ฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร? Botox แต่ละจุดช่วยเรื่องอะไรบ้าง? มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร?
ในปัจุบันการฉีดโบท็อกไม่ได้จำกัดเฉพาะในกลุ่มของผู้ใหญ่มีอายุแล้ว แต่ยังมีวัยนักศึกษา วัยทำงานมาใช้บริการมากขึ้น เพราะโบท็อกสามารถฉีดเพื่อแก้ไขจุดต่างๆ บนใบหน้าได้หลากหลายขึ้นเช่น ลดกราม ปรับรูปหน้าเรียว ลดริ้วรอย และสามารถฉีดเพื่อลดเหงื่อได้ด้วย แต่ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะ ฉีดโบท็อก จุดไหนดี? ต้องฉีดกี่ยูนิต เรามาทำความเข้าใจโบท็อกกันก่อนค่ะว่าคืออะไร มีกี่ยี่ห้อ ฉีดตรงไหนบ้างแล้ว และฉีดที่คลินิกไหนดี? ต้องไม่พลาดบทความนี้เลยค่ะจะช่วยให้เราตัดสินใจในการฉีดโบท็อกได้ดีขึ้นและไม่โดนหมอกระเป๋าหลอกนั่นเอง
หัวข้อเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์ สามารถเลือกอ่านได้เลยค่ะ
โบท็อก (Botox) คืออะไร?
โบท็อก คือ ชื่อทางการค้าของ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ( Botulinum toxin type A) ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) เมื่อฉีดไปแล้วจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงชั่วคราว
จึงถูกนำมาใช้ในวงการความงามอย่างแพร่หลาย เช่น ฉีดบริเวณกราม เพื่อให้กล้ามเนื้อกรามมีขนาดเล็กลง ทำให้ช่วงกรามดูเรียวมากขึ้น ฉีดเพื่อลดกล้ามเนื้อน่องขา หรือฉีดคอบ่าไหล่ให้ช่วงไหล่ดูสวยคอระหงส์ หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าโบท็อกสามารถฉีดเพื่อลดเหงื่อบริเวณรักแร้หรือฝ่ามือได้อีกด้วย
หลักการทำงานของโบท็อกซ์ ออกฤทธิ์อย่างไร?
ตัวยาโบท็อกซ์ (Botox) เป็นสารที่สกัดจากแบคทีเรียสายพันธุ์เฉพาะ (Clostridium botulinum) ตัวสารอยู่ในรูปโปรตีนที่เป็นน้ำใสๆ เมื่อฉีดเข้าสู่บริเวณกล้ามเนื้อจะแยกหลักการทำงานออกเป็น 2 ส่วนดังนี้
- ส่วนที่ถูกดูดซึมเข้าไปจับกับปลายเส้นประสาท
ส่วนที่ถูกดูดซึมเข้าไปจับกับปลายเส้นประสาท เป็นส่วนที่จะออกฤทธิ์กับปลายเส้นประสาทที่มาควบคุมกล้ามเนื้อ จึงสามารถยับยั้งการกระตุ้นกล้ามเนื้อที่เลี้ยงโดยเส้นประสาทบริเวณนั้น ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัว ลดการทำงานลงชั่วคราว ริ้วรอยต่างๆดูตื้นขึ้น ผิวหนังดูตึง ไม่เกิดรอยพับ และถ้าหากส่วนนี้มีความเข้มข้นสูงก็จะทำให้โบท็อกซ์อยู่ได้นานขึ้น จากนั้นตัวยาจะสลายไปเอง 100% ตามระยะเวลาของโบท็อกซ์ยี่ห้อนั้น ๆ โดยไม่มีสารตกค้าง - ส่วนที่ไม่ถูกดูดซึม
สำหรับโบท็อกซ์ส่วนที่ไม่ถูกดูดซึมจะปลิวไปตามกระแสเลือดและถูกขับออกไปจากร่างกายภายในระยะเวลาประมาณ 1 ชม. หลังฉีด โดยไม่ส่งผลต่อเซลล์อื่นๆที่อยู่ในร่างกาย
ฉีดโบท็อก เหมาะกับใครบ้าง
- คนไข้ที่มีกล้ามเนื้อช่วงกรามหนา ทำให้ดูเหมือนหน้าใหญ่ เมื่อฉีดโบท็อกบริเวณกล้ามเนื้อกรามแล้ว ใบหน้าจะเรียวลงอย่างเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากเดิมไปมากเท่ากับการผ่าตัดศัลยกรรม แต่ได้ผลลัพธ์ดีมากในเคสคนไข้กล้ามเนื้อหนาและต้องการให้รูปหน้าสวยขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- คนไข้ที่ต้องการลดน่องที่ปูดเพราะกล้ามเนื้อใหญ่เกินไป การฉีดโบท็อกเป็นวิธีการทำน่องขาให้เรียวสวยของสาวๆ ค่ะ
- คนไข้ที่ต้องการลดเหงื่อ ที่ฝ่ามือ รักแร้ การฉีดโบท็อกก็ช่วยได้โดยตรงเช่นกัน
- คนไข้ที่ต้องการลดริ้วรอย บริเวณหน้าผาก หางตา หรือร่องน้ำหมาก
- คนไข้ที่ต้องการให้กรอบหน้าคมชัดขึ้น
- เหมาะสำหรับคนไข้ที่ ต้องการสันจมูกรัดแกนคมขึ้น
บริเวณที่นิยมฉีดโบท็อก มีจุดไหนบ้าง
โบท็อกสามารถนำมาฉีดเข้ากล้ามเนื้อได้หลายจุด ทั้งกล้ามเนื้อขา ฝ่ามือ ไหล่ และใบหน้า สำหรับใบหน้าเป็นการฉีดเพื่อปรับรูปหน้าและลดริ้วรอยค่ะ บริเวณที่นิยมฉีดมีจุดไหนบ้าง มาดูกันตั้งแต่ใบหน้าจรดเท้ากันเลยค่ะ
1. ฉีดบนใบหน้า จะมีจุดประสงค์เพื่อลดเลือนริ้วรอยและทำให้กรอบหน้าเรียว
- โบท็อกหน้าผาก เพื่อลดริ้วรอยหน้าผาก
- โบท็อกลดปีกจมูก เพื่อให้จมูกรัดแกน
- โบท็อกลดริ้วรอย เพื่อลดรอยย่นระหว่างคิ้วและหน้าผาก
- โบท็อกหางตา เพื่อลดริ้วรอย รวมถึงบริเวณใต้ดวงตาด้วย
- โบท็อกลดกราม เพื่อลดกล้ามเนื้อกราม กรอบหน้าชัดและเรียวขึ้น
- ฉีดบริเวณร่องแก้ม เพื่อลดริ้วรอย ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก
- ฉีดบริเวณสันจมูก เพื่อให้จมูกดูเรียว ลดรอยย่นบริเวณสันจมูก
2. ฉีดลดเหงื่อ บริเวณฝ่ามือ รักแร้ และฝ่าเท้าได้อีกด้วย
3. ฉีดบริเวณคอ บ่า ไหล่ ลดอาการปวด คลายกล้ามเนื้อ เพื่อทำให้คอระหงส์ และยังเป็นจุดที่ดารานิยมฉีดมากที่สุดอีกด้วยค่ะ
ฉีดโบท็อกซ์ ช่วยเรื่องอะไร?
- ช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย ทำให้ใบหน้าดูเด็กลงและสดใสขึ้น
- ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียว กรอบหน้าชัดขึ้น
- ช่วยลดการเกิดเหงื่อบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้าและรักแร้
- ช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวกระชับขึ้น ต่อมไขมันเล็กลงทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
ฉีดโบท็อกกี่ยูนิตถึงจะดี
โบท็อกสามารถฉีดได้ทั่วร่างกายตามความต้องการและจุดประสงค์ในการฉีด ซึ่งแต่ละจุดมักจะใช้จำนวนยูนิตเริ่มต้น 50- 100 ยูนิตขึ้นไป ซึ่งอาจน้อยหรือมากกว่านั้นตามบริเวณที่ฉีด ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินให้ค่ะ
ฉีดโบท็อกซ์กี่วันถึงเห็นผล?
สำหรับระยะเวลาการเห็นผลลัพธ์หลังการฉีดโบท็อกซ์นั้นคนไข้จะเริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงได้โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 5-14 วัน ซึ่งแต่ละจุดอาจมีระยะเวลาการเห็นผลที่แตกต่างกัน เช่น
- การฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอย จะเห็นผลภายใน 5-7 วันหลังการฉีด
- การฉีดโบท็อกซ์ลดกรามหน้าเรียว จะเห็นผลชัดเจนภายใน 1-2 เดือนหลังการฉีด
ซึ่งจะเห็นได้ว่าตำแหน่งที่มีกล้ามเนื้อใหญ่กว่าอาจต้องใช้ระยะเวลาเห็นผลนานกว่า เช่น การฉีดโบท็อกซ์ลดกรามจะใช้ระยะเวลาเวลาการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนนานกว่า การฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย
หลังฉีดโบท็อกอยู่ได้นานไหม
อยู่ได้นาน 6 เดือน เพื่อคงสภาพผลลัพธ์หลังฉีด ควรมาเติมโบท็อกเพื่อคงสภาพผลลัพธ์ให้คงอยู่เรื่อยๆ แต่ไม่ควรฉีดถี่จนเกินไปเพราะจะทำให้ดื้อโบท็อก และไม่ควรเว้นช่วงการฉีดนานเกินไป เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อคืนสภาพ ทำให้การฉีดรอบต่อไปต้องใช้จำนวนโบท็อกที่มากขึ้นนั่นเอง
ฉีดโบท็อกอันตรายไหม
หากเป็นการฉีดโบท็อกแท้ยังไม่มีรายงานการเสียชีวิตหรือเป็นอันตรายต่อตัวผู้ฉีด หากได้รับการฉีดโดยแพทย์และใช้โบท็อกที่ได้รับมาตรฐานจาก อย. ไทย ก็ถือว่ามีความปลอดภัยสูงและสามารถมั่นใจได้ ว่าจะไม่มีสารตกค้าง และไม่มีผลข้างเคียงให้กังวลใจค่ะ
ข้อดีและข้อเสียของการฉีดโบท็อกซ์ มีอะไรบ้าง
ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์ |
---|
1. มีการเห็นผลรวดเร็วภายใน 7-14 วัน และเห็นผลชัดเจนที่สุดไม่เกิน 1 เดือน 2. มีราคาไม่สูง มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อให้เลือกตามความเหมาะสมของงบประมาณ 3. หลังทำไม่ต้องพักฟื้น สามารถแต่งหน้าให้ชีวิตได้ตามปกติ 4. มีความปลอดภัยสูง มีผลวิจัยรองรับมากมาย หลังทำสามารถสลายได้ 100% โดยไม่ตกค้าง |
ข้อเสียของการฉีดโบท็อกซ์ |
---|
1. ผลลัพธ์ที่ได้ เป็นเพียงผลลัพธ์แบบชั่วคราวเท่านั้น สามารถคงสภาพผลลัพธ์ได้เพียง 3-8 เดือน (ขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์ของตัวยา) 2. หากฉีดผิดตำแหน่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้เช่น คิ้วตก หางตาตก แต่สามารถหายไปเองในเวลาที่ไม่นาน 3. หากฉีดเยอะเกินไปอาจทำให้ใบหน้าดูแข็งตึง ยิ้มไม่เป็นธรรมชาติ 4. หากฉีดโบท็อกลดกรามอาจทำให้รู้สึกเคี้ยวอาหารยากขึ้น เนื่องจากการขยับกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดมีความหนืด |
วิธีเช็คว่าโบท็อกเป็นของปลอมหรือไม่?
ข้อสังเกตอย่างง่ายที่สุดเพื่อเช็ค สามารถดูได้จากบนฝาจะต้องมีฝาพลาสติกคลุมอยู่ ระบุวันผลิต วันหมดอายุอย่างชัดเจน โดยจะต้องมีภาษาไทยกำกับอยู่ด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าได้รับการรับรองมาตรฐานจาก อย. รวมถึงระบุบริษัทผู้นำเข้าอย่างชัดเจน
โบท็อกมียี่ห้ออะไรบ้าง ตัวไหนดี
โบท็อกมีหลายยี่ห้อจากหลายประเทศ ซึ่งโบท็อกที่นิยมใช้ในไทยมีดังนี้ค่ะ
- โบท็อกเกาหลี ได้แก่ Botulax , Aestox , Nabota
- โบท็อกอเมริกา ได้แก่ Allergan
- โบท็อกอังกฤษ ได้แก่ Dysport
- โบท็อกเยอรมัน ได้แก่ Xeomin
โบท็อกแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นจะมีอายุและความคงสภาพได้นานแตกต่างกัน ขึ้นกับความสามารถในการกระจายตัวยา และกรรมวิธีในการทำตัวยาให้บริสุทธิ์ ชนิดของโปรตีนคอมเพล็กซ์และขนาดของ molecule complex ซึ่งตัวนี้เองมีผลให้ตัวยาแต่ละยี่ห้อมีความสามารถในการออกฤทธิ์ต่างกัน
กังนัมคลินิกได้คัดเลือกโบท็อกที่คุณสมบัติดีที่สุดมาไว้บริการคนไข้แล้ว สำหรับยี่ห้อที่แพทย์แนะนำให้ฉีดมากที่สุด คือ โบท็อกจากเกาหลี hugel และโบท็อกจากอเมริกา Allergan เพราะมีความสามารถในการกระจายยาได้ดีและตัวยาบริสุทธิ์ทำให้ออกฤทธิ์ได้ดีนั่นเอง
ฉีดโบท็อกที่ไหนดี
การฉีดสารที่มีผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อโดยตรง สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้เท่านั้น และควรดำเนินการโดยแพทย์เชี่ยวชาญเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีและปลอดภัย
ซึ่งหากได้รับการฉีดด้วยวิธีที่ถูกต้อง หลังฉีดโบท็อกคนไข้จะสามารถแสดงสีหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย หากยังไม่รู้ว่าควรจะโบท็อกที่ไหนดี เรามีหลักการเลือกใช้สถานพยาบาลหรือคลินิกมาฝากค่ะ โดยพิจารณาดังนี้
- สถานพยาบาลหรือคลินิกได้มาตรฐานรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข เพราะสิ่งสำคัญในการคงสภาพโบท็อกคือต้องเก็บในที่เย็นเท่านั้น หลายๆคนอาจซื้อโบท็อกจากแม่ค้าออนไลน์หรือแม่ค้ารับหิ้ว ซึ่งราคาถูกกว่า แต่โบท็อกไม่ได้ถูกเก็บในที่ที่อุณหภูมิเหมาะสม โบท็อกจะเสื่อมสภาพและไม่ได้ผล ส่งผลให้ดื้อโบท็อกในอนาคตด้วย
- แพทย์จะเป็นผู้ฉีดโบท็อกให้คนไข้เท่านั้น เพราะต้องมีความรู้ด้านเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ โดยคลินิกนั้นๆจะต้องโชว์ชื่อแพทย์ประจำคลินิกไว้อย่างชัดเจน ตรวจสอบได้
- เปิดโบท็อกขวดใหม่ต่อหน้าคนไข้ทุกครั้งก่อนฉีด เพื่อให้เราแน่ใจได้ว่าโบท็อกนั้นยังคงคุณภาพสมบูรณ์ที่สุดก่อนจะฉีดให้หน้าเรา
- คลินิกมีหลายสาขาเพื่อความสะดวกในการเข้ารับบริการ ตำแหน่งที่ตั้งชัดเจน และสามารถนัดปรึกษาแพทย์ก่อนได้
- มีรีวิวคนไข้จริง เพื่อแสดงผลลัพธ์หลังจากที่ได้รับการฉีดมาแล้ว
ข้อควรปฏิบัติก่อนฉีดโบท็อก
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโบท็อกว่าช่วยเรื่องอะไรบ้าง? และเรามีจุดไหนที่กังวลอยากแก้ไขด้วยการฉีดโบท็อก เช่น กรณีมีริ้วรอยหน้าผากเยอะ ฉีดโบท็อกจะทำให้ริ้วรอยหน้าผากจางลงอย่างเห็นผล หรือบางคนกรามใหญ่ต้องการโบท็อกเพื่อให้กรามเล็กลง แต่หากกรามใหญ่จากกระดูกไม่สามารถลดได้ด้วยการฉีดโบท็อกเพียงอย่างเดียว
- เลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีสาขาให้บริการหลากหลายเข้าถึงง่าย รวมถึงมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำสาขาเพื่อให้เราสามารถไปปรึกษาประกอบการตัดสินใจได้ เพื่อลดความเสี่ยงในการอักเสบ ติดเชื้อ ป้องกันอาการไม่พึงประสงค์หลังการฉีดโบท็อก
- ก่อนการฉีดโบท็อก งดวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น โสม น้ำมันปลา อีฟนิ่งพริมโรส วิตามินอี
- แจ้งโรคประจำตัวหรือยาที่ทานประจำให้แพทย์ทราบก่อนการฉีดโบท็อก
ขั้นตอนการฉีด botox
การฉีดโบท็อกซ์เป็นการทำหัตถการยกกระชับ ลดริ้วรอย รวมถึงปรับรูปหน้าที่ทำได้ง่าย ใช้ระยะเวลาเพียงไม่นาน หลังหัตถการไม่ต้องพักฟื้น โดยมีขึ้นตอนดังนี้
- เลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง และมั่นใจว่าใช้ตัวยาแท้
- นัดปรึกษาแพทย์เพื่อให้ได้รับการประเมินรูปหน้า และปัญหาผิวอย่างแม่นยำ
- เลือกยี่ห้อของโบท็อกซ์ที่จะใช้ โดยโบท็อกซ์แต่ละตัวจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป เช่นการกระจายตัวยา ระยะเวลาการออกฤทธิ์ การคงสภาพของผลลัพธ์ และราคา ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกหลายยี่ห้อ และหลายสัญชาติ ได้แก่ โบท็อกซ์อเมริกา โบท็อกซ์เกาหลี โบท็อกซ์อังกฤษ เป็นต้น
- แพทย์ทำการแกะกล่องผสมตัวยาต่อหน้าคนไข้ จากนั้นเช็ดทำความสะอาดบริเวณที่จะฉีดด้วย แอลกอฮอล์
- ประคบเย็นในบริเวณที่ต้องการฉีดเพื่อลดความรู้สึก และแพทย์ทำการฉีดโบท็อกในตำแหน่งที่ต้องการรักษา ไม่ว่าจะเป็นกราม ริ้วรอย ตามจุดต่างๆ ด้วยเข็มที่มีขนาดเล็ก
- เช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง เพื่อป้องกับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายจากรอยเข็ม
การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก ต้องทำอย่างไร
- บริหารกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดโดยการขยับ ยิ้มกว้าง เลิกคิ้วขึ้นลง ในช่วง 30 นาทีแรกหลังการฉีด เพื่อให้กล้ามเนื้อดูดซึมยาและยามีการกระจายตัวได้ดีขึ้น
- 3-4 ชั่วโมงแรกหลังการฉีดโบท็อก งดนวดหน้าหรือกดหน้าแรงๆ เพราะทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ได้ เช่น หน้าแข็งตึง เลิกคิ้วไม่ได้ หรือแสดงอารมณ์ทางสีหน้าไม่ได้
- หลังการฉีดโบท็อกไม่ควรนอนราบ หรือก้มศีรษะต่ำกว่าระดับหัวใจ
- งดการประคบเย็นหลังการฉีด เพราะเป็นการขวางการทำงานของโบท็อกซ์
ผลข้างเคียงหลังฉีดโบท็อก?
ในคนไข้บางรายอาจเกิดรอยช้ำเหลือง ซึ่งเป็นอาการชั่วคราวสามารถหายได้เองใน 2-3 วันค่ะ โดยปกติแล้วหลังการฉีดคนไข้สามารถแต่งหน้าและใช้ชีวิตได้ปกติเลยโดยไม่ต้องพักฟื้น
ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดโบท็อกซ์
ถึงแม้ว่าการฉีดโบท็อกซ์จะเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูง แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะเหมาะสำหรับการฉีดโบท็อกซ์ เพราะอาจเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงที่มากกว่าคนปกติทั่วไปได้เช่น ผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เนื่องจากกล้ามเนื้อและผิวหนังยังมีการเปลี่ยนแปลงได้ไม่เต็มที่ นอกจากนี้การฉีดโบท็อกซ์ในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร กลุ่มคนแพ้ง่าย คนที่มีประวัติแพ้โปรตีน หรือผู้ที่มีปัญหาเลือดออกแล้วหยุดยาก รวมถึงผู้ป่วยที่มีอาการเนื้อเยื่อหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง จะไม่เหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์ เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนหรือเกิดอันตรายมากกว่ากลุ่มอื่น
ฉีดโบท็อกแต่ละจุด ราคาเท่าไหร่
การฉีดแต่ละจุดราคาจะขึ้นกับปริมาณยูนิตที่ฉีด ในหลายๆ เคสคุณหมอจะแนะนำคนไข้ให้โบท็อกร่วมกับการร้อยไหม หรือหากคนไข้ต้องการฉีดเพื่อปรับรูปหน้า อาจมีการฉีดคางเพิ่มเข้ามา ซึ่งแล้วแต่ดุลพินิจของคุณหมอจะแนะนำอีกครั้งค่ะ
กังนัมคลินิกมีราคาโปรโมชั่น สำหรับคนไข้ฉีดโบท็อกซ์ดังนี้
- โบท็อกเกาหลี Nabota 100 ยูนิต 5,966 บาท อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
- โบท็อกเกาหลี Aestox 50 ยูนิต 3,696 บาท อยู่ได้นาน 3-4 เดือน
- โบท็อกอเมริกา Allergan 100 ยูนิต 18,000 บาท อยู่ได้นาน 6-8 เดือน
- โบท็อกอังกฤษ Dysport 120 ยูนิต 15,696 บาท อยู่ได้นาน 6-8 เดือน
- โบท็อกเยอรมัน Xeomin 100 ยูนิต 12,323 บาท อยู่ได้นาน 6-8 เดือน
รีวิวฉีดโบท็อก
โบท็อกลดกราม และการฉีดโบท็อกปรับรูปหน้า
ฉีดโบท็อกลดริ้วรอย บริเวณคิ้วและหน้าผาก
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีด Botox
ฉีดโบท็อกซ์เสี่ยงเป็นมะเร็งไหม?
การฉีดโบท็อกโดยใช้สาร Botullinum toxin นั้นมีความปลอดภัยสูง โดยมีผลการวิยมากมายออกมารองรับ ว่าหากใช้ตัวยาแท้ที่มีมาตรฐานจะไม่เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกายทั้งในระยะสั้น และระยะยาว เนื่องจากตัวยาสามารถย่อยสลายได้ตามกาลเวลา 100% โดยไม่มีการตกค้างในร่างกาย จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งอย่างที่หลายๆคนกังวล
ทำไมฉีดโบท็อกซ์แล้วไม่เห็นผล เกิดจากอะไร?
การฉีดโบท็อกซ์แล้วไม่เห็นผลหรือ ไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายกรณี เช่นหมอฉีดโบท็อกไม่ถูกตำแหน่งกล้ามเนื้อ มีการใช้ปริมาณตัวยาน้อยเกินไป หรือตัวโบท็อกได้รับการเจือจางมากเกินไป แล้วอีกหนึ่งกรณีที่พบได้บ่อยคือ การใช้โบท็อกที่ไม่ได้มาตรฐาน (โบท็อกซ์หิ้ว โบท็อกซ์ปลอม) เป็นต้น
ฉีดโบท็อกซ้ำได้ไหม ต้องเว้นกี่วัน?
เพื่อคงสภาพผลลัพธ์ให้คงอยู่ควรมาฉีดซ้ำทุก 5-6 เดือน สำหรับโบท็อกลดริ้วรอย หากฉีดแล้วไม่ได้ผลหรือไม่เห็นผลลัพธ์สามารถมาฉีดซ้ำได้ฟรีภายใน 1 เดือนหลังการฉีดครั้งแรกค่ะ กังนัมคลินิกมีการันตีและติดตามผลลัพธ์หลังการฉีด เพื่อให้คนไข้มั่นใจได้เลยว่า หลังการฉีดโบท็อกไปแล้วคนไข้จะได้รับความพึงพอใจสูงสุด
สรุป ฉีดโบท็อกดีไหม?
สรุปแล้วปัญหาที่หลายคนกังวลในการฉีดโบท็อก นั่นคือ กลัวฉีดแล้วกล้ามเนื้อตาย ฉีดแล้วแสดงสีหน้าไม่ได้หรือฉีดแล้วไม่เห็นผล และแยกไม่ออกระหว่างโบท็อกแท้และของปลอม ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปหากได้รับการฉีดโดยแพทย์และใช้โบท็อกของแท้ที่เก็บรักษาในอุณหภูมิ 2-8 องศาเท่านั้นเพื่อคงและรักษาคุณภาพไว้
นอกจากนี้ กังนัมคลินิกด้านความงาม ยังการันตีผลลัพธ์หลังการฉีดโบท็อก หากฉีดไม่เห็นผลภายในหนึ่งเดือนสามารถมาเติมได้ฟรีอีกด้วย
สำหรับคนไข้มีข้อสงสัยต้องการปรึกษาเพิ่มเติม สามารถแอดไลน์ @gangnamclinic และช่องทาง Facebook inbox ปรึกษาออนไลน์และติดตามโปรโมชั่นได้ทางไลน์เลยค่ะ สามารถนัดหมายปรึกษากับแพทย์ได้ที่กังนัมคลินิกสาขาใกล้บ้านท่าน ออนนี่ยินดีให้บริการค่ะ