ฉีดฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยว คืออะไร? อันตรายไหม ช่วยให้มือกลับมานุ่มเนียนอ่อนเยาว์จริงไหม?
ปัญหามือเหี่ยวเป็นอีกปัญหาที่บ่งบอกถึงอายุที่มากขึ้น จึงทำให้ใครหลายๆ คนหันมาสนใจในการบำรุงผิวมือกันมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อคงความอ่อนเยาว์ของผิวมือให้ได้นานที่สุด ซึ่งหนึ่งในวิธีแก้ปัญหามือเหี่ยวได้ดีนั้นก็คือการฉีดฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยวซึ่งหัตถการนี้คืออะไร ดีอย่างไรและเหมาะกับใครบ้างในบทความนี้เราได้รวบรวมข้อมูลมาไว้ให้แล้ว
รู้จักการฉีดฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยว
การฉีดฟิลเลอร์มือ (Hand Filler) คือหัตถการทางความงามด้วยการฉีดสารเติมเต็มกลุ่มไฮยาลูรอนิค เอซิด หรือ Hyaluronic Acid (HA) เข้าไปในชั้นผิวบริเวณหลังมือเพื่อให้ตัวสาร HA ที่มาในรูปแบบของเนื้อเจลเข้าไปทำให้ผิวหลังมือมีความเต่งตึง เรียบเนียนและกลับมาอ่อนเยาว์ขึ้นอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากปลอดภัยและสามารถเห็นผลไวได้อย่างทันทีหลังทำ
เนื่องจากตัวฟิลเลอร์ยี่ห้อต่างๆ ในปัจจุบันนั้นหากเป็นฟิลเลอร์ของแท้จะเป็นการใช้กลุ่มไฮยาลูรอนิค เอซิดที่มีความบริสุทธิ์สูง และมีความใกล้เคียงกับไฮยาลูรอนิค เอซิดในร่างกายมนุษย์จึงทำให้สามารถช่วยลดอาการต่อต้านสารฟิลเลอร์ได้เป็นอย่างดีและที่สำคัญหลายๆ ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่มีในไทยก็ล้วนต้องผ่านการรับรองความปลอดภัยจากอย.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หลักการทำงานของฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยว
เนื่องจากตัวเนื้อฟิลเลอร์จะมีลักษณะเป็นเนื้อเจลที่จะมีความหนืดมากน้อยแตกต่างกันออกไปในแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ ซึ่งเมื่อฉีดเข้าไปแล้วตัวเนื้อจะเข้าไปทำหน้าที่ในการทดแทนคอลลาเจน*ในชั้นผิวที่เสื่อมโทรมไป ส่งผลทำให้ผิวหลังมือมีความเรียบเนียน เต่งตึงขึ้นอย่างทันที นอกจากนั้นยังสามารถช่วยทำให้ผิวหลังมือมีความชุ่มชื้นขึ้นอีกด้วยเนื่องจากตัวเนื้อฟิลเลอร์มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของการอุ้มน้ำนั่นเอง
*คอลลาเจน (Collagen) ในผิวหนังมีหน้าที่สำคัญก็คือการช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิวและช่วยพยุงโครงสร้างของผิวให้มีความกระชับ เรียบเนียนและเต่งตึงขึ้น แต่เมื่อเราอายุเข้าสู่วัย 25 ปีขึ้นไปร่างกายก็จะเริ่มผลิตคอลลาเจนออกมาได้น้อยลงเรื่อยๆ จนทำให้เกิดปัญหาผิวเหี่ยวย่น ผิวมีริ้วรอย ร่องลึกนั่นเอง
เปิดลักษณะมือเหี่ยวหรือมือดูแก่
ลักษณะมือเหี่ยวนั้นโดยปกติที่พบได้บ่อยๆ จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ลักษณะเด่นๆ ดังนี้
- หลังมือเหี่ยวร่วมกับการปูดโปนของเส้นเลือด : มือเหี่ยวในลักษณะนี้มีสาเหตุการเกิดมาจากการยุบตัวของชั้นไขมันใต้ผิวที่ยุบตัวลงทำให้ส่วนของเส้นเลือดใต้ผิวหนังเกิดการปูดโปน ซึ่งลักษณะการยุบตัวของไขมันแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้หลายจุดไม่ว่าจะเป็น ใต้ตา, ร่องแก้มและส่วนขมับเป็นต้น
- หลังมือเหี่ยวร่วมกับการเกิดจุดด่างสีดำหรือขาว : มือเหี่ยวในลักษณะนี้มักมีสาเหตุการเกิดมาจากการสูญเสียคอลลาเจนใต้ชั้นผิวจนทำให้เกิดมือเหี่ยวร่วมกับการที่มีถูกแสงแดดทำร้ายผิวบ่อยๆ จนทำให้เกิดเป็นจุดด่างดำหรือจุดด่างสีขาวเกิดขึ้น ซึ่งอาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนบนร่างกายแต่มักพบได้บ่อยในจุดที่สูงแสงแดดจัดๆ อย่างหลังมือ หลังเท้า บริเวณโหนกแก้มเป็นต้น
ไขสาเหตุของการเกิดปัญหามือเหี่ยว
ปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหามือเหี่ยวนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายสาเหตุด้วยกัน ดังนี้
- อายุที่มากขึ้น : เมื่อคนเราอายุเพิ่มมากขึ้นร่างกายก็จะทำการผลิตคอลลาเจนในผิวได้น้อยลงเรื่อยๆ ส่งผลทำให้ผิวเกิดความยืดหยุ่น จนนำไปสู่ปัญหาริ้วรอย ผิวเหี่ยวย่นในที่สุด
- การไม่บำรุงผิวมือ : ผิวมือถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่หลายๆ คนเกิดความละเลยในการดูแลทั้งการทาครีมบำรุงมือ การทาครีมกันแดด จนทำให้เกิดปัญหาผิวแห้ง ผิวเหี่ยวย่น และเป็นฝ้า กระที่หลังมือได้ง่ายมากๆ
- พฤติกรรมการสัมผัสสารเคมีต่างๆ : มือถือเป็นอวัยวะที่สัมผัสกับสารเคมีหรือสารต่างๆ ได้บ่อยสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่าง ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน เจลแอลกอฮอล์และอีกมากมาย ซึ่งสารเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวมือเหี่ยวย่นและแห้งกร้านนั่นเอง
- การถูกแสงแดด มลภาวะทำร้ายผิว : แน่นอนว่าแสงแดด แสงยูวี แสงไฟต่างๆ รวมไปถึงพวกฝุ่น มลภาวะก็เป็นอีกปัจจัยที่สามารถทำร้ายผิวของเราได้ ผิวมือเองก็เช่นกันบวกกับคนเรามักจะไม่ค่อยใส่ใจเรื่องการทาครีมกันแดดมือ จึงส่งผลทำให้แสงต่างๆ สามารถทำร้ายผิวมือจนเหี่ยวย่นได้นั่นเอง
วิธีการดูแลผิวมือเพื่อป้องกันมือเหี่ยว
ต่อไปเรามาดูกันบ้างว่าวิธีการดูแลรักษาแก้ปัญหามือเหี่ยวนั้นจะมีวิธีไหนกันบ้าง ซึ่งเราก็ขอแนะนำทั้งหมด 4 วิธียอดนิยม ดังนี้
- บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น : ไม่ว่าจะเป็นการทาครีม ทาออยล์หรือจะเลือกใช้เป็นตัว Hand Cream โดยเฉพาะก็ได้เพื่อบำรุงผิวมือให้มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ และควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันเพื่อปกป้องการเสื่อมของคอลลาเจนในผิวใช้ช้าลงนั่นเอง
- งดล้างมือด้วยน้ำอุ่น : น้ำอุ่นหรือน้ำร้อน ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ผิวมือแห้งและเหี่ยวได้ง่ายกว่าปกติ ดังนั้นควรล้างมือในน้ำอุณหภูมิปกติ และเลี่ยงการใช้เจลแอลกอฮอล์ในการล้างมือโดยหันไปล้างมือด้วยน้ำและสบู่ล้างมือสูตรอ่อนโยนแทน
- ไม่ปล่อยให้มือสัมผัสกับสารเคมีโดยตรง : ไม่ว่าจะเป็นสารเคมีกลุ่มน้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก ครีมเปลี่ยนสีผมต่างๆ โดยก่อนใช้ควรมีการสวมถุงมือยางก่อนทุกครั้ง
- การฉีดฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยว : วิธีนี้เป็นวิธีที่ช่วยทำให้ผิวมือที่เหี่ยวให้กลับมาเต่งตึงขึ้นได้อย่างทันที ถือว่าเห็นผลไวกว่าวิธีอื่นๆ ที่กล่าวมาข้างต้น
ฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยวดีอย่างไร
- สามารถเห็นผลได้ทันที
- เห็นผลได้นานหลายเดือน โดยประมาณ 4-18 เดือนขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือก
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหลังมือ
- ช่วยปรับโครงสร้างผิวหลังมือให้มีความยืดหยุ่น
- ช่วยปรับผิวหลังมือให้มีความเรียบเนียน อ่อนเยาว์ขึ้น
ฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยวเหมาะ-ไม่เหมาะกับใครบ้าง
ผู้ที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยว
ผู้ที่ต้องการปรับผิวให้มีความเรียบเนียน เต่งตึงขึ้น ต้องการช่วยชะลอปัญหามือแก่ หรือผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาเส้นเลือดปูดที่บริเวณหลังมือ เนื่องจากจุดหลังมือนั้นถือเป็นอีกตำแหน่งที่เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงช่วงวัย เพราะปัญหามือเหี่ยวมักพบในกลุ่มผู้ที่มีอายุเยอะเท่านั้น
ผู้ที่ไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยว
- ผู้ที่มีประวัติการแพ้สารไฮยาลูรอนิค เอซิด
- สตรีที่กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
- ผู้ที่มีภาวะเลือดออกไม่หยุดหรือมีภาวะเลือดหยุดไหลยาก
- ผู้ที่มีประวัติการแพ้ยาชา
- ผู้ที่มีประวัติการเป็นแผลคีย์ลอยด์ได้ง่าย
ฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยวฉีดแล้วอันตรายไหม
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยวนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องความอันตรายเลย หากเข้ารับบริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐานเนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยวนั้นจะต้องฉีดโดยฟิลเลอร์ของแท้ที่เป็นฟิลเลอร์ที่มีความบริสุทธิ์สูงและผ่านการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของอย. ไทย
นอกจากนั้นยังควรฉีดโดยคุณหมอที่มีประสบการณ์สูง เนื่องจากในบริเวณหลังมือของเราจะเต็มไปด้วยเส้นเลือดที่สำคัญมากมาย จึงทำให้หมอต้องใช้เทคนิคในการฉีดเพื่อป้องกันการฉีดฟิลเลอร์แล้วไปอุดตันเส้นเดือนจนเกิดอันตรายแก่ชีวิตได้
ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยว
ไม่สามารถเห็นผลได้อย่างถาวร เนื่องจากฟิลเลอร์ของแท้จะสามารถสลายได้ในร่างกายมนุษย์ และมีราคาที่ค่อนข้างสูง (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้) ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายในการฉีดแต่ละครั้งนั้นค่อนข้างแพงสำหรับคนไข้บางกลุ่ม
ฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยวควรฉีดกี่ซีซี
เรื่องปริมาณเนื้อฟิลเลอร์ที่จะต้องใช้สำหรับการฉีดฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยวนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 ซีซีต่อหลังมือ 1 ข้าง แต่หากคนไข้ท่านไหนที่มีปัญหาหลังมือเหี่ยวและมีเส้นเลือดปูดที่เยอะมากๆ ก็อาจจะต้องใช้เนื้อฟิลเลอร์ที่มากขึ้นกว่าปกติ ทั้งนี้ก่อนทำสามารถเข้าพบคุณหมอเพื่อปรึกษาถึงปริมาณฟิลเลอร์ที่จำเป็นต้องใช้ก่อนได้
ฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยวเลือกยี่ห้อไหนดี
แล้วการฉีดฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยวนั้นควรจะเลือกฉีดยี่ห้อไหนดีนั้นทางกังนัมคลินิกเราขอแนะนำทั้งหมด 4 ยี่ห้อด้วยกันดังนี้
- ฟิลเลอร์ Juvederm (จากประเทศอเมริกา) โดยรุ่นที่แนะนำคือ Juvederm Volite
- ฟิลเลอร์ Restylane (จากประเทศสวีเดน) โดยรุ่นที่แนะนำคือ Restylane Vital Light
- ฟิลเลอร์ Belotero (จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์) โดยรุ่นที่แนะนำคือ Belotero Balance และ Belotero Intense
- ฟิลเลอร์ Neuramis (จากประเทศเกาหลี) โดยรุ่นที่แนะนำคือ Neuramis Deep Lidocaine
โดยหมอแนะนำให้เลือกรุ่นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อที่ละเอียด แต่เนื้อไม่ควรแข็งมากเกินไปเพราะอาจทำให้ฉีดแล้วเป็นก้อนได้เนื่องจากชั้นผิวหลังมือค่อนข้างมีความบางทำให้เห็นเป็นก้อนนูนของฟิลเลอร์ได้ง่าย
ฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยวกี่วันถึงจะเห็นผลลัพธ์
การฉีดฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยวนั้นถือเป็นหัตถการที่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างทันที แต่ในคนไข้บางรายอาจมีอาการบวมเกิดขึ้นหลังทำได้ แต่ไม่ได้เป็นอาการที่ร้ายแรงมากนักซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาในการทำให้เนื้อฟิลเลอร์ที่เข้าประมาณ 2 อาทิตย์จึงจะทำให้เห็นผลลัพธ์หลังทำได้อย่างเต็มที่
ฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยวราคาเท่าไหร่
สำหรับเรื่องราคาค่าใช้จ่ายในการฉีดฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยวนั้นที่กังนัมคลินิกเรามีโปรโมชั่นค่าฉีดฟิลเลอร์ดังนี้
- Juvederm (USA) เริ่มต้น 1cc = 10,693 บาท
- Restylane (Sweden) เริ่มต้น 1cc = 8,623 บาท
- Belotero (Switzerland) เริ่มต้น 1cc = 7,896 บาท
- Neuramis (Korea) เริ่มต้น 1cc = 5,966 บาท
ฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยว VS ฉีดไขมันแก้มือเหี่ยว
- ฉีดฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยว คือการฉีดสารไฮยาลูรอนิคในรูปแบบเจลเข้าไปเพื่อเติมเต็มชั้นผิวหนังหลังมือให้มีความเต่งตึงและเรียบเนียนขึ้น ซึ่งมีจุดเด่นคือด้วยเนื้อฟิลเลอร์ที่มีความละเอียดทำให้สามารถฉีดแก้ไขในจุดเล็กๆ อย่าง ข้อพับนิ้ว ข้อนิ้วได้ นอกจากนั้นฉีดฟิลเลอร์แล้วยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหลังมือได้ดีอีกด้วย
- ฉีดไขมันแก้มือเหี่ยว คือการฉีดไขมันของคนไข้เองเข้าไปทดแทนไขมันและคอลลาเจนที่สลายไป ซึ่งตัวคนไข้เองจะต้องผ่านกระบวนการดูดเอาไขมันออกมาก่อนตามจุดต่างๆ เช่น หน้าท้อง ต้นขา แล้วนำไขมันไปสู่การปั่นเพื่อคัดแยกไขมันดีแล้วจึงนำมาใช้ฉีดที่หลังมือ ข้อดีคือคนไข้จะไม่มีอาการแพ้หรือการปฏิเสธของร่างกายเนื่องจากเป็นไขมันของตัวเอง แต่ก็มีข้อเสียคือจะต้องเจ็บตัวหลายที่และอาจทำให้ฉีดแล้วเป็นก้อนได้ง่ายกว่าการฉีดฟิลเลอร์
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยว
- งดทานยาหรืออาหารเสริมกลุ่มที่ส่งผลต่อการหยุดไหลของเลือด เช่น Vitamin E, Primrose Oil, Ginkgo Biloba อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำ
- งดยากลุ่มที่ต้านการอักเสบของผิว เช่น ยาไอบูโรเฟน ยาแอสไพรินอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำ
- งดการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 วันก่อนฉีด
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยว
- งดการนวด กดผิว การเกาผิวแรงๆ หรือสวมใส่ถุงมือที่รัดผิวแน่นๆ ในจุดที่ฉีดฟิลเลอร์เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของเนื้อฟิลเลอร์จนผิดรูป
- งดการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันการกระตุ้นการอักเสบและทำให้เนื้อฟิลเลอร์เข้าที่ได้ช้าลง
- งดการให้มือสัมผัสกับความร้อนเพราะอาจทำให้เนื้อฟิลเลอร์สลายได้
- งดอาหารที่อาจกระตุ้นทำให้เกิดการอักเสบหรือแพ้ เช่น อาหารทะเล ของสแลงต่างๆ
- การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวันจะช่วยทำให้ฟิลเลอร์เห็นผลได้นานมากยิ่งขึ้น
- หมั่นทาครีมบำรุงผิวและทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากแสงและมลภาวะต่างๆ
เลือกฉีดฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยวที่ไหนดี
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีการเปิดอย่างถูกต้องโดยจะต้องมีใบอนุญาตการเปิดที่มีเลข 11 หลักอยู่
- คลินิกจะต้องมีแพทย์ประจำคลินิก และการฉีดฟิลเลอร์จะต้องทำโดยแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพจากแพทย์สภาเท่านั้น
- คลินิกจะต้องมีการใช้ฟิลเลอร์ของแท้ โดยก่อนฉีดจะต้องมีการแกะกล่องต่อหน้าคนไข้และคนไข้สามารถนำกล่องกลับบ้านได้
- คลินิกจะต้องมีรีวิวจากลูกค้าจริงและจะต้องเป็นรีวิวที่สามารถเชื่อถือได้
- คลินิกจะต้องมีที่ตั้ง และมีช่องทางการติดต่อที่สะดวกไม่ว่าจะเป็น Line, Facebook, Instagram และเบอร์โทรของแต่ละสาขา
สำหรับใครที่กำลังมองหาคลินิกสำหรับฉีดฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยวอยู่ขอแนะนำที่กังนัมคลินิกเราใช้ฟิลเลอร์ของแท้ทุกกล่อง และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงที่สำคัญมีหลายสาขาให้เลือกตามสะดวก
สรุป
การฉีดฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยวนั้นถือเป็นอีกหนึ่งวิธียอดนิยมในการช่วยแก้ปัญหามือเหี่ยวด้วยการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค เอซิดในการเข้าไปทำหน้าที่ทดแทนคอลลาเจนและไขมันที่เสื่อมสลายไป ซึ่งหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยวจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีเลยว่าผิวมีความเต่งตึงและเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังสามารถเห็นผลได้นาน 6-12 เดือนขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่เลือกฉีด
แต่ทั้งนี้การฉีดฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยวนั้นถึงแม้ว่าจะมีความปลอดภัยสูงแต่ก็ควรเข้าฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดโดยหมอที่มีประสบการณ์สูงจึงขอแนะนำที่กังนัมคลินิกเราพร้อมบริการในทุกๆ สาขาทั่วไทย โดยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line : @gangnamclinic หรือได้ที่กังนัมคลินิกทุกสาขา