เซลลูไลท์ (Cellulite) คืออะไร? มีวิธีลดและกำจัดเซลลูไลท์อย่างไรให้เห็นผล

“เซลลูไลท์” อีกหนึ่งปัจจัยที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งคนผอมและคนอ้วน สร้างความกังวลใจและไม่มั่นใจแก่ผู้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเซลลูไลท์บริเวณต้นขา สะโพกและหน้าท้อง ในบทความนี้เราจะมาเจาะถึงสาเหตุต้นตอของปัญหาเซลลูไลท์ พร้อมแนะนำวิธีแก้ปัญหาแบบเร่งด่วน

เซลลูไลท์ คืออะไร?

เซลลูไลท์ (Cellulite) คือก้อนไขมันขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นในชั้น Subcutaneous บริเวณใต้หนังแท้ โดยก้อนไขมันดังกล่าวมีขนาดเยอะและอัดแน่นกันอยู่ใต้ผิวหนังจนทำให้เกิดการโผล่นูนขึ้นมาบนผิวหนัง ทำให้ผิวภายนอกดูเป็นลักษณะเป็นคลื่นไม่เรียบเนียนเหมือนกับเปลือกส้มนั้นเอง โดยปัญหาเซลลูไลท์นั้นส่วนใหญ่มักพบในเพศหญิงตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นไปจนถึงผู้สูงอายุ

โดยการเกิดเซลลูไลท์นั้นสามารถแบ่งออกไปเป็น 3 ระยะด้วยกันดังนี้

ระยะที่แรก : ระยะนี้จะไม่สามารถเห็นเซลลูไลท์ได้ชัด โดยจะต้องทำการลูบ จับ หรือบีบที่ผิวจึงจะเห็นว่ามีเซลลูไลท์
ระยะสอง : ระยะนี้จะสามารถเห็นเซลลูไลท์โผล่ขึ้นมาแบบชัดเจนในตอนยืน แต่จะไม่เห็นหากนอน
ระยะสาม : เป็นระยะที่สามารถเห็นเซลลูไลท์ได้ชัดเจนไม่ว่าเป็นการยืนหรือนอน

สาเหตุที่ทำให้เกิดเซลลูไลท์

ต้นตอการเกิดเซลลูไลท์นั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน โดยเราขอพูดถึง 6 ปัจจัยที่พบบ่อยๆ ดังนี้

กรรมพันธุ์ : สำหรับใครที่ในครอบครัวมีปัญหาเซลลูไลท์นั้นก็ย่อมมีโอกาสเกิดเซลลูไลท์ได้เหมือนคนในครอบครัวได้สูงกว่าปกติ
ฮอร์โมน : ที่เกิดการฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่ในระดับสูง ที่พบได้ในผู้หญิงที่มีการทานยาคุมกำเนิดหรือกลุ่มคุณแม่หลังคลอด
สภาพจิตใจและความเครียด : ในช่วงที่มีสภาพจิตใจที่เครียด วิตกกังวล ต่อมหมวกไตจะทำการหลั่งสารแคทีโคลามีน (Catecholamine) ออกมาซึ่งสารตัวดังกล่าวนั้นมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดเซลลูไลท์
พฤติกรรมการทาน : เช่นมีความชอบในการทานของทอด ของมัน ขนมหวาน อาหารที่มีแคลอรีและไขมันที่สูง รวมไปถึงการชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
พฤติกรรมไม่ชอบออกกำลังกาย : การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้ร่างกายแล้ว ยังช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนน้ำเหลืองให้สามารถทำงานได้ดีและป้องกันการเกิดเซลลูไลท์ได้อีกด้วย
พฤติกรรมการสูบบุหรี่ : การสูบบุหรี่นอกจากจะส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างมากมาย โดยเฉพาะเซลล์ไขมันเนื่องจากจะทำให้เลือกไม่สามารถไปเลี้ยงเซลล์ไขมันได้ทำให้เกิดเป็นพังผืดและนำไปสู่เซลลูไลท์ได้ง่ายเช่นกัน

บริเวณไหนบ้างที่มักเกิดเซลลูไลท์

เซลลูไลท์สามารถพบได้หลายบริเวณในร่างกาย แต่ส่วนใหญ่มักจะพบที่บริเวณต้นขา ต้นแขน หน้าท้อง สะโพก และก้น เป็นต้น

เซลลูไลท์สามารถรักษาหายได้ไหม

เซลลูไลท์สามารถรักษาให้หายได้ แต่ก็สามารถกลับมาเป็นได้ใหม่อีก หากมีสาเหตุปัจจัยเข้ามาเป็นตัวกระตุ้น ซึ่งในปัจจุบันวิธีการรักษานั้นมีอยู่หลายวิธีด้วยกันทั้งการดูแลตัวเองด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมและการรักษาด้วยหัตถการทางการแพทย์

7 วิธีกำจัดเซลลูไลท์ แบบเร่งด่วน

ต่อไปเราขอมาแนะนำกับ 7 วิธีการกำจัดเซลลูไลท์ให้เห็นผลจริงและเห็นผลไว ซึ่งจะมีวิธีไหนบ้างตามรายละเอียดดังนี้

1. นวดสลายเซลลูไลท์

เป็นการใช้เทคนิคการนวดด้วยหลักการเดรนน้ำเหลือง เพื่อช่วยเรื่องระบบเผาผลาญในร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้นส่งผลต่อสลายไขมันส่วนเกินและสลายเซลลูไลท์ ซึ่งวิธีนี้จะต้องใช้เทคนิคและความชำนาญอย่างมาก และควรทำอย่างต่อเนื่องเป็นประจำต่อต่อกัน 5-10 ครั้งขึ้นไปร่วมกับการควบคุมอาหารเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

2. ควบคุมการทานอาหารให้ดี

ควรงดอาหารประเภทของทอด ของมัน น้ำตาล หรืออาหารจำพวกที่มีไขมันสูง เนื่องจากกลุ่มอาหารเหล่านี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการสะสมไขมันในร่างกาย

3. ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคาร์ดิโอ โยคะ หรือการยืดเฉพาะส่วนจะเป็นตัวช่วยทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันที่สะสมในส่วนต่างๆ ได้ดี และนอกจากนั้นยังมีส่วนช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วย

4. สครับผิวกำจัดเซลลูไลท์

อาทิเช่น การสครับผิวด้วยสครับกาแฟ เพราะนอกจากจะช่วยผลัดเซลล์ผิวภายนอกช่วยให้ผิวมีความกระจ่างใสขึ้นแล้วตัวคาเฟอีนในกาแฟยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการแตกตัวของเซลล์ไขมันในชั้นผิวให้แตกตัวได้ดีอีกด้วย

5. ฉีดเมโสแฟตสลายไขมัน

เป็นวิธีการฉีดตัวยาเข้าไปในชั้นผิวเพื่อสารในตัวยาไปทำปฏิกิริยากับชั้นไขมัน ทำให้ไขมันเกิดการแตกตัวและถูกขับออกจากร่างกายทางเหงื่อและปัสสาวะ ซึ่งเมื่อไขมันถูกขับออกมาแล้วปัญหาเซลลูไลท์ก็จะหายไปตามๆ กัน วิธีนี้ถือเป็นวิธีการสลายไขมันเฉพาะจุดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดแฟต (Meso Fat) คืออะไร ฉีดสลายไขมันจุดไหนได้บ้าง เหมาะกับใคร

6. Ultraformer III

อีกหนึ่งวิธีในการสลายไขมันและกำจัดเซลลูไลท์ด้วยคลื่น Micro & Macro Focused Ultrasound ที่จะใช้หลักการยิงส่งคลื่นพลังงานเข้าไปในผิวเพื่อไปสลายไขมันและไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวมีความกระชับ เต่งตึงขึ้น วิธีนี้นอกจากจะช่วยสลายเซลลูไลท์แล้วยังเหมาะมากกับคนที่มีปัญหาต้นแขน ต้นขา หน้าท้องหย่อนคล้อยอีกด้วย และเช่นกันเครื่อง Ultraformer III นั้นสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งที่ทำประมาณ 10-15 เปอร์เซ็นต์และเห็นผลได้นาน 6-12 เดือน

7. Coolsculpting

Coolsculpting ถือเป็นอีกเครื่องสลายไขมันที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นเครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นด้วยหัวดูดผิว (Vacuum) ซึ่งหลักการคือการดูดผิวเข้าไปในหัวดูดและทำการปล่อยความเย็นในระดับต่ำกว่าจุดเยือกแข็งที่ -11 ถึง -13°C ทำให้เซลล์ไขมันแข็งตัวจนตกผลึกและถูกขับออกจากร่างกายด้วยระบบน้ำเหลือง ซึ่งในการทำแต่ละครั้งนั้นจะช่วยกำจัดไขมันได้ถึง 20-25 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

คนที่มีเซลลูไลท์ถือว่าอันตรายไหม

จากข้อมูลงานวิจัยเกี่ยวกับเซลลูไลท์และระบบน้ำเหลือง ที่ได้ออกมาบอกว่าการมีเซลลูไลท์นั้นจะส่งผลเสียต่อระบบไหลเวียนน้ำเหลืองของร่างกาย ซึ่งเป็นระบบที่มีส่วนสำคัญในการขจัดของเสียต่างๆ ทั้งยังมีส่วนทำให้โครงสร้างเนื้อเยื่อของเซลล์ต่างๆ เกิดการเสื่อมสภาพและขาดความยืดหยุ่นได้เร็วกว่าปกติ นอกจากนั้นยังเป็นสาเหตุเล็กๆ ที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ อาทิเช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวานและโรคอัมพาตได้อีกด้วย

คนผอมก็มีเซลลูไลท์ได้ เพราะอะไร?

เพราะว่าเซลลูไลท์สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศ ทุกวัย รวมไปถึงในคนผอมบางคนต่างที่มีพฤติกรรมที่ไปกระตุ้นให้เกิดเซลลูไลท์ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ การทานอาหารของทอดของมัน เลยทำให้อาจเกิดเซลลูไลท์ขึ้นได้

วิธีป้องกันการเกิดเซลลูไลท์

สำหรับวิธีการป้องกันการเกิดเซลลูไลท์นั้นสามารถเริ่มได้ง่ายๆ จากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น

การออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน เพื่อระบบเผาผลาญไขมันในร่างกายได้ทำงานอยู่เสมอ
การควบคุมการทานอาหาร เพื่อป้องกันการสะสมของไขมันในร่างกาย
การงดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
การรักษาสภาพจิตใจไม่เครียด รวมไปถึงการพักผ่อนให้เพียงพอ

สรุป

ปัญหาเซลลูไลท์กวนใจหรือผิวเปลือกส้มนั้นมีสาเหตุการเกิดหลักๆ มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ส่งผลทำให้ร่างกายเกิดการสะสมของเซลล์ไขมันที่มากขึ้นในชั้นผิว ทำให้ตัวเซลล์ไขมันโผล่ขึ้นมาให้เห็นได้ชัดเจน ซึ่งวิธีการกำจัดเซลลูไลท์นั้นก็มีอยู่ด้วยหลายวิธีขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคนเช่น การปรับพฤติกรรม ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย หรือการใช้หัตถการทางการแพทย์เข้าช่วยอย่างการฉีดเมโสแฟต, Ultraformer III และ Coolsculpting เป็นต้น ซึ่งคนขึ้นควรศึกษาข้อมูลรายละเอียดแต่ละวิธีหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทุกครั้งก่อนตัดสินใจทำ