักษาด้วยวิธีนี้จะต้องทำอย่างน้อย 3 – 5 ครั้ง ติดต่อกันทุก ๆ 1 สัปดาห์ ซึ่งวิธีนี้จะใช้ได้ผลประมาณ 30 – 60 % หรือไม่ได้ผลเลยในบางราย

Microneedling

เป็นวิธีการใช้เข็มขนาดเล็กเจาะลงไปในผิวหนังเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและผลิตอีลาสติน วิธีนี้จะให้ความรู้สึกเจ็บเพียงเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น และเมื่อไม่รู้สึกเจ็บแล้วก็จะสังเกตเห็นได้ว่ารอยแตกลายจะดูจางลง โดยวิธีนี้เป็นที่ยอมรับการอย่างแพร่หลายในแวดวงความงาม รวมถึงยังได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) แล้วว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการรักษารอยแตกลาย สามารถช่วยลบเลือนรอยแตกลายได้ภายใน 4 สัปดาห์

สมุนไพรพอกผิวแตก

เป็นการใช้วุ้นสีขาวจากว่านหางจระเข้ที่ล้างยางออกแล้ว นำมาทาบริเวณผิวแตกลายเป็นประจำทุกเช้าและเย็น ซึ่งจะช่วยทำให้รอยแตกลายนั้นค่อย ๆ ดูจางลงได้

การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันรอยแตกลาย

การป้องกันรอยแตกลายไม่สามารถป้องกันได้ 100% แต่มีหลายวิธีที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดรอยแตกลายหนักได้ หรือช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดผิวแตกลายเท่านั้น โดยสามารถทำได้ดังนี้

• ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวด้วยการทามอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำ
• ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ HA, Vitamin A หรือ Tretinoin ในการรักษา (อยู่ในการดูแลของแพทย์)
• ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ไม่ปล่อยให้อ้วนจนเกินไปสามารถประเมินได้จากค่า BMI
• ดื่มน้ำเปล่าเป็นประจำ 1.5 – 2 ลิตร ทุกวัน เพื่อป้องการผิวแห้งจากการสูญเสียน้ำ
• หลีกเลี่ยงการอดอาหาร หรือกินยาลดน้ำหนัก เพราะทำให้เสี่ยงเกิดการโยโย่
• สครับขัดผิว ให้มีการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว อาทิตย์ละ 1 – 2 ครั้ง
• เลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ โดยเฉพาะวิตามินซี วิตามินเอ สังกะสี และซิลิคอน จะช่วยเสริมสร้างผิวให้แข็งแรง
• หากอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงอาหารแคลอรี่สูง ที่อาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

รอยแตกลายสามารถรักษาให้หายได้หรือไม่

จริงๆ แล้วตามหลักทางการแพทย์นั้นพวกปัญหารอยแตกลายนั้นไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ปัจจุบันก็มีนวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆ ที่สามารถช่วยรักษาให้รอยแตกลายดูจางลงขึ้นได้เช่น การทำเลเซอร์เป็นต้น

การรักษารอยแตกลาย แบบเร่งด่วน ด้วย Picoway ที่กังนัมคลินิก

ด้วยมาตรฐานการให้บริการที่ดีที่สุดแบบสไตล์เกาหลี กังนัมคลินิก พร้อมให้บริการเลเซอร์รอยแตกลาย ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย PICOWAY เลเซอร์ที่มาพร้อมกับนวัตกรรม Fractional Laser ในการรักษาผิวด้วยเลเซอร์ที่ช่วยให้ดูอ่อนวัยลง การรักษาด้วยวิธีนี้ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่าแฟรคชันนัล โฟโตเธอร์โมไลซิส (fractional photothermolysis) ซึ่งรักษาผิวทีละส่วนโดยไม่มีการรบกวนเนื้อเยื่อที่อยู่รอบๆ เนื่องจากเลเซอร์สามารถแทรกลงไปยังเนื้อเยื่อผิวหนังชั้นแท้ (dermis) ทำให้เหมาะสำหรับผิวทุกประเภทและทุกสีผิว อีกทั้งที่กังนัมคลินิก ยังให้บริการด้วยมาตรฐานเกาหลีจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านความงาม คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับการบริการที่ดีที่สุด ในราคาที่จับต้องได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาบินไปไกลถึงประเทศเกาหลีแน่นอน

ราคาค่ารักษารอยแตกลาย

กังนัมคลินิก ยังเปิดให้คุณได้เลือกใช้บริการเลเซอร์รอยแตกลายในแบบตารางนิ้ว บนพื้นผิวที่มีปัญหาโดยมีราคาเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท/ครั้ง อีกด้วยและนั่นคุณจะได้รับการบริการที่ดีที่สุดในแบบมาตรฐานเกาหลีที่คุณไว้วางใจแน่นอน

รีวิว รักษารอยแตกลายด้วยเลเซอร์

สรุป รักษารอยแตกลายด้วยวิธีไหนดี

สาวๆ ทุกคน ต่างก็อยากมีผิวที่เรียบเนียนสวยไร้รอยแตกลายกันทั้งนั้น การที่เรามีรอยแตกลายบนผิวหนังเป็นเรื่องธรรมชาติ สามารถแก้ไขหรือรักษาได้ อย่าให้ปัญหารอยแตกลายมาทำให้เราหมดความมั่นใจ การรักษารอยแตกลายให้หายทำได้ด้วยหลายวิธีด้วยกัน สำหรับคนที่มีปัญหารอยแตกลายอยู่ ก็สามารถเลือกวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะกับตัวเองได้ ส่วนใครที่อยากรักษารอยแตกลายบนผิวหนังให้ได้ผลลัพธ์ที่เห็นผลชัดเจน แนะนำให้ไปปรึกษาได้ที่กังนัมคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึษาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในการรักษาที่ดีสุด

อ้างอิงจาก

Bronwen Watson : Types of stretch marks
https://www.mymed.com/health-wellness/interesting-health-info/how-to-get-rid-of-stretch-marks/types-of-stretch-marks
ทำความรู้จักกับการขัดผิวด้วยผงผลึกแร่ (Microdermabrasion)
https://www.pobpad.com//ทำความรู้จักกับการขัดผ/
What You Should Know About Carboxytherapy
https://www.healthline.com/health/carboxytherapy