ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่ พร้อมแนะนำวิธีทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ได้ดีเร็วขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่

การ ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่ คนไข้สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ในทันที ช่วงแรกหลังการฉีดฟิลเลอร์จะมีเพียงอาการบวม และเป็นรอยแดงๆเล็กๆ และจะค่อยๆดีขึ้นใน 3-4 วัน โดยอาการดังกล่าวจะหายไปและใบหน้าจะเริ่มเข้าที่ในระยะเวลาประมาณ 1 เดือนหลังจากฉีด

โดยปกติแล้วการฉีดฟิลเลอร์จะไม่ใช้ยาชาเพราะในฟิลเลอร์มียาชาผสมอยู่แล้ว แต่หากคนไข้กังวลกลัวเจ็บสามารถขอใช้ยาชาแปะบริเวณที่จะฉีดได้ จุดประสงค์ในการ ฉีดฟิลเลอร์ คือ การเติมเต็มร่องลึก ปรับรูปหน้า เติมวอลลุ่มให้ใบหน้าเป็นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ในคนไข้ที่ต้องการใช้ฟิลเลอร์ในการปรับรูปหน้าโดยไม่ผ่าตัดและไม่ต้องการพักฟื้น คุณหมออาจจะแนะนำให้โบท็อก หรือร้อยไหมร่วมด้วย หรือการฉีดสลายไขมันกรอบหน้าร่วมด้วยเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

แนะนำบทความที่เป็นประโยชน์

ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่ สามารถเห็นผลได้ในกี่วัน?

สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังจากฉีด แต่ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ ในการรอให้ ฟิลเลอร์เข้าที่กับรูปหน้า ทั้งนี้อาการบวมหลังจากฉีดจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งของเข็มฉีดยาที่ทิ่มลงไปบนใบหน้า โดยรอบๆ บริเวณที่ฉีดจะเป็นเพียงรอยเข็มเล็กๆเป็นจุดแดงๆ ซึ่งอาการดังกล่าวจะค่อยๆดีขึ้นใน 3-4 วัน และจะหายเองภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ซึ่งเป็นเวลาที่ฟิลเลอร์สมานรวมกับชั้นผิวให้เรียบเนียน

ทำอย่างไรให้ฟิลเลอร์เข้าที่ได้เร็วขึ้น?

ทำอย่างไรให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วขึ้น

จากผลการวิจัยพบว่า ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าหน้าของเราจะฟูสวย เซตเข้ากับรูปหน้าเต็มที่ 100% ใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 1 เดือนหลังจากฉีด โดยระยะเวลาในการอยู่บนใบหน้า ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์นั้นๆ หากคนไข้ต้องการให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วขึ้น แนะนำให้ดื่มน้ำเยอะๆ ประมาณ 2-3 ลิตรต่อวัน เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบของเซลล์ต่างๆในร่างกายของเราประมาณ 60% ซึ่งถือเป็นฟิลเลอร์มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายของเรา ฟิลเลอร์จะดูดซับน้ำไว้เพื่อช่วยในการเซตตัว นอกจากนี้ หากคนไข้มีอาการปวด บวม ช้ำ แนะนำให้กินแกนสัปปะรด เพราะในแกนสัปปะรดมีสาร bromelain ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้

หลังฉีดฟิลเลอร์มีข้อควรระวังอย่างไรบ้าง?

คนไข้ส่วนมาก ไม่มีอาการผิดปกติขั้นรุนแรง ซึ่งอาการที่พบโดยทั่วไปมักเป็นอาการบวมแดง เขียวช้ำ คัน บริเวณที่ฉีด โดยอาการดังกล่าวจะดีขึ้นใน 3 วัน ทั้งนี้แนะนำให้คนไข้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้ เพื่อลดอาการไม่พึงประสงค์

  • หลีกเลี่ยงการแกะ เกา นวดในบริเวณที่ฉีด
  • หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความร้อนทุกชนิด อาทิ ซาวน่า หรือทำเลเซอร์ เพราะความร้อนจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังอันส่งผลต่อบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ได้
  • หลีกเลี่ยงการกดทับบริเวณที่ฉีดภายใน 24 ชั่วโมง เพราะอาจส่งผลถึงการคลาดเคลื่อนของตำแหน่งของฟิลเลอร์ได้
  • นอกจากนี้คนไข้ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเสริม หรือใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีกรดผลไม้เป็นส่วนประกอบชั่วคราว เพราะสิ่งเหล่านี้อาจทำปฏิกิริยากับการฉีดฟิลเลอร์และเกิดภาวะช้ำ เป็นสาเหตุให้ผิวและบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เกิดอาการระคายเคืองได้
  • ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (เพราะอาจทำให้เลือดออกบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ได้)
  • งดการสูบบุหรี่

ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์มีอะไรบ้าง?

ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์

แม้จะไม่พบอาการรุนแรงหลังการฉีด และจัดว่าฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูงสุด แต่ในคนไข้บางกลุ่ม (ซึ่งสามารถพบได้เป็นจำนวนน้อยมาก) อาจมีผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระหว่างฉีด,ผลข้างเคียงในระยะแรก และผลข้างเคียงในระยะยาว

ผลข้างเคียงระหว่างฉีด : ลักษณะอาการคือ เส้นเลือดอุดตัน อันเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะเนื้อตาย และอาจเข้าไปสู่เส้นเลือดที่เลี้ยงดวงตา ส่งผลให้ตาบอดได้ หรือภาวะฟกช้ำที่เกิดจากเข็มผ่านเส้นเลือด

ผลข้างเคียงในระยะแรก: คนไข้จะมีอาการบวม นูน เป็นก้อน และขรุขระ สาเหตุเกิดจากการเลือกใช้รุ่นฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมกับผิวหรือบริเวณที่ฉีด เช่น ใช้ฟิลเลอร์ที่มีการคงตัวสูง ในบริเวณใต้ตาหรือบริเวณที่ผิวบาง

ผลข้างเคียงระยะยาว : ลักษณะอาการเป็นตุ่ม ก้อน และบวม อันเกิดจากการแพ้หรือติดเชื้อ รวมทั้งอาจมีหนองหรือน้ำเหลืองซึมจากการใช้ฟิลเลอร์ถาวรได้

ในด้านอายุการใช้งานของฟิลเลอร์ โดยปกติฟิลเลอร์แท้ที่ได้รับมาตรฐานและได้รับการรับรองจากอย. จะอยู่บนใบหน้าได้ประมาณ 6-18 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นที่ใช้ อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงประสบการณ์ เทคนิคในการฉีดของแพทย์และความเหมาะสมตามลักษณะใบหน้าของแต่ละบุคคลด้วย โดยฟิลเลอร์แท้ 100% สามารถสลายได้เอง หากคนไข้ต้องการฉีดฟิลเลอร์ซ้ำเข้าไป ในขณะที่ฟิลเลอร์เก่ายังสลายไม่หมด เป็นการฉีดซ้ำในเวลาที่เร็วเกินไป อาจส่งผลให้บริเวณนั้นมีลักษณะเป็นก้อนคลื่นได้ หรือหากฉีดใกล้บริเวณกล้ามเนื้อที่ตื้น อาจเกิดเป็นคลื่นได้ในกรณีที่กล้ามเนื้อหดเกร็ง เช่น บริเวณผิวหนัง คาง เป็นต้น

ฉีดฟิลเลอร์ไม่เห็นผลเกิดจากอะไร

หลายๆ คนฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วและรอจนฟิลเลอร์เข้าที่แล้วแต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่เห็นผลลัพธ์หลังทำที่ชัดเจนมากนัก ซึ่งสามารถเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุปัจจัย ดังนี้

1.ปริมาณฟิลเลอร์ไม่เพียงพอ

    ในภาพจำของคนส่วนใหญ่จะคิดว่าการฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละตำแหน่งนั้นจะอยู่ประมาณ 1 ซีซี ซึ่งในความจริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะปัญหาของแต่ละคนจะมีไม่เท่ากัน ทำให้การใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่ต่างกันออกไปดังนั้นจึงควรพบคุณหมอเพื่อทำการประเมินถึงปริมาณฟิลเลอร์

    2. ใช้ฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับปัญหาที่มี

    ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อจะมีอยู่ด้วยกันหลายรุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีความนิ่ม ความหนืดของเนื้อที่แตกต่างกัน และถูกออกแบบมาใช้ในตำแหน่งที่ต่างกันออกไป ซึ่งหากเอาฟิลเลอร์เนื้อนิ่มไปฉีดเสริมคางแน่นอนว่าก็จะไม่สามารถปั้นทรงได้และทำให้ไม่เห็นผลหลังทำนั่นเอง

    3. หมอผู้ฉีดยังมีประสบการณ์น้อย

    เป็นอีกปัจจัยสำคัญเนื่องจากหากหมอมีประสบการณ์น้อยก็อาจทำให้มีการคำนวณปริมาณเนื้อฟิลเลอร์ผิดพลาด หรือฉีดในตำแหน่งชั้นผิวที่ผิดจนทำให้มองไม่เห็นผลลัพธ์

    บทสรุป

    ดังนั้น การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่เหมาะกับคนไข้ที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็ว เพราะไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน สามารถเห็นผลได้ทันที ประมาณ 70-80% ผลลัพธ์ดังกล่าวขึ้นอยู่กับคนไข้แต่ละบุคคล โดยชนิดของฟิลเลอร์ที่ฉีดแต่ละตำแหน่งจะแตกต่างกัน จึงอาจใช้วันและเวลาที่จะทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่แตกต่างกันไป

    เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง