ปากแห้งแตก ลอกเป็นขุย มีวิธีไหนบ้างช่วยให้ปากกลับชุ่มชื้นไม่เป็นร่อง

|
ปากแห้ง ปากแตก แก้อย่างไร

สาวๆหลายคนน่าจะมีปัญหาทาลิปสติกตกร่อง หรือปัญหาผิวปากแห้งแตกลอกเป็นขุยทำให้ภาพรวมใบหน้าเหนื่อยล้า ขาดความชุ่มชื้น ซึ่งวิธีแก้ไขนอกจากการดื่มน้ำให้เพียงพอแล้ว ยังสามารถแก้ไขอย่างเร่งด่วนได้ด้วยการฉีดสารเติมเต็มที่ริมฝีปาก ซึ่งให้ผลลัพธ์รวดเร็ว เห็นผลทันทีพร้อมทาลิปสติกสวยๆออกงานได้อย่างทันใจ

ปากแห้ง ปากแตก คืออะไร?

ปากแห้ง ปากแตก

ปากแห้งแตก คือ อาการของริมฝีปากที่มีลักษณะแห้งตึงและลอกเป็นขุย ซึ่งเกิดจากการขาดความชุ่มชื้น ทำให้ริมฝีปากเป็นร่อง สามารถสังเกตุเห็นได้ชัดจากการทาลิปสติกแล้วสีไม่เรียบเนียน นอกจากนี้ปัญหาปากแห้งหลายคนจะเลียริมฝีปากตัวเองเพราะคิดว่าเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้น แต่ให้ผลตรงกันข้ามคือทำให้ริมฝีปากยิ่งแห้งและมีรอยคล้ำเกิดขึ้นมากขึ้น เป็นสาเหตุของริมฝีปากคล้ำอีกด้วย

สาเหตุของปากแห้งแตก เป็นร่อง เกิดจากอะไร

สาเหตุของปากแห้งแตก

ริมฝีปากแห้งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งมีทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดอาการปากแห้งมีดังนี้

  • ดื่มน้ำน้อย ผิวขาดความชุ่มชื่น การดื่มน้ำน้อยอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ร่างกายขาดน้ำ จนทำให้ริมฝีปากแห้ง ริมฝีปากแตกได้
  • อายุมากขึ้นการสร้างคอลลาเจนน้อยลง คอลลาเจนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยรักษาความชุ่มชื้น และ ความยืดหยุ่นให้กับผิว ดังนั้นเมื่อร่างกายผลิตคอลลาเจนได้ลดลงก็อาจส่งผลทำให้ ร่างกายสูญเสียความชุ่มชื้นจนปากแห้งได้
  • การเลียปากบ่อยๆ สำหรับคนที่มีพฤติกรรมชอบเลียปากบ่อยๆ อาจจะยิ่งทำให้ปากแห้งมากขึ้นเนื่องจาก สารที่อยู่ในน้ำลายจะดึงเอาความชุ่มชื้นออกไปจากริมฝีปากซึ่งจะทำให้ปากแห้งได้ง่ายนั่นเอง
  • อยู่ในสภาพอากาศหนาว หรือ อยู่ในสภาพอากาศแห้งการอยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานาน หรือ การสัมผัสกับแสงแดดมากเกินไป ก็อาจจะทำให้ผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย และ อาจทำให้ริมฝีปากแห้ง ปากลอก หรือ ปากแตกร่วมด้วย
  • ขาดวิตามิน-ภาวะขาดสารอาหาร การขาดสารอาหาร หรือ วิตามินบางชนิด เช่น วิตามินE วิตามินC กรดไฮยาลูโรนิค เรตินอล เป็นต้น ซึ่งอาจทำให้ภาวะปากแห้งได้ง่าย
  • ริมฝีปากแห้งจากภูมิแพ้ โรคเรื้อรังหรือภาวะทางผิวหนัง โรคภูมิแพ้ เช่น โรคผิวหนังอักเสบ หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง ที่อาจส่งผลให้เกิดอาการปากแห้ง แตก ปากลอกเป็นขุยได้ หรือ เกิดการระคายเคืองได้
  • การแพ้ผลิตภัณฑ์บางชนิด ซึ่งอาจเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อริมฝีปาก เช่น ลิปสติก ลิปปาล์ม น้ำยาบ้วนปาก ยาสีฟัน เป็นต้น

ผลเสียของ ปากแห้ง ปากเป็นร่อง มีอะไรบ้าง?

การปล่อยให้ปากแห้งบ่อย ๆ อาจส่งผลต่อริมฝีปากในระยะยาวได้เช่น ปากลอกเป็นขุย หรือ บางคนที่ปากแห้งมากๆริมฝีปากอาจจะลอกเป็นแผ่น อาจทำให้เกิดแผล มีเลือดออกได้ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้ปากมีริ้วรอย ปากเป็นร่อง ทำให้ดูแก่ก่อนวัย และสีปากคล้ำลง หรืออาจเกิดแผลที่ติดเชื้อได้

ปากแห้งลอกแบบไหนที่ควรไปพบหมอ

จริงอยู่ที่อาการปากแห้งลอกนั้นถือว่าเป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุกวัยแต่หากมีอาการปากแห้งลอกร่วมกับอาการดังต่อไปนี้ให้รีบเข้าพบแพทย์เพื่อวินัจฉัยถึงสาเหตุและเข้ารับการรักษาอย่างทันที

  • ปากแห้งลอกร่วมกับเจ็บคอ
  • ปากแห้งลอกร่วมกับมีแผลในช่องปาก
  • ปากแห้งลอกร่วมกับมีกลิ่นปาก
  • ปากแห้งลอกร่วมกับอาการเจ็บแสบที่ลิ้น

โรคแทรกซ้อนของอาการปากแห้งลอก

ปัญหาปากแห้งนั้นหลายๆ คนอาจคิดว่าไม่เรื่องอันตราย แต่จะบอกเลยว่าไม่ควรละเลยใจเพราะหากยิ่งปล่อยไว้นานๆ ก็อาจนำไปสู่การเกิดโรคแทรกซ้อนได้ ดังนี้

  • เสี่ยงต่อการติดเชื้อราในช่องปาก
  • เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาฟันฝุ และโรคเหงือก
  • อาการปากแห้งจะทำให้เกิดปัญหาในการใส่ฟันปลอมได้ยากลำบากมากยิ่งขึ้น

วิธีแก้ริมฝีปากแห้งแตก ไม่ให้ปากเป็นร่อง

วิธีแก้ริมฝีปากแห้งแตก
  1. การรักษาริมฝีปากให้ชุ่มชื่น อวบอิ่มขึ้นจะช่วยทำให้ปัญหาปากแห้ง ปากแตก นั้นลดลง ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธีทั้งการดูแลตัวเอง และดูแลด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ หรือ หัตถการทางการแพทย์ ดังนี้
  2. ดื่มน้ำมากขึ้น การดื่มน้อยอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย (แนะนำให้จิบบ่อยๆ) จะช่วยป้องกันปัญหาปากแห้ง และ ทำให้ริมฝีปากชุ่มชื้นอยู่ตลอด
  3. พยายามไม่เลียริมฝีปาก เพราะนำลายเป็นตัวดูดความชุ่มชื้นของริมฝีปาก ยิ่งเลียปากก็ยิ่งทำให้ปากแห้งมากยิ่งขึ้น ดังนั้นห้ามเลียปากเด็ดขาด
  4. ทาลิปมันบ่อยๆ การทาลิปมันบ่อยๆ อาจจะไม่ใช้การแก้ไขปัญหาปากแห้งโดยตรง แต่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งสามารถช่วยไม่ทำให้ปากไม่แห้งลอกได้
  5. สครับปาก การสคลับผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบริเวณริมฝีปากให้หลุดออกไป จะช่วยให้ปากเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น และ สดใสขึ้น
  6. ฉีดฟิลเลอร์แก้ปากแห้ง เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน เนื่องจาก “การฉีดฟิลเลอร์ปาก” เป็นสารอุ้มน้ำ ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์จึงเป็นการแก้ปัญหาปากแห้งได้อย่างตรงจุด เหมาะกับคนที่มี ปากแห้ง ปากแตกเป็นร่อง

อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ปาก สไตล์ไหนดี ช่วยให้ปากอวบอิ่ม สวยละมุนในครั้งแรก

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้ปาก

ฟิลเลอร์ปาก

การฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยแก้ปัญหาปากแห้งได้โดยตรงเพราะ Hyaluronic Acid เป็นสารที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำจึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากได้ อีกทั้งยังเป็นหัตถการที่สะดวกและปลอดภัย สามารเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้หลังทำทันที

ข้อควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์แก้ร่องปาก

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นไม่ก่อให้อันตรายอย่างที่หลายๆคนกังวล หลากได้รับการทำหัตถการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยใช้ฟิลเลอร์ของแท้ แต่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ กรณีที่คนไข้เคยผ่านการผ่าตัดริมฝีปากมาก่อน

ฉีดฟิลเลอร์แก้ปากแห้งสามารถอยู่ได้นานแค่ไหน

ระยะเวลาการเห็นผลของการฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นจะมีอายุอยู่ที่ 6-12 เดือนขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ ซึ่งนอกจากนั้นหากฉีดแล้วมีการดูแลตัวเองให้ดีเช่น ทาลิปบำรุงอยู่สม่ำเสมอ ดื่มน้ำเยอะๆ ก็จะช่วยยืดเวลาการสลายของฟิลเลอร์ออกไปได้ระยะหนึ่ง

รีวิว ฉีดฟิลเลอร์แก้ปัญหาปากแห้งเป็นร่อง

ฉีดฟิลเลอร์แก้ปากเป็นร่อง

เคสนี้คนไข้จะมีปัญหาเป็นร่องเล็กๆ และขาดความชุ่มชื้น หลังการฉีดฟิลเลอร์จะสังเกตุเห็นได้ว่าริมฝีปากดูชุ่มชื้นขึ้นและริ้วรอยรอบริมฝีปากดูจางลงทันที

รีวิวแก้ปากแห้ง ปากแตก

เคสนี้คนไข้เป็นคนปากบางที่มีปัญหาปากแห้งและแตก ริมฝีปากไม่เป็นทรง หลังการฉีดจะเห็นได้ว่าริมฝีปากดูหนาขึ้น ริมฝีปากเป็นทรงชัดเจนมากยิ่งขึ้น อาการปากแห้งดูลดน้อยลง

สรุป

สำหรับคนไข้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ปากเพื่อแก้ไขปากเป็นขุย แห้ง แตกตกร่องมีริ้วรอยริมฝีปาก การเติมฟิลเลอร์ก็เป็นทางเลือกที่ได้ผลดีและมีความปลอดภัยสูง ในปัจจุบันมียี่ห้อฟิลเลอร์ให้เลือกหลากหลายรุ่น หลายราคา จากหลายประเทศที่ได้รับมาตรฐานอย.ในไทย สามารถปรึกษาแพทย์ประจำคลินิกเพื่อปรึกษาฟิลเลอร์ปากก่อนตัดสินใจได้เลยที่กังนัมคลินิกทุกสาขา

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง