ฟิลเลอร์จีน Biohyalux ดีไหม เหมาะกับใครบ้าง

ฟิลเลอร์ Biohyalux เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อฟิลเลอร์ยี่ห้อใหม่ในวงการความงามไทย ที่ใครหลาย ๆ คนต่างก็ให้ความสนใจว่า Biohyalux filler นั้นคืออะไร ฉีดแล้วดีไหม มีกี่รุ่นเหมาะกับใคร และมีราคาค่าใช้จ่ายอยู่เท่าไหร่ รวมไปถึงประเด็นที่อยากทราบถึงว่ารีวิวผลลัพธ์นั้นดีมากน้อยแค่ไหนควรค่ากับการเลือกฉีดหรือไม่ ในบทความนี้เราได้รวมข้อมูลประเด็นสําคัญต่าง ๆ มาไว้ให้แล้ว

ฟิลเลอร์ Biohyalux คืออะไร

ฟิลเลอร์ BIOHYALUX (ไบโอไฮยาลักซ์) เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์ที่มาจากประเทศจีน ที่มีส่วนประกอบหลักอย่างสาร Hyaluronic Acid (กรดไฮยาลูรอนิก) หรือ HA จึงเป็นส่วนช่วยสําคัญอย่างในการช่วยเติมเต็มผิว แก้ริ้วรอย ปรับรูปหน้า และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้ทันทีหลังฉีด

ด้วยความพิเศษที่ว่า Biohyalux filler นั้นผลิตขึ้นโดย Bloomage Biotech บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตกรดไฮยาลูรอนิกมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปีซึ่งถือเป็นบริษัทที่มีศูนย์งานวิจัยอยู่ในหลายประเทศทั่วโลกดังนั้นหลาย ๆ แบรนด์ความงามต่างให้ความไว้วางใจเป็นอย่างมาก ส่งผลทําให้ฟิลเลอร์ Biohyalux กลายเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความไว้วางใจจากหลาย ๆ ประเทศนั่นเอง

คุณสมบัติเด่นของฟิลเลอร์

หากจะให้พูดถึงเรื่องของคุณสมบัติเด่น คุณสมบัติสําคัญของฟิลเลอร์ Biohyalux นั้นก็คงจะเป็นในส่วนของเนื้อฟิลเลอร์ที่เป็นในรูปแบบลักษณะ Cross-Linked เนื่องจากว่ามาจากกระบวนการผลิตที่มีการใช้เทคโนโลยีสําคัญอย่าง Biobalance Technology (ไบโอบาลานซ์ เทคโนโลยี) เข้ามาช่วย ส่งผลให้เนื้อฟิลเลอร์มีลักษณะที่ยืดหยุ่น มีโครงสร้างโมเลกุลเป็นแบบ 3D Network จึงทําให้เนื้อฟิลเลอร์มีความคงทนสูง และขึ้นรูปได้ดี นอกจากนั้นยังมีการปรับปรุงเนื้อฟิลเลอร์ให้ช่วยรักษาสภาพเซลล์ผิวให้คงเดิมจึงทําให้ฉีดแล้วแทบไม่เกิดอาการบวมเกิดขึ้น

ฟิลเลอร์ Biohyalux ดีไหม ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังจากที่ฉีดเสร็จ
ไม่ค่อยเกิดอาการบวมหลังฉีดหรือเกิดขึ้นน้อย
ช่วยลดโอกาสการแพ้ฟิลเลอร์ได้เป็นอย่างดี
เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นคงทน เห็นผลได้ยาวนาน
สามารถใช้ฉีดได้ทั้งการแก้ปัญหาผิว หรือฉีดปรับสัดส่วนของใบหน้า
ฉีดแล้วจะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์ Biohyalux มีทั้งหมดกี่รุ่น

ซึ่งตัวฟิลเลอร์ Biohyalux เองก็ถือว่าได้มีการออกมาทั้งหมดถึง 4 รุ่นเพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวสภาพต่าง ๆ โดยแต่ละรุ่นนั้นจะมีความแตกต่างกันหลัก ๆ เลยในเรื่องของลักษณะเนื้อฟิลเลอร์ที่มีความหนืด เหลวไม่เท่ากันดังนี้

1. BIOHYALUX Fine Line (กล่องฟ้า)

รุ่นนี้เหมาะใช้สําหรับการฉีดแก้ปัญหาผิวในผิวชั้นตื้น เช่น ริ้วรอยเล็ก ๆ ฉีดใต้ตา ฉีดริ้วรอยหน้าผาก ฉีดปรับผิวให้มีความเรียบเนียนและชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น

2. BIOHYALUX LIPS (กล่องชมพู)

รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการฉีดปากโดยเฉพาะโดยจะสามารถช่วยในการยกมุมปาก และเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปากได้อย่างเป็นธรรมชาติ

3. BIOHYALUX DERM LINES (กล่องม่วง)

เป็นรุ่นที่เหมาะกับการใช้ฉีดในชั้นผิวระดับลึกปานกลาง เช่น ร่องน้ําหมาก ร่องแก้ม ริ้วรอยระหว่างคิ้ว รอยตีนกา เติมขมับและแก้ปัญหาแก้มตอบได้เป็นอย่างดี

4. BIOHYALUX DEEP DERMIS (กล่องทอง)

รุ่นนี้เหมาะกับการฉีดในผิวชั้นลึก ฉีดเพื่อช่วยปรับยกกระชับผิวหรือฉีดปรับสัดส่วนของใบหน้าที่ต้องมีการปั้นทรงเช่น จมูก คาง ปรับกรอบหน้าเป็นต้น

Biohyalux filler แต่ละรุ่นอยู่ได้นานแค่ไหน

และด้วยความที่ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นนั้นจะมีลักษณะความหนืด เหลวของเนื้อที่แตกต่างกันออกไปนั้นส่งผลทําให้มีระยะเวลาการเห็นผลที่แตกต่างกันอีกด้วย ดังนี้

BIOHYALUX Fine Line อยู่ได้นานประมาณ 6–9 เดือน
BIOHYALUX LIPS อยู่ได้นานประมาณ 6–9 เดือน
BIOHYALUX DERM LINES อยู่ได้นานประมาณ 9–12 เดือน
BIOHYALUX DEEP DERMIS อยู่ได้นานประมาณ 9–12 เดือน

ใช้ฉีดตําแหน่งไหนได้บ้าง

สําหรับตัวฟิลเลอร์ Biohyalux นั้นก็ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อฟิลเลอร์ที่สามารถใช้ฉีดแก้ปัญหาผิวได้หลายจุด ดังนี้

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ
ฉีดฟิลเลอร์ริ้วรอยใต้ตา
ฉีดฟิลเลอร์จมูก
ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ฉีดฟิลเลอร์ร่องน้ําหมาก
ฉีดฟิลเลอร์ปาก
ฉีดฟิลเลอร์คาง
ฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า

ฟิลเลอร์ Biohyalux เหมาะกับใครบ้าง

ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึก รอยตีนกา
ผู้ที่มีปัญหาใต้ตาลึก ตาโบ๋ ใต้ตาดําคล้ำ
ผู้ที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อย
ผู้ที่ต้องการปรับสัดส่วนของใบหน้าเช่น เสริมปากให้อวบอิ่ม เสริมคางให้ยาวขึ้น เสริมสันจมูก
ผู้ที่ต้องการปรับผิวให้เรียบเนียน
ผู้ที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว

ฟิลเลอร์ Biohyalux ปลอดภัยหรือไม่

ในเรื่องของความปลอดภัยนั้นไม่ต้องกังวลได้เลยเนื่องจากว่าฟิลเลอร์ Biohyalux นั้นได้ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากอย.ไทยแล้วทุกรุ่น นอกจากนั้นยังผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากอย. หลายประเทศอีกด้วย เช่น ประเทศอเมริกา เป็นต้น

นอกจากนั้นด้วยตัวบริษัทผู้ผลิตเองก็ถือว่าเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการผลิตกรดไฮยาลูโรนิค แอซิดมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี จึงทําให้ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของตัวฟิลเลอร์ Biohyalux

ผลข้างเคียงหลังฉีดมีอะไรบ้าง

เนื่องตัวด้วยฟิลเลอร์ Biohyalux นั้นมีการใช้เทคโนโลยีการผลิตที่พิเศษที่สามารถทําให้เนื้อฟิลเลอร์อยู่ในสถานะ Isotonic คือการที่เนื้อฟิลเลอร์มีส่วนช่วยรักษาสภาพเซลล์ผิวให้คงเดิมหลังฉีด จึงทําให้ช่วยลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงขึ้นได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็อาจเกิดขึ้นผลข้างเคียงขึ้นได้เช่นกัน เช่น

อาการบวมเล็กน้อย
มีรอยแดง รอยเข็ม
มีอาการปวดระบมในจุดที่ฉีด

ซึ่งถือเป็นอาการปกติที่พบได้ทั่วไปและสามารถหายไปเองภายใน 2-3 วันหลังฉีด โดยคนไข้สามารถทานยาแก้ปวดหรือการประคบเย็นเพื่อช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้เบื้องต้น

วิธีเช็ค ฟิลเลอร์ Biohyalux ของแท้

มีเอกสารกํากับเป็นภาษาไทย
มีการระบุเลขทะเบียนอย.
มีการระบุเลขลอตที่ผลิตที่สติกเกอร์คิวอาร์โค้ด
มีคิวอาร์โค้ดที่สามารถสแกนเพื่อตรวจสอบสถานะของฟิลเลอร์แต่ละกล่องได้ โดยหากสแกนเข้าไปแล้วจะพบข้อมูลรายละเอียด ดังนี้
a. มีการระบุเลขลอตที่ผลิตซึ่งเป็นเลขชุดเดียวกับที่สติกเกอร์คิวอาร์โค้ด
b. มีการแจ้งวันเดือนปีที่ผลิตและวันหมดอายุ
c. มีรายละเอียดช่องทางการติดต่อทางบริษัทผู้จัดจําหน่าย
d. มีการขึ้นข้อความว่า “สินค้านี้ยังไม่ถูกเปิดใช้งาน” ปรากฏขึ้น

Biohyalux filler ต่างกับยี่ห้ออื่น ๆ อย่างไร

แน่นอนว่าในปัจจุบันเรามียี่ห้อฟิลเลอร์ให้เลือกด้วยกันมากมายหลายยี่ห้อ โดยแต่ละยี่ห้อก็จะมีการใช้เทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่างกันออกไปส่งผลทําให้เนื้อฟิลเลอร์ต่างกัน และมีอายุการใช้งานที่ต่างกันอีกด้วย โดยเราจะขอเปรียบเทียบกับอีก 4 ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ทางกังนัมคลินิกมีให้บริการ ดังนี้

1. ฟิลเลอร์ Restylane (จากประเทศสวีเดน) ผลิตขึ้นโดย 2 เทคโนโลยีสําคัญอย่าง NASHA Technology และ OBT Technology ปัจจุบันมีทั้งหมด 8 รุ่น สามารถเห็นผลได้ประมาณ 6-18 เดือนขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้

2. ฟิลเลอร์ Juvederm (จากประเทศอเมริกา) ใช้ 2 เทคโนโลยีในการผลิตอย่าง Hylacross และ Vycross Technology ปัจจุบันมีทั้งหมด 6 รุ่น สามารถเห็นผลได้ประมาณ 8-24 เดือน

3. ฟิลเลอร์ Belotero (จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์) ผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีพิเศษอย่าง CPM Technology ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 5 รุ่นหลัก ๆ อยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน

4. ฟิลเลอร์ Neuramis (จากประเทศเกาหลี) ผลิตมาจาก Shape Technology ปัจจุบันมีทั้งหมด 3 รุ่นหลัก ๆ ที่ผ่านอย.ไทยอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี : แนะนำ 5 ตัวท็อป ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ปลอดภัยผ่าน อย. ไทย 2024

ฟิลเลอร์ Biohyalux ราคาเท่าไหร่

อย่างที่หลาย ๆ คนต่างทราบกันดีว่าราคาฉีดฟิลเลอร์ของแต่ละคลินิกนั้นจะมีราคาที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิก แต่โดยส่วนใหญ่แล้วราคาค่าฉีดฟิลเลอร์ Biohyalux นั้นจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 7,000 บาทต่อ 1 CC ขึ้นไป

คําถามเพิ่มเติม

ฉีดร่วมกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นได้ไหม

การฉีดฟิลเลอร์ Biohyalux คนไข้สามารถฉีดร่วมกันฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ได้ตามปกติ แต่ในกรณีเป็นการฉีดในตําแหน่งเดิมที่เคยฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นก่อนหน้านั้นควรจะรอให้ฟิลเลอร์เดิมสลายจนหมดเสียก่อน หรือใช้วิธีการฉีดสลายฟิลเลอร์ก่อนค่อยฉีดฟิลเลอร์ Biohyalux เข้าไปใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์ตีกันจนอักเสบได้

ฉีดแล้วมีโอกาสเป็นก้อนไหม

ในการฉีดฟิลเลอร์นั้นไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อไหน ๆ ก็มีโอกาสเกิดฟิลเลอร์เป็นก้อนขึ้นได้ทั้งนั้นหากฉีดกับหมอที่ไม่มีประสบการณ์ ทําให้คํานวณปริมาณฟิลเลอร์ได้ไม่แม่นยํา ฉีดในชั้นผิวที่ผิด หรือเลือกใช้รุ่นฟิลเลอร์ผิดจุด ดังนั้นก่อนฉีดจึงควรศึกษาผลงานและความเชี่ยวชาญของหมอผู้ฉีดให้ถี่ถ้วนก่อนทุกครั้ง

ฉีดแล้วแพ้ควรทํายังไง

ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ Biohyalux แล้วแพ้นั้นมักมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก ๆ และโดยส่วนใหญ่มักเกิดกับคนที่มีประวัติการแพ้สารไฮยาลูรินิคร่วมด้วย ซึ่งหากฉีดไปแล้วพบว่ามีอาการแพ้เช่น มีอาการบวมแบบผิดปกติให้รีบเข้าพบแพทย์ผู้ฉีดเพื่อทําการฉีดสลายฟิลเลอร์อย่างโดยเร็วที่สุด

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการแพ้ฟิลเลอร์ : อาการแพ้ฟิลเลอร์ มีลักษณะอย่างไร พร้อมแนะนำวิธีสังเกต

สรุป

ฟิลเลอร์ Biohyalux เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อฟิลเลอร์ที่กําลังเป็นที่สนใจอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้เป็นฟิลเลอร์จากประเทศจีนที่ผลิตขึ้นโดยบริษัทผู้เชี่ยวชาญการผลิตกรดไฮยาลูรอนิค เอซิดมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี ทําให้ฟิลเลอร์ Biohyalux กลายเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความไว้วางใจหลายแพทย์หลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ซึ่งในปัจจุบันมีทั้งหมด 4 รุ่นและแต่ละรุ่นล้วนผ่านอย.ไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สําหรับลูกค้าท่านใดที่อยากสอบถามข้อมูลหรือสนใจเกี่ยวกับหัตถการฉีดฟิลเลอร์กับทางกังนัมคลินิกสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Line : @gangnamclinic หรือได้ที่กังนัมคลินิกทุกสาขา