ฟิลเลอร์เกาหลีปัจจุบันมีกี่ยี่ห้อ เลือกฉีดฟิลเลอร์เกาหลีหรืออเมริกาดี?
การฉีดฟิลเลอร์ถือเป็นหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาผิวที่ไม่ว่าจะเป็นการฉีดเพื่อปรับรูปหน้า ฉีดเต็มร่องลึกตามจุดต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันจึงทำให้ในตอนนี้ได้มีฟิลเลอร์ให้เลือกอยู่มากมายหลายยี่ห้อด้วยกันทั้งจากฝั่งอเมริกา ฝั่งยุโปรและอีกฝั่งจากเอเชียที่มาแรงอย่างมากในตอนนี้นั้นก็คือฟิลเลอร์จากเกาหลีนั่นเอง ดังนั้นในบทความนี้เราเลยจะมาพูดถึงฟิลเลอร์เกาหลีกันว่าดียังไง และในตอนนี้มีทั้งหมดกี่ยี่ห้อ
ฉีดฟิลเลอร์เกาหลีดีไหม
หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าถ้าจะต้องฉีดฟิลเลอร์นั้นก็อยากจะฉีดยี่ห้อจากฝั่งอเมริกาหรือยุโรปมากกว่าเพราะคิดว่าน่าจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดมาก ๆ เพราะในปัจจุบันฟิลเลอร์เกาหลีนั้นก็มียี่ห้อดี ๆ หลายยี่ห้อซึ่งทุกยี่ห้อที่มีในไทยเรานั้นต่างก็ได้มีการผ่านการรับรองความปลอดภัยจากทั้งอย.ของทั้งประเทศไทยและเกาหลีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ฟิลเลอร์เกาหลีต่างกับฟิลเลอร์อเมริกาและยุโรปยังไง
หากจะให้พูดถึงเรื่องความต่างนั้นก็ต้องบอกเลยว่าอยู่หลายปัจจัยด้วยกันแต่หลัก ๆ นั้นก็คือเรื่องเทคโนโลยีการผลิต โดยถึงแม้ว่าฟิลเลอร์แต่ยี่ห้อจะมีเทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ตัวลักษณะคุณสมบัติเด่นของเนื้อฟิลเลอร์มีความแตกต่างกันเช่น เนื้อเหลว เนื้อแข็งเป็นต้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีการผลิตของฝั่งอเมริกาและยุโรปนั้นจะทำให้เนื้อฟิลเลอร์สามารถสลายได้ช้ากว่าจึงเห็นผลได้นานกว่านั้นเอง
แต่หากจะให้พูดถึงผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีดนั้นก็ต้องบอกเลยว่าแทบไม่มีความแตกต่างกันเลยการฉีดฟิลเลอร์เกาหลีก็สามารถให้ผลลัพธ์ที่สวยและดูเป็นธรรมชาติได้ไม่แพ้ฟิลเลอร์จากอเมริกาหรือยุโรป
ทำไมฟิลเลอร์เกาหลีถึงราคาถูกกว่าฝั่งอเมริกาและยุโรป
จุดเด่นหลัก ๆ ของฟิลเลอร์เกาหลีอีกหนึ่งเรื่องสำคัญเลยก็คือ เรื่องของราคาที่มีราคาที่ถูกกว่าฟิลเลอร์จากฝั่งอเมริกาและยุโรปมาก ๆ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะค่านำเข้าสินค้า ค่าภาษีสินค้าต่าง ๆ รวมไปถึงระยะเวลาการเห็นผลที่ฟิลเลอร์เกาหลีมีราคาถูกกว่าแต่ก็มีอายุการเห็นผลที่สั้นกว่าอีกด้วย
ฟิลเลอร์เกาหลีในไทยมียี่ห้อไหนบ้าง
ในปัจจุบันฟิลเลอร์เกาหลีที่เราสามารถพบได้ในไทยนั้นมีอยู่ด้วยกัน 8 ยี่ห้อได้แก่
1. Neuramis
Neuramis (นิวรามิส) เป็นฟิลเลอร์ที่โด่งดังอย่างมากในไทย ซึ่งเป็นฟิลเลอร์จากบริษัท Medytox Inc. และนำเข้าประเทศไทยด้วยบริษัทเมดิเซเลส จำกัด ถือเป็นฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากอย.ไทย, อย.เกาหลีและอย.อเมริกาเรียบร้อยแล้ว และในปัจจุบันมีด้วยกัน 3 รุ่นที่ผ่านอย.ไทยคือ
- Neuramis Deep (กล่องดำ) เป็นรุ่นแรก ๆ ที่เข้าไทยเหมาะฉีดบริเวณแก้มตอบ ขมับตอบ ร่องแก้ม อยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน
- Neuramis Deep Lidocaine (กล่องดำ) รุ่นนี้มีส่วนผสมของยาชา เหมาะฉีดบริเวณแก้มตอบ ขมับตอบ ร่องแก้ม อยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน
- Neuramis Volume Lidocaine (กล่องทอง) เหมาะฉีดบริเวณที่มีริ้วรอย ขมับชั้นลึก ฉีดแก้มส้ม จมูก ฉีดยกกระชับใบหน้า อยู่ได้ประมาณ 12-24 เดือน
2. Yvoire
Yvoire (อีโวร์) เป็นฟิลเลอร์ที่เริ่มต้นผลิตขึ้นในปี 2010 โดยบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างบริษัท LG Chem (แอลจี เคม) ปัจจุบันฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ได้ผ่านการยอมรับกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และผ่านการรับรองความปลอดภัยจากอย.ไทย, อย.อเมริกา, อย.เกาหลีและกรมควบคุมคุณภาพของยาในยุโรป (EDQM) ปัจจุบันมีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกันดังนี้
- YVOIRE Classic Plus (กล่องเขียว) รุ่นนี้มีเนื้อที่เหลว มีโมเลกุลขนาดเล็ก เหมาะฉีดบริเวณใต้ตา ตีนกา ระหว่างคิ้ว เติมร่องปาก อยู่ได้ประมาณ 6-9 เดือน
- YVOIRE Volume Plus (กล่องม่วง) รุ่นนี้มีเนื้อแข็งปานกลาง สามารถฉีดเพื่อปั้นทรงได้เหมาะฉีดบริเวณร่องแก้ม ขมับ ร่องน้ำหมาก ปาก อยู่ได้ประมาณ 9-12 เดือน
- YVOIRE Contour (กล่องส้ม) รุ่นนี้มีเนื้อแน่นและแข็งที่สุด เหมาะกับการฉีดปั้นทรง ปรับรูปหน้า เหมาะฉีดบริเวณคาง โหนกแก้ม จมูก และกรอบหน้าอยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน
3. Flore
Flore (ฟลอเร่) เป็นอีกยี่ห้อที่พบได้บ่อยในไทยซึ่งได้มีการนำเข้าและจัดจำหน่ายโดยบริษัท บอนซอง จำกัด (Bon-Song Company Limited) เป็นอีกยี่ห้อที่ผ่านอย.ของทั้งไทย เกาหลีและอเมริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันมีทั้งหมด 5 รุ่นด้วยกันดังนี้
- Flore Full Aqua-S (กล่องฟ้า) เป็นรุ่นที่เนื้อเหลวที่สุด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ฉีดปรับสภาพผิวเหมาะฉีดบริเวณริ้วรอย ฉีดปรับงานผิวอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน
- Flore Full S (กล่องชมพู) รุ่นนี้เนื้อฟิลเลอร์จะแน่นขึ้นกว่ารุ่นกล่องฟ้า เหมาะฉีดบริเวณริ้วรอย ฉีดในชั้นผิวที่มีความลึกระดับปานกลาง อยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน
- Flore Full N (กล่องเหลือง) รุ่นนี้มีเนื้อแน่นในระดับปานกลาง เหมาะกับการฉีดปรับรูปหน้า แก้ริ้วรอย ร่องลึก อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
- Flore Full Max (กล่องส้ม) รุ่นนี้มีเนื้อแข็ง เหมาะกับการฉีดปั้นทรงตามตำแหน่งต่าง ๆ เช่น คาง จมูก อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
- Flore Full Max 1400 (กล่องแดง) เป็นรุ่นที่มีเนื้อแน่นมากที่สุด ฉีดแล้วคงรูปได้ดี เหมาะกับการฉีดปรับโครงสร้างของใบหน้า อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
4. e.p.t.q
ฟิลเลอร์ e.p.t.q. อีกหนึ่งยี่ห้อที่โด่งดังมาก ๆ ในไทย เป็นยี่ห้อที่ผลิตขึ้นโดยบริษัท JETEMA Co., Ltd. ที่ผ่านการรับรองจากอย.อเมริกา ไทยและ EDQM เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งสำหรับในไทยเรานั้นได้มีการนำเข้าอย่างทางการด้วยบริษัท Aestema Thailand ปัจจุบันมีทั้งหมด 3 รุ่นที่ผ่านอย.ไทย ดังนี้
- e.p.t.q. S100 (กล่องขาวเขียว) รุ่นนี้จะมีเนื้อเหลว เหมาะกับการฉีดในผิวชั้นตื้น ลดริ้วรอย ใต้ตา หน้าผาก ริมฝีปาก ฉีดแล้วให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 6 เดือน
- e.p.t.q. S300 (กล่องขาวส้ม) รุ่นนี้จะมีเนื้อหนืดในระดับปานกลาง เหมาะกับการฉีดหน้าผาก เบ้าตาลึก ปรับรูปปาก ร่องแก้ม อยู่ได้นาน 8 เดือน
- e.p.t.q. S500 (กล่องขาวน้ำเงิน) รุ่นนี้เนื้อจะแน่นและหยืดที่สุด เหมาะกับการฉีดกรอบหน้า คาง จมูก ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก อยู่ได้นาน 12 เดือน
5. Volifil
Volifil (โวลิฟิล) เป็นฟิลเลอร์แบบเนื้อโมเลกุลเดียว (Monophasic) ที่เหมาะมาก ๆ กับการใช้เติม Volume ให้แก่ใบหน้า นอกจากนั้นตัวฟิลเลอร์ยังผ่านการรับรองความปลอดภัยจากมาจาก CE (Conformite Europeene) หรือมาตรฐานความปลอดภัยในสหภาพยุโรปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันมีทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกันดังนี้
- Volifil Classic เนื้อฟิลเลอร์จะมีความนิ่ม เป็นเจลเนื้อละเอียด เหมาะกับการฉีดในผิวชั้นตื้น ๆ เช่น ใต้ตา หน้าผาก ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ปาก อยู่ได้นาน 9-12 เดือน
- Volifil Deep รุ่นนี้เนื้อจะมีความเหลวและความหนืดอยู่ในระดับปานกลาง เหมาะกับการฉีดปากให้อสบอิ่มขึ้น ร่องแก้ม ร้องน้ำหมากเป็นต้น อยู่ได้นาน 12-14 เดือน
- Volifil Sub-Q เป็นรุ่นที่เนื้อหนืดที่สุดเหมาะกับการฉีดเพื่อปรับรูปและยกกระชับใบหน้า หรือเติมขมับ คาง โหนกแก้มเป็นต้น อยู่ได้นาน 12-14 เดือน
6. Hyafilia
HyaFilia (ไฮยาฟิเลีย) เป็นฟิลเลอร์ที่ถูกผลิตและคิดค้นโดย CHA Bio Group ซึ่งจัดเป็นบริษัท Biomedicine ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ ทำให้ตัวฟิลเลอร์ได้รับการยอมรับจากหลายประเทศกว่า 40 ประเทศทั่วโลกนอกจากนั้นยังผ่านอย. ไทย เกาหลีและยุโรปเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันมีทั้งหมด 6 รุ่นแต่มีแค่ 3 รุ่นเท่านั้นที่ผ่านอย.ไทยคือ
- HYAFILIA – S รุ่นที่มีเนื้อละเอียดนิ่ม มีโมเลกุลขนาดเล็ก เหมาะกับการฉีดผิวชั้นบนอย่าง ระหว่างคิ้ว ปาก ใต้ตา อยู่ได้นาน 6-9 เดือน
- HYAFILIA – M รุ่นนี้จะมีโมเลกุลขนาดกลาง ๆ เหมาะกับการฉีดผิวชั้นกลางอย่าง ขมับ ร่องแก้ม ปาก ริมฝีปาก ร่องน้ำหมาก อยู่ได้นาน 9-12 เดือน
- HYAFILIA – V รุ่นนี้จะมีโมเลกุลขนาดใหญ่ที่สุด เนื้อเนียน ยืดหยุ่น แข็งคงทนเหมาะกับการฉีดผิวชั้นลึก โหนกแก้ม คาง กรอบหน้า อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
7. Revolax
Revolax (รีโวแลกซ์) ถือเป็นฟิลเลอร์น้องใหม่แบรนด์เกาหลีแต่มาตรฐานระดับยุโรป ที่ผลิตขึ้นโดยบริษัท Across ปัจจุบันได้นำเข้าประเทศไทยอย่างเป็นทางการด้วยบริษัทเอสเทค ฟาร์มา (Aestec Pharma) จำกัด (บริษัทเดียวกันกับโบท็อกซ์ Aestox) ปัจจุบันมีทั้งหมด 3 รุ่นคือ
- Revolax Fine เป็นเนื้อเจลมีความนิ่ม บางเบา มีส่วนผสมของยาชา 0.3% เหมาะกับการฉีดริ้วรอยเล็ก ๆ เช่น รอยตีนกา รอยใต้ตา อยู่ได้ประมาณ 9-12 เดือน
- Revolax Deep รุ่นนี้เนื้อจะมีความหนืดขึ้นจากรุ่น Fine และตัวเนื้อฟิลเลอร์จะมีความยืดหยุ่นในระดับปานกลาง เหมาะฉีดริ้วรอยในผิวชั้นกลาง ชั้นลึกหรือชั้นไขมัน อยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน
- Revolax SUB-Q รุ่นนี้เนื้อฟิลเลอร์จะมีความหนืดที่สุด เหมาะกับการฉีดในผิวชั้นลึก ฉีดปรับโครงสร้างของใบหน้า อยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟิลเลอร์ Revolax : ฟิลเลอร์ Revolax คืออะไร มีกี่รุ่นเหมาะกับฉีดจุดไหน
8. Neobelle
เป็นฟิลเลอร์ที่มีความพิเศษคือผลิตมาจากเทคโนโลยี Multi-Mix Cross-linking Technology (MMCT) และทำมาจากพืชถึง 100% โดยบริษัท Suremed KR และยังได้รับการรับรองความปลอดภัยจากอย.เกาหลีและไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย ปัจจุบันในไทยยังมีการนำเข้าฟิลเลอร์เพียงแค่ 1 รุ่นก็คือ
- Neobelle Contour เป็นรุ่นที่สามารถฉีดแก้ปัญหาผิวได้หลายจุด เช่น แก้มส้ม คาง ปาก ใต้ตา ขมับ ร่องแก้มและกรอบหน้าเป็นต้น อยู่ได้ประมาณ 8-12 เดือน
เลือกฉีดฟิลเลอร์เกาหลียี่ห้อไหนดี
จริง ๆ แล้วการเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์เกาหลีนั้นต้องบอกเลยว่าไม่ได้มียี่ห้อไหนที่ดีที่สุด ทุกยี่ห้อล้วนมีจุดเด่นของตัวเอง ดังนั้นให้เลือกตามตำแหน่ง ตามปัญหาหรือผลลัพธ์ที่ต้องการจะดีเสียกว่า เนื่องจากแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น ก็จะมีจุดเด่นของเนื้อฟิลเลอร์มีความเหลว ความหนืดที่แตกต่างกันออกไป หรือการเข้าปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำในการเลือกรุ่นและยี่ห้อของฟิลเลอร์ก่อนฉีดทุกครั้งจึงเป็นทางที่ดีที่สุด
ฉีดฟิลเลอร์เกาหลีอันตรายไหม
ฉีดฟิลเลอร์เกาหลีไม่ต้องกังวลเรื่องความอันตรายเลย หากฉีดกับฟิลเลอร์ของแท้ และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์สูง เนื่องจากฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อล้วนแล้วแต่ผ่านการรับรองความปลอดภัยมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วไม่ว่าจะเป็นอย. ไทย เกาหลี อเมริกาและยุโรป แต่ทั้งนี้ก่อนฉีดคนไข้ควรทำการศึกษาข้อมูลหัตถการรวมไปถึงดูรีวิวของคลินิกและแพทย์ผู้ฉีดให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจทำทุกครั้ง
เพราะแน่นอนว่าการฉีดฟิลเลอร์นั้นจะต้องใช้เทคนิคขั้นสูงในการฉีดและปั้นรูปทรง ซึ่งหากฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์มากพอก็อาจทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ ฉีดแล้วเป็นก้อน หรือบางรายอาจอันตรายถึงขั้นที่เนื้อฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือดจนทำให้เกิดปัญหาตาบอดขึ้นได้ ดังนั้นการเลือกคลินิกที่เข้ารับบริการและแพทย์ผู้ฉีดนั้นจึงเป็นประเด็นสำคัญที่ไม่ควรมองข้างอย่างยิ่ง
ฟิลเลอร์เกาหลีราคาเท่าไหร่
ราคาค่าฉีดฟิลเลอร์เกาหลีนั้นจะมีราคาที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อที่เลือกฉีด แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 3,000-8,000 บาทต่อซีซี และทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของคลินิกที่เข้ารับบริการอีกด้วย
สรุป
ฟิลเลอร์เกาหลีคือฟิลเลอร์ที่ผลิตมาจากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งหัตถการงานผิวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันเนื่องจากมีคุณภาพดีไม่แพ้ฟิลเลอร์จากอเมริกาหรือยุโรปและราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้ง่ายกว่ามาก ๆ แต่ก็มีข้อเสียคือฟิลเลอร์เกาหลีจะเห็นผลได้สั้นกว่าฟิลเลอร์จากอเมริกาหรือยุโรป
ซึ่งในปัจจุบันฟิลเลอร์เกาหลีมีอยู่ด้วยกัยหลายยี่ห้อด้วยกันได้แก่ Neuramis, Yvoire, Flore, e.p.t.q, Volifil, Hyafilia, Revolax และ Neobelle เป็นต้น สำหรับใครที่สนใจอยากฉีดฟิลเลอร์เกาหลีขอแนะนำที่กังนัมคลินิกเรามีฟิลเลอร์ Neuramis ให้บริการพร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ โดยสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line : @gangnamclinic หรือได้ที่กังนัมคลินิกทุกสาขา