7 วิธีทําให้หน้าใส ไร้สิว วิธีไหนช่วยให้ผิวกระจ่างใสแบบธรรมชาติ และได้ผลจริง
การมองหาวิธีทำให้หน้าใสเพื่อแก้ปัญหาเรื่องรอยสิวและบำรุงผิวหน้าให้ดูเนียนขึ้น จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนั้นมีทั้งผู้ชายและผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่หันมาดูแลตัวเองและอยากมีผิวหน้าเนียนใสกันมากขึ้น เพราะไม่ว่าใครก็คงไม่อยากปล่อยให้ใบหน้าของตัวเองดูโทรมและผิวหน้าหมองคล้ำ วันนี้เราจะพามาดูกันว่าการดูแลผิวหน้าด้วยตัวเองและการเข้าคลินิกหน้าใส แต่ละวิธีจะเหมาะกับใครและช่วยแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่
หน้ากระจ่างใส คืออะไร?
ผิวหน้าที่กระจ่างใส คือ ผิวที่มีความเนียนใส สีผิวดูสม่ำเสมอ ไม่หมองคล้ำ ผิวหน้ามีความชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน และ ผิวหน้าดูไม่มันเยิ้ม แต่เนื่องจากสภาพผิวหน้าของผู้หญิงและผู้ชายที่มีความแตกต่างกัน เนื่องจากมีพื้นฐานการดูแลผิวที่ไม่เหมือนกัน และ ฮอร์โมนที่แตกต่างกัน โดยจะเป็นได้ว่าผิวหน้าของผู้หญิงนั้นจะมีความละเอียดมากกว่าผู้ชาย แต่ก็ใช่ว่าผู้ชายจะมีผิวหน้าที่กระจ่างใสไม่ได้หากมีการดูแลตัวเองที่เหมาะสม และใช้วิธีที่ถูกต้อง
หน้าหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ เกิดจากอะไร?
แต่เมื่อวัยเพิ่มขึ้น คอลลาเจน และ อีลาสติน รวมถึงเซลล์ต่างๆที่ช่วยในการซ่อมแซมตัวเองของผิวหนังก็จะลดลง บวกกับต้องเผชิญกับปัจจัยต่าง ๆ ที่ผิวถูกทำร้ายอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นควัน แสงแดด สภาพอากาศ และ รวมไปถึงการดูแลผิวหน้าที่ผิดวิธี การทาครีมบำรุงที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว หรือการใช้ครีมบำรุงที่มีสารเคมีอันตราย ซึ่งอาจทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำลง ผิวหน้ามัน และเป็นสิวได้ง่าย
ดังนั้นการมีผิวหน้าที่กระจ่างใส ควรเริ่มต้นจากการดูแลผิวอย่างล้ำลึกที่ถูกวิธี และ หยุดการทำร้ายผิวด้วยสารเคมี หรือ พฤติกรรมต่างๆเช่น การกดสิว การล้างหน้าไม่สะอาด การใช้ครีมบำรุงที่มีสารเคมีแรงๆเนื่องจากต้องการเห็นผลที่รวดเร็ว เพื่อฟื้นฟูสภาพผิวหน้าที่หมองคล้ำแห้งกล้านกลับมานุ่ม เรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ ดูละเอียดกระจ่างใส ไม่มีสิวหรือฝ้ากระมากวนใจ แถมผิวยังมีความชุ่มชื้นอีกด้วย
7 วิธีทำให้หน้าใส
นอกจากการดูแลผิวหน้าด้วยวิธีแบบธรรมชาติแล้ว เรายังมีเคล็ดลับการเผยผิดหน้าที่สดใส ไร้สิวแบบเร่งด่วนมาเอาใจสำรับคนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วภายใน 7-14 วัน อยากหน้าใส ไร้สิว แบบเร่งด่วน ต้องทำอย่างไร? ซึ่งเคล็ดลับที่ว่านั้นก็คือ
1. เติมวิตามินซีให้ผิวใส
การเติมวิตามินซี (Vitamin C) หรือ การเติมกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic acid) ให้กับผิวนั้น เป็นการช่วยให้ผิวขาวใส ดูมีออร่าขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเนื่องวิตามินซีมีส่วนช่วยในการ ต่อต้านอนุมูลอิสระ เพื่อนำไปสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นการช่วยฟื้นฟู และ ซ่อมแซมผิวได้โดยตรง ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าการทานหลายเท่า นอกจากนี้การฉีดวิตามินซีให้ผิวยังเป็นการเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกายได้อีกด้วย
วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง
การฉีดวิตามินซีให้ผิวถือเป็นวิธีที่ปลอดภัย เหมาะกับสาวๆและหนุ่มๆที่ต้องการให้ผิวใสขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงคนที่มีอาการภูมิแพ้ เป็นหวัดง่าย โดยสามารถฉีดได้อย่างต่อเนื่องทุกๆ 1-2 สัปดาห์ ต่อเนื่อง 5 -10 ครั้งขึ้นไป เพื่อการเห็นผลลัพธ์ที่ยาวนาน
2. ฉีดเมโสหน้าใส
การฉีดเมโสหน้าใส จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เมโสหน้าใส ที่ช่วยเน้นให้ผิวหน้าเรียบเนียน หน้าขาวใส มีความชุ่มชื้น และ มาเด้คอลลาเจน ที่เน้นการรักษาปัญหาสิว เพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวหน้า ช่วยลดอาการแพ้ต่างๆของผิว ซึ่งทั้งสองตัวยานี้เป็นการดูแลผิวหน้าได้อย่างเร่งด่วนเหมือนกัน แต่มีวัตถุประสงค์ในการรักษาที่ต่างกัน ดังนั้นถ้าหากอยากให้หน้าใส จะต้องเลือกตัวยากให้เหมาะสมกับปัญหา
วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง
การฉีดเมโสหน้าใสเหมาะกับคนที่ ผิวหมองคล้ำ ผิวแห้ง แต่งหน้าไม่ติด ต้องการดูแลผิวหน้าให้สวยงาม ฉ่ำวาว รักษาอาการสิว หรือ ผิวแพ้ง่ายที่เป็นๆหายๆให้ไม่กลับมาเป็นซ้ำอีก เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องการเห็นผลที่รวดเร็ว สามารถโชว์หน้าสดได้อย่างมั่นใจ
3. เลเซอร์หน้าใส
การทำเลเซอร์หน้าใสเป็นอีกทางเลือกที่สามารถ เพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิวหน้าให้เนียนใส ไร้สิว ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยหลังการทำจะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันที แต่วิธีนี้จะต้องเลือกใช้เครื่องเลเซอร์ที่มีมาตรฐานและทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ซึ่งเครื่องเลเซอร์ที่มีการยอมรับจากแพทย์ผิวหนังจากทั่วโลกอย่าง Dual Yellow Laser
วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง
สำหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ที่ต้องการบำรุงผิวอย่างล้ำลึก และ กระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิว เพื่อทำให้ผิวหน้าขาวใสขึ้น แข็งแรงขึ้น นอกจากนี้การทำเลเซอร์หน้าใสยังช่วยลดจุดด่างดำ และ ริ้วรอยเล็กๆให้ดูจางลงได้อีกด้วย ซึ่งการทำเลเซอร์ 1 ครั้ง ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 14 วัน แนะนำให้ทำต่อเนื่องควบคู่ไปกับการดูแลผิวหน้าด้วยวิธีอื่นๆเพื่อการเห็นผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : เลเซอร์หน้าใส ช่วยอะไร? เหมาะกับใคร ราคาเท่าไหร่ ทำที่ไหนดี 2023
4. เลเซอร์รักษาหลุมสิว และรอยสิว
บางครั้งการที่จะมีผิวหน้าที่สวยสดใสน่ามองนั้น ก็ไม่ใช่แค่มีผิวหน้าขาวเพียงอย่างเดียว แต่การมีผิวหน้าที่เรียบเนียน ผิวสม่ำเสมอไม่เป็นรอยหลุมสิว หรือ ไม่มีรอยต่างๆหลังการเกิดสิวก็สำคัญ เพราะหลังการเป็นสิวอาจเกิดการทิ้งรอยดำ รอยแดง หลุมสิว ที่ขึ้นชื่อว่ารักษาได้ยากมากๆ และไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีทางธรรมชาติ แต่ สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการทำเลเซอร์ Picoway
วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง
เหมาะกับคนต้องการลดเลือนริ้วรอยเล็กๆบนใบหน้า หรือ คุณผู้ชาย และ คุณผู้หญิงที่มีปัญหาหลุมสิว ที่เกิดจากผังผืดใต้ชั้นผิว รอยดำ รอยแดง จากสิว คนที่มีผิวหน้าไม่เรียบเนียน ซึ่งพลังงานจาเครื่องเลเซอร์จะเข้าไปกระตุ้นเซลล์ผิวและทำลายเม็ดสีส่วนเกิน เพื่อทำให้ผิวหน้ากับมาเรียบเนียน สกใสอีกครั้ง
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : รักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น เห็นผลไว หายถาวรจริงไหม
5. ฉีดรีจูรัน (Rejuran)
เป็นอีกหนึ่งหัตถการยอดฮิตที่กำลังมาแรงอย่างมาก ซึ่งรีจูรันนั้นคือการฉีดผิวอย่างหนึ่งที่มีหลักการเดียวกันกับ Mesotherapy ซึ่งจุดเด่นของรีจูรันคือการช่วยปรับผิวให้สวยสุขภาพดีจากภายใน ให้ผิวมีความกระจ่างใสขึ้น ช่วยให้ผิวมีความแข็งแรงขึ้น ช่วยแก้ปัญหาผิวไม่เรียบเนียน นอกจากในตัวยามีสารโพลี่นิวคลีโอไทด์ (Polyneucleotide หรือ pn) เป็นสารสกัดที่ได้จากปลาแซลม่อนและเป็นสารที่พบได้ในร่างกายมนุษย์อยู่แล้วทำให้มีความปลอดภัยสูง
วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง
เหมาะกับคนที่มีปัญหาหลุมสิว ผิวไม่กระจ่างใส คนที่มีปัญหาผิวบอบบางแพ้ง่าย และคนที่ต้องการให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น ซึ่งตัวยาจะเข้าไปช่วยซ่อมแซ่มเซลล์ผิวได้อย่างล้ำลึก
6. ฉีดชาแนล (Chanel)
การฉีดชาแนลก็ถือเป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ใช้หลักการเดียวกับเมโส ซึ่งตัวยาของชาแนลนั้นมีส่วนผสมสารสกัดจากพืชและวิตามิน 12 ชนิด, กรดอะมิโน 23 ชนิด และกรดไฮยาลูรอนิคที่มีส่วนช่วยในการช่วยฟื้นฟูผิวปรับให้ผิวมีความชุ่มชื้นและยึดหยุ่นมากขึ้นกว่าเดิม ที่สำคัญตัวสารวิตามินนั้นไม่มีความอันตรายต่อร่างกายในระยะยาวอีกด้วย
วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง
เหมาะกับคนที่ต้องการประบผิวหน้าให้ใสขึ้น ชุ่มชื้นฉ่ำวาวมากขึ้น ปรับผิวหน้ามีความความกระชับเต่งตึง ต้องการลดริ้วรอยเล็กๆ ทั่วใบหน้าและต้องการตัวช่วยในการปรับกระชับรูขุมขน
อ่านบทความเพิ่มเติม : Chanel injection คืออะไร? เหมาะกับใคร ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าเรื่องอะไรบ้าง?
7. ทรีตเมนต์หน้าใส
เป็นวิธีการบำรุงผิวด้วยเครื่องในการช่วยผลัดตัววิตามินให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น วิธีนี้หลายๆ คลินิกความงามจะมีการใช้สูตรวิตามินบำรุงผิวและเครื่องมือในการช่วยผลักวิตามินที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยส่วนใหญ่แล้ววิตามินที่ใช้จะเน้นในเรื่องของการช่วยให้ผิวมีความกระจ่างใสขึ้น ช่วยลดรอยสิว รอยดำรอยแดงตามจุดต่างๆ ของใบหน้า
วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง
เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลักวิตามินให้แก่ผิวโดยไม่ใช้การฉีดหรือเลเซอร์ ซึ่งวิธีนี้ในระหว่างทำคนไข้จะรู้สึกเหมือนเพียงแค่การนวดหน้าเท่านั้น
อ่านบทความเพิ่มเติม : ทรีทเม้นท์หน้าใส คืออะไร? ทำแล้วดีจริงไหม ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
8. การฉีด Exosome
ตัว Exosome เป็นอีกหนึ่งหัตถการฉีดผิวที่จะช่วยการสร้างผิวให้มีความแข็งแรง ชุ่มชื้น กระจ่างใส และช่วยปรับผิวให้มีความอ่อนเยาว์สุขภาพดีมากยิ่งขึ้นได้ เนื่องจากเป็นสารสกัดจาก Stem Cell ที่บริสุทธิ์ทำให้ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้ผิวกลับมาดูสุขภาพดีอีกครั้ง
วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง
เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูเซลล์ผิว มีปัญหาผิวหมองคล้ำ มีริ้วรอย รูขุมขนกว้าง มีผิวที่แก่โทรมจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตหรือการถูกมลภาวะต่างๆ ทำร้ายเซลล์ผิว
9. การฉีดฟิลเลอร์ผิว Belotero Revive
เป็นอีกหนึ่งหัตถการฉีดผิวที่ใช้ส่วนผสมหลักๆ อย่าง HA (Hyaluronic Acid) และ Glycerol ทำให้สามารถช่วยเรื่องของการเพิ่มความชุ่มชื้นและช่วยลดการสูญเสีย HA ธรรมชาติในชั้นผิวไม่ให้เสื่อมสภาพ ทำให้หัตถการนี้สามารถช่วยกู้ริ้วรอย ช่วยทำให้ผิวมีความกระชับเรียบเนียนสุขภาพดีจากภายใน ทำให้ใสโกลว์ฉ่ำเล่นแสงได้ดีอีกด้วย
วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง
เหมาะกับผู้ที่ต้องการช่วยเรื่องของการปรับผิวให้กระชับ เรียบเนียน ต้องการมีผิวใสแบบสุขภาพดี ผิวมีความโกลว์กระจ่างใสตามเทรนด์สาวเกาหลี
การดูแลตัวเองให้ผิวหน้าใสแบบธรรมชาติ
เผยเคล็ดลับวิธีธรรมชาติที่จะช่วยให้ผิวหน้าของคุณผู้หญิง และ คุณผู้ชายให้ดูสดใสไรสิวที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองง่ายๆที่บ้านมีดังนี้
การดื่มน้ำเปล่ามากๆ
การดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกายน้ำ ถือเป็นวิธีที่จะช่วยดีท็อกสารพิษที่ตกค้างภายในร่างกาย ให้ถูกขับออกมาด้วยกลไกลจากธรรมชาติ ส่งผลทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น เปล่งปลั่งขึ้น และเพื่อการมีสุภาพที่ดีแต่จะต้องมีการทานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานติดต่อกันเป็นประจำจึงจะเห็นผลที่ชัดเจน
การทานผักผลไม้
การเลือกรับประทานผักและผลไม้ ถือเป็นอาหารมากคุณประโยชน์ที่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหาร ที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งผักผลไม้หลายชนิดให้สารอาหารที่ดีต่อผิวพรรณ เช่น มะละกอสุก อาโวคาโด แครอท แตงกวา ส้ม และ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ซึ่งเมื่อรับประทานเป็นประจำในปริมาณที่ร่างกายต้องการ จะช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น
ทำความสะอาดผิวหน้าให้ถูกวิธี
จะช่วยลดปัญหาการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว ซึ่งส่วนใหญ่การอุดตันในรูขุมขนมักมาจากฝุ่นควัน ความมันบนผิวหน้า และ เครื่องสำอางที่ใช้ ซึ่งหากไม่ทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจดทุกครั้งหลังการแต่งหน้าก็อาจจะทำเกิดสิวอุดตันและสิวอักเสบเอาได้ง่ายๆ
การทาครีมบำรุง
เป็นเคล็ดลับการบำรุงผิวง่ายๆ ที่เริ่มต้นจากการเลือกใช้ครีมบำรุงที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง การยิ่งเลือกใช้ครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิว และ ตรงกับปัญหานั้น จะช่วยฟื้นฟูให้ผิวหน้ากลับมาสดใส มีชีวิตชีวา ชุ่มชื่น และ ทำให้ผิวขาวขึ้นแลดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะการเติมมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิวหน้า และลดการระคายเคืองจากการถูกแสงแดดช่วงกลางวัน
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การพักผ่อนให้เพียงพอ7-8 ชั่วโมงในช่วงเวลากลางคืน นั้นเป็นเวลานาทีทองที่ร่างกายของเราจะซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังหรืออวัยวะที่สึกหรอของร่างกาย โดยช่วงเวลาที่ร่างการสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ดีที่สุดคือ 22.00 -02.00 น. ดังนั้นหากใครที่อยากมีผิวหน้าที่ดี ไม่เป็นสิว ไม่ต้องการให้ผิวหมองคล้ำก็ไม่ควรนอนดึกจนติดเป็นนิสัยนะคะ
การทาครีมกันแดดเป็นประจำ
แสงแดดถือเป็นตัวการที่ทำร้ายผิวให้หมองคล้ำได้โดยตรง ดังนั้นการทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอจึงช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ไม่ทำให้ผิวหมองคล้ำขึ้น การทาครีมกันแบบอย่างเป็นประจำยังช่วยปรับให้ผิวขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และ ป้องกันผิวจากปัญหาฝ้า กระแดด จุดด่างดำ สิว นอกจากนี้ครีมกันแดดยังช่วยคงความอ่อนเยาว์ให้กับผิวได้อีกด้วย
สครับผิวเป็นประจำ
การสครับผิวเป็นการช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป พร้อมทั้งช่วยให้เกิดการเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสรวดเร็วขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดการอุดตันของรูขุมขนซึ่งเป็นสาเหตุของสิว แต่จะต้องทำอย่างต่อเนื่อง และ ทำด้วยความระมัดระวัง โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สครับผิวที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองกับผิวหน้า เพราะไม่เช่นนั้นอาจทำให้รู้สึกแสบผิวหน้า และ ทำให้เกิดสิวได้
การมาส์กหน้า
เป็นวิธีการดูแลปรนนิบัติผิวด้วยการใช้แผ่นมาส์กหน้าที่อุดมไปด้วยสารต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อผิวในการมาประคบทิ้งไว้เพื่อให้ตัวสารบำรุงสามารถซึมลงสู่ชั้นผิวได้อย่างเต็มที่ และยังสามารถช่วยปลอบประโลมผิวได้ดีอีกด้วย ซึ่งถือเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะมียี่ห้อมาส์กให้เลือกหลายยี่ห้อและมีหลายสูตรให้เลือกตามสภาพผิวของแต่ละคน
การทานวิตามินบำรุงผิว
วิธีนี้จะเป็นการทานตัวกลุ่มวิตามินต่างๆ เพื่อให้ช่วยในเรื่องของการฟื้นฟูผิวจากภายใน ซึ่งกลุ่มวิตามินที่ช่วยเรื่องของความกระจ่างใสของผิวได้แก่ วิตามินซี, สารสกัดจากเมล็ดองุ่น หรือ Grape seed, กลูต้าไธโอน และ โคเอ็นไซม์ คิวเท็น (Coenzyme Q10) เป็นต้น
รีวิวหลังทำหน้าใสที่กังนังคลินิก
หลังจากการใช้บริการรักษาหน้าให้กระจ่างใสที่กังนัมคลินิกด้วย นวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆที่ทันสมัย ผู้เข้าใช้บริการต่างให้การยอมรับ และ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเห็นความแตกต่างที่ชัดเจน เพราะคุณหมอ มีการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด
สรุป เลือกวิธีไหนดี
ไม่ว่าผู้หญิง หรือ ผู้ชาย ก็สามารถมีผิวหน้าที่ขาวใส ไร้สิวได้ไม่ยาก เพียงแค่นำเคล็ดลับที่เรานำมาฝากในบทความนี้ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน และ เลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือเข้ามามีส่วนช่วยในการดูแลผิวหน้า เท่านี้สาวๆ และ หนุ่ม ก็จะมีผิวที่อ่อนเยาว์ ขาวใส ไร้สิว มีผิวสุขภาพดีกันแบบปังสุดๆไปเลยค่ะ