วิธีลดพุงหลังคลอด ลดหน้าท้องย้วยสำหรับคุณแม่ ให้กลับมากระชับ แบบธรรมชาติ
หากจะให้พูดถึงปัญหาพุงหลังคลอดนั้นก็เชื่อเลยว่าต้องทำเอาเหล่าคุณแม่ทั้งหลายต้องพากันกังวลใจกันอย่างมากมายเลยทีเดียว เพราะแน่เชื่อก็คงไม่มีใครที่อยากจะมีพุงที่ย้วย พุงหย่อนกันทั้งนั้น ดังนั้นในบทความนี้เราเลยได้มีการรวบรวมถึงสาเหตุและวิธีการช่วยแก้ปัญหาพุงหลังคลอดที่เห็นผลได้จริงและเห็นผลไวมาฝากกัน
หน้าท้องย้วยหลังคลอด เกิดจากอะไร?
พุงหลังคลอด (Mommy Belly) ถือเป็นลักษณะของพุงที่เกิดขึ้นมาจากการสะสมของชั้นไขมันในร่างกายที่เกิดขึ้นจากการทานอาหารต่างๆ ในช่วงที่ตั้งครรภ์ และเกิดขึ้นจากการขยายตัวของหน้าท้องในช่วงที่ตั้งครรภ์ทำให้หลังคลอดบุตรเกิดหน้าท้องที่หย่อนคล้อยเกิดขึ้นซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่เกิดขึ้นได้ตามปกติทั่วไป
สาเหตุที่ทำให้พุงหลังคลอดไม่ยุบ
ปัญหาพุงหลังคลอดไม่ยุบนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุปัจจัยที่เข้ามาเป็นตัวกระตุ้น ซึ่งสาเหตุที่สามารถพบได้หลักๆ มีดังนี้
มดลูกยังไม่เข้าที่
เนื่องจากในช่วงที่ตั้งครรภ์ร่างกายได้มีการขยายตัวของมดลูกเพื่อให้ทารกในครรภ์ แต่เมื่อได้มีการคลอดบุตรออกไปแล้วนั้นจะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 6 สัปดาห์ขึ้นไปเพื่อให้มดลูกค่อยๆ หดตัวกลับไปสู่สภาพวะเดิม นั้นจึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมหลังคลอดคุณแม่บางท่านยังมีขนาดหน้าท้องที่ใหญ่เหมือนตอนตั้งครรภ์อยู่
การทานอาหารจุกจิก
อีกหนึ่งสิ่งที่คุณแม่หลายๆ คนเข้าใจว่าหลังคลอดแล้วก็ยังควรจะต้องทานอาหารให้เยอะเพื่อบำรุงลูกผ่านน้ำนม ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นวิธีการเพิ่มน้ำให้ตัวเองโดยไม่รู้ตัว เพราะจริงอยู่ที่ลูกน้อยยังต้องรับสารอาหารที่ดีผ่านนมแม่ แต่ก็ควรเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์งดของหวาน ของมันรวมไปถึงการทานแบบจุกจิกที่นอกจากจะไม่ให้สารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อลูกน้อยแล้วยังเป็นการเพิ่มน้ำให้คุณแม่อีกด้วย
ความเครียดและการพักผ่อนน้อย
เมื่อสมองของเรามีความเครียดรร่างกายของเราก็จะมีการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล หรือฮอร์โมนเครียดออกมา ซึ่งตัวฮอร์โมนดังกล่าวจะไปทำให้ร่างกายเกิดการสะสมของไขมันในส่วนพุงที่เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง นอกจากนั้นการที่ร่างกายพักผ่อนน้อยจากการเลี้ยงลูกนั้นก็จะส่งผลทำให้ระบบเผาผลาญไขมันของร่างกายทำงานได้ไม่ดีจนทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ง่ายมากๆ นั่นเอง
จำนวนครั้งในการตั้งครรภ์
จำนวนครรภ์ในการตั้งครรภ์ก็ถือเป็นอีกสาเหตุสำคัญเพราะแน่นอนว่าคนที่ตั้งครรภ์ท้องแรกนั้นจะมีโอกาสเกิดพุงย้วย พุงหย่อนยานหลังคลอดได้น้อยกว่าคนที่ตั้งครรภ์ในท้องที่สองหรือท้องที่สามนั่นเอง
อายุของคุณแม่ในขณะที่ตั้งครรภ์
ช่วงอายุของคุณแม่ในขณะที่ตั้งครรภ์ก็ถือว่ามีผลอย่างมาก เพราะหากคุณแม่มีอายุที่น้อยก็ร่างกายก็จะสามารถฟื้นฟูและเผาผลาญไขมันส่วนหน้าท้องได้ง่ายกว่าการตั้งครรภ์ในคุณแม่ที่มีอายุที่มากอย่าง 35 ปีขึ้นไป
ภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก
ในระหว่างที่ตั้งครรภ์จะทำให้บริเวณหน้าท้องเกิดการขยายจนทำให้หน้า ส่วนกล้ามเนื้อหน้าท้อง (Rectus Abdominis Muscle) เกิดการแยกตัวจากแรงดันที่มีมากเกินไปทำให้หลังคลอดกล้ามเนื้อไม่สามารถกลับเข้าสู่สภาวะเดิมได้ ส่งผลทำให้ผิวหน้าท้องไม่กระชับ หน้าท้องหย่อนคล้อยขึ้นได้
วิธีลดพุงและหน้าท้องย้วยหลังคลอด
ต่อไปเรามาดูกันบ้างว่าจะมีวิธีไหนบ้างที่สามารถช่วยแก้ปัญหาพุงหลังคลอดได้ดี และวิธีไหนที่สามารถเห็นผลได้ไวบ้าง
1. ออกกำลังกาย
ถือเป็นวิธีแบบเบสิกมากๆ ที่ใครๆ ก็ต่างพากันรู้ดี เนื่องจากการออกกำลังจากจะช่วยในเรื่องของระบบเผาผลาญทำให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ นอกจากนั้นยังช่วยเสริมส่วนกล้ามเนื้อให้มีความแข็งแรงขึ้นอีกด้วย ซึ่งการออกกำลังกายสำหรับลดพุงหลังคลอดนั้นแนะนำให้เน้นการออกในช่วงหน้าท้องไม่ว่าจะเป็นการซิทอัพ ท่าแพลงก์ เป็นต้น ซึ่งข้อสำคัญเลยคือต้องทำเป็นประจำทุกวันอย่างน้อยวันละ 15 นาที
ระยะเวลาในการเห็นผล : เริ่มเห็นผลภายใน 1-2 เดือนขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอและการควบคุมการทานอาหาร
2. ควบคุมการทานอาหาร
อีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการลดพุงสำหรับคนไม่มีเวลาออกกำลังกายนั้นก็คือการควบคุมการทานอาหาร ซึ่งวิธีนี้เองก็ถือว่ามีข้อจำกัดในกลุ่มคุณแม่หลังคลอดที่ต้องให้นมบุตรเนื่องจากเป็นกลุ่มที่ไม่สามารถงดทานอาหารเพื่อลดน้ำหนักได้ แต่ก็ควรเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์งดทานอาหารหวาน ของทอด ของมัน เน้นทานพวกเนื้อปลา เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ ผักและผลไม้ที่จำเป็นต่อร่างกาย
ระยะเวลาในการเห็นผล : เริ่มเห็นผลภายใน 1-2 เดือนขึ้นอยู่กับปริมาณอาหารที่ทาน
3. ใส่สายรัดหน้าท้อง
วิธีนี้ถือเป็นอีกวิธีที่ฮิตกันในหมู่คุณแม่หลังคลอด เนื่องจากตัวสายรัดหน้าท้องจะมีหน้าที่ในการรัดหน้าท้องให้มีขนาดที่เรียวกระชับขึ้น รวมถึงช่วยพยุงส่วนหลังและช่วยเพิ่มสัดส่วน ส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกายได้ดี ซึ่งวิธีใช้คือใส่ในระหว่างทำกิจกรรมต่างๆ รวมไปถึงการออกกำลังกายวันละ 1-2 ชั่วโมง แต่ควรรอให้แผลคลอดหายสนิทเสียก่อน
ระยะเวลาในการเห็นผล : 2-3 เดือน ขึ้นไปอยู่กับบุคคล
4. อยู่ไฟหลังคลอด
การอยู่ไฟหลังคลอดถือเป็นวิธีที่เหล่าคนไทยแบบเราๆ ต่างรู้จักกันดี เพราะถือเป็นวิธีที่จะช่วยทำให้มดลูกของเราเข้าที่ได้เร็วมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงยังทำให้น้ำนมแม่ไหลออกมาได้ดี ซึ่งวิธีนี้ถือเป็นวิธีที่จะใช้หลักการอบตัวอยู่ในที่ร้อนๆ ซึ่งก็จะทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญพลังงานทำให้เหงื่อออกมาเยอะขึ้นส่งผลทำให้พุงหลังคลอดยุบตัวได้ไวยิ่งขึ้นเช่นกันระยะเวลาในการเห็นผล : 1-2 เดือนขึ้นไป ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการอยู่ไฟ
5. การนวดหน้าท้อง
จะเป็นวิธีการใช้หลักการนวดมือร่วมกับน้ำมันเพื่อช่วยสลายไขมันให้เกิดการแตกตัวและถูกขับออกจากร่างกายถือเป็นวิธีแบบดั้งเดิมที่มีมานานมีข้อเสียคือมีความสบายผ่อนคลายมากๆ ในระหว่างนวด ซึ่งมีข้อเสียคือจะต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะเห็นผล รวมไปถึงควรเลือกทำกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีอีกด้วย
ระยะเวลาในการเห็นผล : จะเริ่มเห็นผลหลังทำประมาณ 2-4 สัปดาห์ หลังทำอย่างต่อเนื่องติดต่อกัน 6-12 ครั้งขึ้นไป
6. การฝึกแขม่วหน้าท้อง
คุณแม่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าการแขม่วหน้าท้องนั้นถือเป็นวิธีที่มีประโยชน์อย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรงแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหากล้ามหน้าท้องแยกได้อีกด้วย และอีกข้อสำคัญก็คือการแขม่วหน้าท้องจะช่วยเรื่องระบบขับถ่ายของเราให้ดียิ่งขึ้น
ระยะเวลาในการเห็นผล : 2-3 เดือนขึ้นไปอยู่กับบุคคล
7. การให้ลูกทานนมแม่จากเต้า
ถือเป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมากเลยทีเดียว เพราะนอกจากลูกน้อยจะได้ประโยชน์และสารอาหารที่ดีจากน้ำนมแม่แล้วการที่ให้ลูกเข้าเต้าบ่อยๆ ยังเป็นการช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันในร่างกาย และช่วยลดหน้าท้องหลังคลอดได้ดีอีกด้วย
ระยะเวลาในการเห็นผล : 1-2 เดือนหลังคลอด
8. การดื่มน้ำเยอะๆ
การดื่มน้ำให้ปริมาณที่เพียงพอนั้นนอกจากจะช่วยทำให้ร่างกายมีความสมดุลและทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นสำหรับคุณแม่หลังคลอดแล้วการดื่มน้ำเยอะๆ จะช่วยทำให้น้ำนมไหลได้ดีและเมื่อน้ำนมไหลได้ดีก็จะทำให้ลูกน้อยสามารถทานนมแม่ได้ดีจนทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดีอีกด้วย
แล้วช่วงไหนที่เหมาะกับการลดพุงหลังคลอดมากที่สุด
ช่วงเวลาที่เหมาะกับการเริ่มลดพุงหลังคลอดมากที่สุดนั้นโดยส่วนใหญ่แล้วจะยุบหลังจากคลอดประมาณ 1-2 เดือน แต่สำหรับคุณแม่บางรายอาจจะเป็น 6 เดือนถึง 1 ปี ซึ่งวิธีที่จะทำให้ช่วยลดพุงและลดน้ำหนักหลังคลอดได้ดีที่สุดก็คือการเลี้ยงลูก การให้นมบุตร การออกกำลังกายและการควบคุมอาหารนั่นเอง
สรุป
พุงหลังคลอดคือไขมัน, มดลูกและผิวหน้าท้องที่เกิดขึ้นมาจากการขยายตัวในช่วงตั้งครรภ์และจะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 เดือนหรือมากกว่านั้นเพื่อฟื้นฟูทำให้ร่างกายกลับสู่สภาพเดิมส่งผลทำให้คุณแม่หลังคลอดหลายคนมีหน้าท้องที่ใหญ่และหย่อนคล้อย ซึ่งในปัจจุบันก็ได้มีหลายวิธีเข้ามาช่วยแก้ปัญหาไม่ว่าจะเป็นเครื่อง Sculpt Mus, คลื่นวิทยุ RF, คลื่นอัลตร้าซาวด์ในเครื่อง Hifu และ Ulthera, เครื่อง Coolsculpting หรือแม้แต่การดูดไขมันและการผ่าตัดหนังหน้าท้องเป็นต้น
ซึ่งวิธีทั้งหมดที่กล่าวมานั้นถือเป็นเพียงทางเลือกในการช่วยลดพุงหลังคลอดให้กลับมากระชับ เต่งตึงได้ไวยิ่งขึ้น ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจทำควรศึกษาข้อมูลของหัตถการแต่ละแบบให้ครบถ้วนและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกครั้งก่อนทำ