อายครีม (Eye Cream) คืออะไร? ช่วยแก้ใต้ตาดำคล้ำได้จริงหรือไม่?

อายครีม ช่วยแก้ใต้ตาคล้ำ จริงไหม

ในยุคที่ผู้คนต่างเริ่มหันมาใส่ใจและดูแลตัวเองกันมากขึ้นทั้งในเรื่องของสุขภาพและความสวยความงาม ซึ่งในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกกันถึงเรื่องของอายครีม ที่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญในการดูแลตัวเองว่า อายครีมนั้นคืออะไร ช่วยเรื่องไหนและจริงหรือไม่ที่อายครีมช่วยแก้ใต้ตาคล้ำได้

รู้จักกับ อายครีม คืออะไร?

อายครีมคืออะไร

อายครีม (Eye cream) คือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวใต้ตาในรูปแบบครีมหรือเซรั่ม ซึ่งจะอัดแน่นไปด้วยส่วนผสมสำคัญหลาย ๆ ตัวที่จำเป็นต่อผิวรอบดวงตา โดยสรรพคุณหลัก ๆ ของอายครีมนั้นก็คือ การช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น การปรับผิวใต้ตาให้กระจ่างใส ลดความหมองคล้ำ และการช่วยชะลอรวมถึงป้องกันการเกิดริ้วรอยรอบดวงตานั่นเอง เนื่องจากผิวบริเวณรอบดวงตานั้นถือเป็นจุดที่มีสภาพผิวที่บอบบางระคายเคืองง่าย และง่ายมากต่อการปัญหาผิวต่าง ๆ

ปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลให้มีปัญหาใต้ตา

หากจะให้พูดถึงสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหาผิวใต้ตานั้นก็ต้องบอกเลยว่า สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยที่มาเป็นตัวกระตุ้น ดังนี้

  • พันธุกรรม ปัญหาใต้ตาคล้ำหรือการมีปัญหาเบ้าตาลึกนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากการส่งต่อกันทางพันธุกรรมได้เช่นกัน
  • จากปัญหาสุขภาพ โดยโรคบางโรคเช่น โรคภูมิแพ้ โรคที่เกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด ที่จะทำให้มีปัญหาเลือดคั่งอยู่ที่บริเวณใต้ตาจนส่งผลให้เกิดปัญหาใต้ตาดำคล้ำขึ้นได้
  • จากการพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งการอดนอนนั้นถือเป็นส่วนสำคัญอย่างมากที่จะทำให้เส้นเลือดใหญ่บริเวณใต้ตาขยายตัวจนทำให้ใต้ตาคล้ำขึ้น นอกจากนั้นยังทำให้คอลลาเจนในผิวเกิดความเสื่อมโทรมจนเกิดริ้วรอยใต้ตา และร่องลึกได้
  • ปัญหาร่างกายขาดน้ำ การที่ร่างกายขาดน้ำมากๆ จะส่งผลทำให้เกิดปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวหมองคล้ำและผิวไม่กระจ่างใสได้
  • ปัญหาความเครียด เมื่อเรามีความเครียดร่างกายของเราจะมีการหลั่งฮอร์โมนที่จะเข้าไปกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินในชั้นผิว จึงทำให้เกิดปัญหาใต้ตาดำคล้ำได้ง่าย
  • ปัญหาพฤติกรรมการขยี้ตา พฤติกรรมการขยี้ตาจะส่งผลทำให้ผิวใต้ตาช้ำขึ้น จนทำให้ผิวเกิดริ้วรอยและใต้ตาคล้ำขึ้นได้ง่าย
  • การถูกแสงแดงทำร้ายผิว เนื่องจากผิวรอบๆ ดวงตานั้นมีความบอบบางและอ่อนโยนกว่าส่วนอื่นๆ บนใบหน้า ดังนั้นเวลาถูกแสงแดดทำร้ายก็จะเกิดปัญหาผิวดำคล้ำและทำให้คอลลาเจนส่วนนั้นเกิดการเสื่อมโทรมได้ง่ายกว่าส่วนอื่นๆ
  • พฤติกรรมการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้เส้นเลือดใต้ตาขยายตัวจนทำให้เกิดใต้ตาคล้ำ รวมไปถึงสารนิโคตินในบุหรี่จะเข้าไปทำลายคอลลาเจนในชั้นผิวทำให้เกิดริ้วรอยร่องลึก

อายครีมช่วยเรื่องอะไร

ซึ่งหน้าที่หลักๆ ของการทาอายครีมก็คือช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวบริเวณใต้ดวงตาหรือรอบๆ ดวงตา โดยมีส่วนช่วยฟื้นฟูผิวดังนี้

  • ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น แก้ปัญหาผิวแห้งหยาบกร้านบริเวณรอบดวงตา
  • ช่วยบำรุงผิวให้มีความกระจ่างใส แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตาหมีแพนด้า
  • ช่วยแก้เพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิวใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตาหย่อนคล้อย
  • ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาบวมจากปัญหาสุขภาพและการนอนน้อย
  • ช่วยลดหรือชะลอการเกิดริ้วรอยรอบ ๆ ดวงตา

อายครีมเหมาะกับใครบ้าง?

  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวใต้ตาแห้ง แต่งหน้าแล้วไม่ติดหรือตกร่อง
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาดำคล้ำ จากการพักผ่อนน้อยและปัญหาสุขภาพ
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวรอยร่องลึกบริเวณรอบดวงตา

ทำไมอายครีมถึงสำคัญ

ทำไมอายครีมถึงสำคัญ

เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะคิดว่าการทาอายครีมนั้นไม่สำคัญซึ่งไม่เป็นความจริงเลย เพราะผิวรอบๆ ดวงตานั้นมีความบอบบาง อ่อนโยน และเป็นจุดที่ต้องการดูแลการบำรุงมากกว่าส่วนอื่นๆ และนอกจากนั้นอายครีมจะเป็นตัวช่วยบำรุงผิวบริเวณรอบๆ ดวงตาให้กลับมาชุ่มชื้น กระจ่างใส และมีความสุขภาพดีขึ้น

อายครีมที่ดีควรมีส่วนผสมของอะไรบ้าง

โดยส่วนใหญ่แล้วผลิตภัณฑ์อายครีมที่วางขายกันอยู่ตามท้องตลาดนั้นจะมีส่วนผสมเด่นหลักๆ อยู่ไม่กี่อย่างเช่น

ส่วนผสมที่มักพบในอายครีม
  • กรดไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid หรือ HA) เป็นสารที่มีส่วนสำคัญในการช่วยบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้น มีความยืดหยุ่นขึ้นและยังช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยขึ้นในอนาคตได้
  • ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) เป็นสารที่จะช่วยกู้ปัญหาผิวหมองคล้ำ ลดรอยดำ รอยแดง รวมไปถึงช่วยลดอาการระคายเคืองผิว พร้อมปรับผิวให้มีความกระชับป้องกันริ้วรอยได้ดี
  • เรตินอล (Retinoids) หรือมีอีกชื่อเรียกว่า อนุพันธ์วิตามินเอ (Vitamin A) เป็นสารที่พบมากในกลุ่มผลิตภัณฑ์ช่วยลดริ้วรอย ร่องลึก พร้อมมีส่วนช่วยเสริมผิวให้มีความแข็งแรงและเรียบเนียน
  • เปปไทด์ (Peptide) มีส่วนสำคัญอย่างมากในการช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว และช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไวในผิวให้ผิวมีความยืดหยุ่น แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
  • วิตามินซี (Vitamin C) มีคุณสมบัติในการช่วยปรับผิวให้มีความกระจ่างใส ช่วยทำลายเม็ดสีในชั้นผิว พร้อมปรับสีผิวให้มีความสม่ำเสมอกัน

อายครีมต้องทาตรงไหน

อายครีมต้องทาตรงไหน

การทาอายครีมจะต้องทาในบริเวณรอบๆ ดวงตาในปริมาณขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียว โดยควรจะทาเน้นในจุดใต้ตาร่วมกับการนวดเบาๆ แต่ควรทาให้ห่างจากขอบตาประมาณ 1 เซนติเมตรเพื่อป้องกันไม่ให้อายครีมไหลเข้าดวงตาจนแสบได้

ควรอายครีมทาวันละกี่ครั้ง

การทาอายครีมนั้นควรทาวันละ 1-2 ครั้งเป็นประจำเช้า-เย็นเพื่อบำรุงผิวรอบดวงตาให้มีความชุ่มชื้นและยืดหยุ่นขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาผิวต่างๆ เช่น ใต้ตาคล้ำ ริ้วรอย ผิวแห้งกร้านขึ้นได้ในอนาคต

อายครีม ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาได้จริงไหม

การทาอายครีมเป็นประจำทุกวันนั้นสามารถช่วยแก้ปัญหาใต้ตาได้จริง แต่ทั้งนี้ก็จะต้องใช้ระยะเวลาที่นานพอสมควรจึงจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคนด้วยว่ามีมากน้อยแค่ไหน เช่น หากมีริ้วรอยที่ลึกมากๆ ก็ควรจะใช้วิธีการฉีดฟิลเลอร์ร่วมด้วย เนื่องจากการทาอายครีมไม่สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยได้มากขนาดนั้นแต่จะเด่นในเรื่องการป้องกันริ้วรอยเสียมากกว่า

ใช้ครีมทาหน้าแทนอายครีมได้ไหม

จริงๆ แล้วสามารถใช้ครีมทาหน้าแทนการใช้อายครีมได้ แต่ก็ควรดูส่วนผสมของตัวครีมเนื่องจากจุดที่ทาอายครีมนั้นผิวมีความบอบบางและอยู่ใกล้ดวงตาของเรามากๆ จึงทำให้เสี่ยงต่อการแสบตาหรืออาการระคายเคืองที่ดวงตาได้

นอกจากการทาอายครีมแล้วบำรุงใต้ตา ด้วยวิธีไหนได้บ้าง

สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีการฟื้นบำรุงผิวรอบดวงตานั้นก็ต้องบอกเลยว่าการทาอายครีมถือเป็นการดูแลตัวเองที่ดีแต่ก็ควรเลือกใช้วิธีการบำรุงอื่นๆ ร่วมด้วยเพื่อให้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น ซึ่งวิธีที่เราแนะนำมีดังนี้

1. มาส์กใต้ตา

การมาสก์ผิวใต้ตา

เป็นวิธีการช่วยบำรุงผิวใต้ตาให้มีความชุ่มชื้นขึ้นเนื่องจากตัวมาร์คถูกออกแบบขึ้นมาให้มีขนาดที่พอเหมาะกับผิวใต้ตาและอุดมไปด้วยสารบำรุงต่าง ๆ มากมายที่จะช่วยบำรุงผิวให้มีความสดชื่นและมีชีวิตชีวามากขึ้น และการมาส์กใต้ตายังเป็นวิธีที่สามารถทำได้ง่ายและทำได้ทุกวันโดยมีราคาค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้สูงมากนัก

2. ฉีด Cytocare

ฉีด Cytocare ใต้ตา

เป็นการฉีดตัวยาเมโสยี่ห้อไซโตแคร์ (Cytocare) ที่ประกอบได้ด้วย HA (Hyaluronic acid), กรดอะมิโน และวิตามินที่จำเป็นต่อผิวอยู่หลายที่จะช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ให้กลับมากระจ่างใส ชุ่มชื้น ลดใต้ตาดำและช่วยลดริ้วรอยต่างๆ ได้ดี ซึ่งมีข้อดีคือสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำและในการทำ 1 ครั้งสามารถเห็นผลได้ 1-2 เดือน

3. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

แก้ปัญหาใต้ตาด้วยฟิลเลอร์

เป็นวิธีการฉีดสาร Hyaluronic acid ที่มีความใกล้เคียงกับสาร Hyaluronic acid ในร่างมนุษย์ซึ่งวิธีนี้จะเด่นในเรื่องของการแก้ปัญหาร่องลึกใต้ตา ริ้วรอยรอบๆ ดวงตา พร้อมช่วยปรับผิวส่วนนั้นให้มีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบันได้มียี่ห้อฟิลเลอร์ให้เลือกหลายยี่ห้อหลายรุ่น และเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างมากนอกจากนั้นยังสามารถเห็นผลได้ทันทีและเห็นผลได้นาน 6-12 เดือน

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ลดปัญหาใต้ตาลึกและคล้ำ ให้ดูสดใส ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

4. สะกิดเมโสใต้ตา

เป็นวิธีการใช้เข็มเล็กๆ ในการสะกิดเพื่อเปิดผิวหนังชั้นนอกเพื่อให้ตัวยาเมโสสามารถซึมลงสู่ชั้นผิวได้ดีกว่าการทาครีม โดยในปัจจุบันได้มียี่ห้อเมโสให้เลือกมากมาย ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปแต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะช่วยบำรุงผิวใต้ตาให้มีความชุ่มชื้นและกระจ่างใสขึ้น พร้อมช่วยลดริ้วรอยเล็กๆ รอบดวงตาได้ดี

5. เลเซอร์แก้ใต้ตาดำ

วิธีนี้จะใช้การยิงแสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นสูงเข้าไปช่วยดักจับและทำลายเม็ดสีเมลานินในชั้นผิวที่เป็นสาเหตุของใต้ตาคล้ำให้กลับมากระจ่างใสขึ้น และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวให้เพิ่มขึ้นเพื่อแก้ปัญหาร่องลึก ผิวหย่อนคล้อย ซึ่งเครื่องเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมคือ Q-switched laser, long pulsed Nd-Yag laser เป็นต้น

6. เจลเย็นประคบใต้ตา

แผ่นเจลเป็นถือเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ออกมาเพื่อช่วยบรรเทาอาการใต้ตาบวม ขอบตาคล้ำ ซึ่งตัวแผ่นเจลนั้นจะต้องนำไปแช่เย็นก่อนแล้วค่อยนำมาประคบที่ตาซึ่งความเย็นจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อบริเวณดวงตาเกิดการคลายตัว ช่วยแก้ปัญหาเส้นเลือดตาขยายจนทำให้เกิดปัญหาใต้ตาคล้ำได้ดี วิธีนี้นอกจากจะช่วยแก้ใต้ตาคล้ำแล้วยังช่วยผ่อนคลายแก้อาการปวดเบ้าตาจากการจ้องจอคอมนานๆ ได้อีกด้วย

7. ประคบใต้ตาด้วยถุงชา

วิธีนี้คือการนำถุงชาที่ใช้แล้วมาตากให้แห้งและนำเข้าตู้เย็น แล้วจึงนำมาประคบไว้ที่บริเวณตาประมาณ 5-10 นาที ซึ่งความเย็นจะช่วยลดอาการบวม และตัวคาเฟอีนในถุงชาจะช่วยบรรเทาอาการใต้ตาคล้ำให้กลับมากระจ่างใสขึ้น

8. ร้อยไหมฟิลเลอร์ใต้ตา

คือวิธีการร้อยไหมที่จะช่วยแก้ปัญหาผิวใต้ตาดำ ใต้ตาหมีแพนด้า ช่วยยกกระชับผิวให้มีความเต่งตึง เรียบเนียนขึ้นจึงทำให้สามารถช่วยลดพวกริ้วรอยต่างๆ ได้ดีมากๆ พร้อมยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินให้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย และยังสามารถเห็นผลได้นาน 6-8 เดือนหรือในบางรายอาจเห็นผลได้นานถึง 12 เดือน

9. ใช้ผักผลไม้บำรุงใต้ตา

ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะใช้ผักและผลไม้ในครัวนำมาฝ่านบางๆ แล้วนำมาประคบทิ้งไว้บริเวณใต้ตาเพื่อให้สารบำรุงและวิตามินต่างๆ ในผักและผลไม้ซึมลงสู่ชั้นผิว เพื่อช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นและกระจ่างใส โดยผลไม้ที่เป็นที่นิยมอย่างเช่น แตงกวา มะเขือเทศ ว่านหางจระเข้

10. นวดใต้ตา

การนวดใต้ตา

เป็นวิธีการนวดเพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้น และช่วยลดอาการบวมได้ดี ซึ่งวิธีนี้จะต้องใช้นิ้วหรือกัวซาเข้ามาช่วยนวดเบาๆ อย่างเป็นประจำทุกวันเช้า-เย็น และจะต้องใช้ระยะเวลาในการเห็นผลลัพธ์แต่มีข้อดีคือประหยัดค่าใช้จ่าย

11. ฉีดโบท็อกลดริ้วรอย

Botox ลดริ้วรอยใต้ตา

การฉีดโบท็อกซ์เป็นอีกหนึ่งวิธีในการช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึก รวมไปถึงแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย หนังตาตกได้ดีด้วยการฉีดโบท็อกจากสารสกัดแบคทีเรียอย่างโบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin) ที่จะเข้าไปทำงานในรบกวนการระบบประสาทควบคุมกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหดตัวลง ส่งผลให้ผิวมีความกระชับเต่งตึงมากยิ่งขึ้น

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดโบท็อกลดริ้วรอย บนใบหน้าจุดไหนได้บ้าง? อันตรายไหม กี่วันเห็นผล?

12. ใช้เครื่องยกกระชับผิวใต้ตา

คือการใช้พลังงานคลื่นในการเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวมีความกระชับ เรียบเนียน แก้ริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ นอจากนั้นยังสามารถช่วยปรับแก้ปัญหาคิ้วตก หางตาตกได้เป็นอย่างดี ซึ่งตัวคลื่นที่ได้รับความนิยมหลัก ๆ จะมีอยู่ 2 คลื่นได้แก่

  • คลื่นอัลตร้าซาวด์แบบเข้มข้น : มักพบได้ในกลุ่มเครื่อง Hifu, Ulthera และ Ultraformer III เป็นต้น
  • คลื่ยวิทยุ RF : มักพบได้ในกลุ่มเครื่อง Thermage เป็นต้น

วิธีป้องกันปัญหาใต้ตาดำคล้ำและริ้วรอย ร่องลึก

วิธีป้องกันปัญหาใต้ตาดำคล้ำและริ้วรอย ร่องลึก

หลังจากที่เราทราบถึงวิธีการบำรุงเพื่อแก้ปัญหาบริเวณรอบดวงตากันไปแล้วต่อไปเรามาดูกันบ้างว่ามีวิธีไหนบ้างที่ช่วยป้องกันการเกิดปัญหาผิวที่ใต้ตาได้บ้าง

  • การงดพฤติกรรมการขยี้ตาแบบแรงๆ เพราะจะทำให้ผิวใต้ตาเกิดการช้ำจนทำให้ใต้ตาดำคล้ำได้
  • หมั่นบำรุงผิวใต้ตาเพื่อบำรุงให้ผิวมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอเพื่อป้องกันริ้วรอยในอนาคต
  • เลี่ยงการนอนดึกหรือการพักผ่อนน้อย เพื่อให้ร่างกายสามารถซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมโทรมได้ดีในช่วงที่นอนหลับ
  • เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์รวมไปถึงการสูบบุหรี่เนื่องจากพฤติกรรมเหล่านี้จะไปทำลายคอลลาเจนในผิวให้เสื่อมโทรมลง

สรุป ทาอายครีม ดีจริงไหม?

การทาอายครีม (Eye cream) นั้นถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการช่วยบำรุงผิวบริเวณรอบดวงตาให้กลับมาชุ่มชื้น กระจ่างใสมากยิ่งขึ้น ซึ่งการทาอายครีมนั้นจะต้องทำเป็นประจำทุกวันและจะต้องใช้ระยะเวลาในนานกว่าจะเริ่มเห็นผล ซึ่งสำหรับใครที่อยากจะกู้ปัญหาใต้ตาแบบเร่งด่วนแนะนำให้ทำหัตถการอย่าง สะกิดเมโส, ฉีดไซโตแคร์, ฉีดฟิลเลอร์ หรือการทำเลเซอร์ร่วมด้วย

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง