8 วิธีเพิ่มคอลลาเจนบนใบหน้า
อยากผิวเด็กตลอดกาล ใบหน้าดูเต่งตึง อ่อนเยาว์ ไร้ริ้วรอยและความหย่อนคล้อยปรากฏ การดูแลตัวเองที่เพิ่มขึ้นจะช่วยคงสภาพผิวที่ดีได้ โดยเฉพาะการเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิว เพราะสามารถฟื้นฟูความแข็งแรงและยืดหยุ่นให้ผิวหน้าได้ดี คนอายุ 30 ปีขึ้นไป ควรเลือกวิธีเพิ่มคอลลาเจนบนใบหน้ามาเป็นตัวช่วย แนะนำทำ 7 วิธีนี้ รับรองว่าช่วยให้เห็นผลได้จริงแบบธรรมชาติ
ลักษณะของผิวหน้าที่สูญเสียคอลลาเจน เกิดจากอะไร
คอลลาเจนเป็นส่วนประกอบสำคัญในโครงสร้างชั้นผิวซึ่งช่วยพยุงให้ผิวหน้ามีความกระชับเต่งตึง ทำให้ผิวแข็งแรง หากผิวหน้าขาดคอลลาเจนจะทำให้เกิดปัญหาผิวดังนี้
- ผิวหน้าเหี่ยวย่น เกิดความหย่อนคล้อย ขาดความกระชับเต่งตึง
- ผิวหน้าดูแห้งกร้าน ไม่ชุ่มชื้น แต่งหน้าติดยาก
- ใบหน้าดูโทรม เหมือนพักผ่อนไม่เพียงพอ หมองคล้ำ
- มีปัญหาผิว รูขุมขนกว้าง ริ้วรอย จุดด่างดำ
- ผิวไม่แข็งแรง ทำให้เป็นสิวง่าย รอยสิวหายยาก
สาเหตุของการขาดคอลลาเจนในผิว
สาเหตุของผิวที่ขาดคอลลาเจนเกิดได้จากหลายปัจจัยประกอบกัน ทั้งปัจจัยที่ควบคุมได้ยากอย่างอายุที่เพิ่มขึ้น และปัจจัยภายนอกอย่างวิถีชีวิต ซึ่งหากปรับหรือควบคุมก็จะสามารถช่วยลดโอกาสสูญเสียคอลลาเจนในผิวได้ มีสาเหตุหลักๆ ทั้งหมด 6 ข้อด้วยกัน
อายุที่มากขึ้น
เมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไปร่างกายจะเริ่มสร้างคอลลาเจนได้ลดลง ส่งผลให้โครงสร้างผิวมีความหย่อนคล้อย ไม่เต่งตึง และปัญหาผิวต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ง่าย
ขาดวิตามินซี
วิตามินซีเป็นสารที่มีส่วนในการช่วยดูดซึมคอลลาเจน แม้ว่าร่างกายจะมีการผลิตคอลลาเจนหรือได้รับคอลลาเจนเข้ามาเพิ่มแต่ขาดวิตามินซี ก็จะทำให้ดูดซึมได้ไม่ดีเท่าที่ควร
สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์
บุหรี่และแอลกอฮอล์มีสารอนุมูลอิสระที่จะทำให้คอลลาเจนในร่างกายลดลงได้ หากไม่ต้องการให้ร่างกายเกิดการสูญเสียคอลลาเจนจึงควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมดังกล่าว
ความเครียด
ความเครียดส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว ระหว่างช่วงที่เกิดความเครียดร่างกายจะไม่สามารถผลิตคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ได้ หากเกิดภาวะนี้นานๆ ก็จะส่งผลให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ ตามมา
พักผ่อนไม่เพียงพอ
พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ขาดการใส่ใจสุขภาพ พักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายไม่มีช่วงเวลาในการฟื้นฟูตัวเอง คอลลาเจนในโครงสร้างผิวก็จะขาดความแข็งแรง ทำให้ผิวหน้าดูสูงกว่าวัย ไม่สดใส
ดื่มน้ำน้อย
น้ำเป็นส่วนสำคัญในการหล่อเลี้ยงผิวให้มีความยืดหยุ่น หากดื่มน้ำน้อยก็ทำให้ผิวเหี่ยวย่น เส้นใยคอลลาเจนหย่อนคล้อยลง นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการเติมมอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้ผิวผ่านการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอีกด้วย หากไม่มีการบำรุงเลยก็ส่งผลให้สูญเสียคอลลาเจนได้ง่ายเช่นกัน
ใครบ้างที่ควรเติมคอลลาเจนในผิวหน้า
เนื่องจากคอลลาเจนสามารถสร้างขึ้นได้เองแต่สำหรับคนบางกลุ่มที่มีข้อจำกัดหรือปัจจัยที่ทำให้คอลลาเจนในผิวหน้าน้อยลงจึงควรมองหาวิธีในการเติมคอลลาเจนให้ผิว เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสภาพผิวที่แย่ลง โดยคนที่ควรเติมคอลลาเจนคือคนที่มีลักษณะการใช้ชีวิตดังนี้
- คนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ร่างกายเริ่มสร้างคอลลาเจนน้อยลง
- คนที่พักผ่อนน้อย ทำงานหนัก ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง
- คนที่ไม่รับประทานผักผลไม้ ขาดวิตามินซี และคอลลาเจน
- คนที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ต้องเจอแสง UV และมลภาวะเป็นประจำ
ประโยชน์ของการเพิ่มคอลลาเจนผิวหน้า
เนื่องจากคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบของผิวหนังมากถึง 75% เป็นตัวช่วยที่ทำให้โครงสร้างผิวมีความยืดหยุ่นและแข็งแรง ซึ่งจะเพิ่มความชุ่มชื้น เรียบเนียนของผิว คงสภาพผิวไม่ให้เมีริ้วรอยหรือความหมองคล้ำได้ง่าย คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่ร่างกายผลิตขึ้นได้เอง แต่เมื่อมีอายุมากขึ้นปริมาณคอลลาเจนที่ผลิตจะลดลงปีละ 1.5% การเพิ่มคอลลาเจนจึงเป็นวิธีช่วยปรับสภาพผิวให้แข็งแรง ชะลอการเกิดปัญหาผิวที่เสื่อมสภาพไปตามวัย
8 วิธีเพิ่มคอลลาเจนบนใบหน้า
ตามปกติที่คอลลาเจนสร้างได้เอง แต่หากอายุมากขึ้นการผลิตคอลลาเจนในร่างกายเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอสำหรับคนที่ต้องการป้องกันการเกิดริ้วรอยหรือความเหี่ยวย่น แนะนำให้มีการดูแลตัวมากขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มคอลลาเจนบนใบหน้า โดย 7 วิธีต่อไปนี้
พักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวัน
การพักผ่อนเป็นวิธีง่ายที่สุดที่ช่วยเพิ่มปริมาณคอลลาเจนในร่างกายได้ตามธรรมชาติ เพราะระหว่างการนอนหลังร่ายกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมาฟื้นฟู ซ่อมแซมเซลล์ผิว รวมไปถึงกระตุ้นคอลลาเจนในเนื้อเยื่อให้มีความแข็งแรงขึ้น การนอนที่มีประสิทธิภาพ นอนเร็วก่อนเวลา 4 ทุ่ม และครบ 7 – 8 ชั่วโมง ก็จะช่วยเพิ่มคอลลาเจนบนใบหน้าได้
ออกกำลังกายเป็นประจำ
ผลลัพธ์ของการออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรง โดยเฉพาะการออกกำลังกายประเภท Cardio ที่กระตุ้นให้ระบบไหลเวียนเลือดและหัวใจทำงานได้ดีขึ้น สามารถส่งเลือดและสารอาหารไปเลี้ยงผิวได้ดี ส่งผลให้เซลล์ผิวมีการสร้างคอลลาเจนได้อย่างเหมาะสม ผิวมีการฟื้นฟู สุขภาพดี และเปล่งปลั่งมากยิ่งขึ้น การออกกำลังกายที่เห็นผลควรออกอย่างน้อย 30 นาทีขึ้นไป ให้มีอัตราการเต้นหัวใจถี่ขึ้นที่ 100 – 135 ครั้งต่อนาทีอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดการสูบฉีดเลือดไปยังเซลล์ต่างๆ ได้แบบมีประสิทธิภาพ
กินอาหารกระตุ้นคอลลาเจน
อาหารเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิว โดยเฉพาะโปรตีนที่ช่วยให้เกิดการสร้างคอลลาเจนได้ดี เช่น ปลาทะเล เนื้อสัตว์ หรือธัญพื้ชต่างๆ ซึ่งควรกินอาหารชนิดที่ช่วยกระตุ้นการสสร้างคอลลาเจนในร่างกายเพิ่มไปควบคู่กันด้วย ได้แก่ วิตามินซี วิตามินเอ และวิตามินอี จะสามารถชะลอการสลายตัวของคอลลาเจน มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำงานประสานกัน เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรต เพราะทำให้เกิดกระบวนการ Glycation ซึ่งส่งผลกระทบกับความยืดหยุ่นของโครงสร้างคอลลาเจนได้
Hifu ยกกระชับหน้า
การทำ Hifu เป็นการใช้เทคโนโลยีมาช่วยยกกระชับให้ผิวอ่อนเยาว์ขึ้น เหมาะกับคนที่อายุมากแล้วมีการผลิตคอลลาเจนที่น้อยลง ต้องการฟื้นสภาพผิวให้เต่งตึงไปพร้อมกับการเพิ่มคอลลาเจนใหม่ให้กับผิวหน้า สามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้นไป ซึ่งหลักการทำงานของ Hifu จะเป็นการใช้เครื่องส่งพลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ลงไปในชั้นผิว เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในเซลล์ Fibroblasts ทำให้ผิวแน่นขึ้น ดูกระชับ และเป็นการป้องกันความหย่อนคล้อยที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย
ฉีดมาเด้คอลลาเจน
มาเด้คอลลาเจน เป็นการฉีดเมโสหน้าใสชนิดหนึ่ง ซึ่งยี่ห้อมาเด้คอลลาเจนสามารถช่วยเพิ่มความแข็งแรงของผิวได้ดี กลไกของการทำงาน คือ ช่วยกำจัดสารพิษในผิวหน้า เร่งระบบเผาผลาญและการไหลเวียนเลือด เพิ่มสารอาหารให้กับผิว รักษาเซลล์ผิว ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจน รวมไปถึงปรับสมดุลผิวให้มีภูมิต้านทานมากขึ้น การฉีดมาเด้คอลลาเจนจะใช้เทคนิคฉีดฝังเข็ม 16 จุด สามารถกระจายตัวลงสู่ผิวและขับสารพิษได้ดี ผลลัพธ์ของมาเด้คอลลาเจนจึงช่วยทำให้ผิวดูสุขภาพดี อ่อนเยาว์ ทนต่อมลภาวะและป้องกันการระคายเคืองได้ดียิ่งขึ้น
อ่านบทความเพิ่มเติม : ข้อควรรู้ก่อนฉีดมาเด้คอลลาเจน made 16 จุด คือะไร มีความเสี่ยงอะไรบ้าง 2022
กระตุ้นคอลเจนด้วย Thermage
Thermage เป็นเทคโนโลยียกกระชับที่ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง ส่งพลังงานเข้าไปในชั้นผิวหนังแท้และชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการเกิดคอลลาเจนขึ้นใหม่ การทำ Thermage จึงเป็นวิธีที่ได้ประสิทธิภาพในการเพิ่มคอลลาเจน ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ เห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ลงถึง 20% หลังทำ และผลลัพธ์จะค่อยๆ เห็นชัดขึ้น เกิดการเรียงตัวของโครงสร้างผิวใหม่ แก้ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ขาดความกระชับได้ดี และคงสภาพได้นานถึง 1 – 2 ปี
Ulthera
Ulthera เป็นการยกกระชับอีกประเภทหนึ่งที่ช่วยเพิ่มการสร้างคอลลาเจนในผิวได้ดี โดยเทคโนโลยีของ Ulthera เป็นการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงส่งพลังงานความร้อนลงไปที่ผิวหนังแท้และชั้น SMAS แล้วทำให้ชั้นผิวหดตัว สร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ จึงช่วยยกกระชับผิวหน้าได้ แก้ปัญหาริ้วรอย ให้ผิวดูเรียบเนียน และมีสุขภาพผิวที่ดีขึ้น หลังทำสามารถเห็นผลได้ถึง 30% และจะค่อยๆ เพิ่มประสิทธิภาพขึ้นหลังจากนั้นประมาณ 3 เดือน ทำเพียงปีละ 1 – 2 ครั้งก็ช่วยเพิ่มคอลลาเจนได้ดี เพราะผลลัพธ์ของ Ulthera คงอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี
ฉีด Skin Booster
เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการเพิ่มคอลลาเจนในชั้นผิวให้มากขึ้น ซึ่งหลักการทำงานของเหล่า Skin Booster คือการฉีดตัวยาเข้าไปทำให้ตัวยาไปฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมโทรมด้วยวิธีเดียวกับการฉีดเมโสหน้าใส ทำให้เซลล์ผิวที่อ่อนแอกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินในชั้นผิวให้เพิ่มมากขึ้น ผิวหน้าจึงมีความแน่นกระชับขั้น ผิวอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันก็มีตัวยี่ห้อ Skin Booster ให้เลือกหลายตัวด้วยกัน เช่น Rejuran, Exosome และ chanel injection เป็นต้น
อ่านบทความเพิ่มเติม : Skin Booster คืออะไร? เลือกฉีดตัวไหนดี ราคาแพงไหม?
ข้อดีของการเลือกเติมคอลลาเจนด้วยหัตถการความงาม
แม้ว่าร่างกายจะสามารถสร้างคอลลาเจนขึ้นได้เอง แต่ด้วยปัจจัยหลายอย่างอาจทำให้คอลลาเจนลดน้อยลง หลายคนอาจไม่สามารถปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อคงปริมาณคอลลาเจนได้ การเลือกหัตถการความงามจะเป็นทางเลือกที่ช่วยเติมคอลลาเจนในผิวหน้าได้ ซึ่งมีข้อดีดังนี้
- ช่วยเร่งผลลัพธ์ผิวหน้าให้ดีขึ้นในระยะเวลาสั้น
- คงสภาพได้นาน ดูเป็นธรรมชาติ ผิวหน้าแข็งแรงขึ้น
- เพิ่มความมั่นใจในวันที่ต้องการใช้ผิวหน้าแบบเร่งด่วน
- มั่นใจได้ว่าปลอดภัย เพราะเป็นนวัตกรรมที่ทันสมัย ได้รับการรับรองมาตรฐาน
- เห็นผลลัพธ์ได้จริง คุ้มค่าในการทำ
สามารถเติมคอลลาเจนด้วยหลายวิธีพร้อมกันได้หรือไม่?
การเติมคอลลาเจนให้ผิวไม่จำกัดว่าต้องทำด้วยหัตถการความงามวิธีใดเพียงวิธีเดียว แต่สามารถทำหลายอย่างร่วมกันได้ โดยเฉพาะในคนที่มีอายุมากขึ้นและอยากเห็นผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพในการเติมคอลลาเจนอย่างรวดเร็ว แต่จะเหมาะกับบุคคลบางกลุ่มเท่านั้น เพราะหากไม่ได้มีปัญหาผิวมากก็ไม่จำเป็นต้องใช้หลายวิธีเข้าช่วย แนะนำให้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญหรือทางคลินิกก่อนทำ เพื่อประเมินปัญหาและเลือกวิธีปรับสภาพผิวได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย
เลือกทำหัตถการเพิ่มคอลลาเจนบนใบหน้า อย่างไรให้ปลอดภัย
การทำหัตถการแม้ว่าจะมีความปลอดภัยสูงแต่ก่อนเลือกทำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของการเพิ่มคอลลาเจนให้ผิวหน้าได้ดีที่สุด ควรศึกษาและตัดสินใจเลือกอย่างละเอียดตามข้อแนะนำดังนี้
- ศึกษารายละเอียดและข้อมูลของหัตถการที่ต้องการทำอย่างละเอียด
- เลือกคลินิกที่วางใจได้ มีการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- คลินิกมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด ให้คำแนะนำในการทำได้อย่างดี
- คลินิกใช้อุปกรณ์หรือตัวยาที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย
- มีการรักษาความสะอาด และใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ
- มีสาขาให้บริการที่ครอบคลุมหลายพื้นที่
- สามารถขอคำปรึกษาหรือจองคิวได้ง่ายผ่านทางออนไลน์
การดูแลและป้องกันไม่ให้ผิวหน้าเสียคอลลาเจน
นอกเหนือจากวิธีการเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิวแล้ว การดูแลเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหน้าเสียคอลลาเจนก็สำคัญ ควรทำควบคู่กันเพื่อคงสภาพคอลลาเจนให้มีความแข็งแรง ผิวดูกระชับ อ่อนเยาว์อย่างต่อเนื่อง แนะนำให้ปฏิบัติตามนี้
- หลีกเลี่ยงการเจอมลภาวะผิว เช่น แสงอาทิตย์ ฝุ่น ควัน
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำก่อนออกจากบ้าน
- ดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน เพิ่มความยืดหยุ่นในชั้นผิว
- เติมมอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้กับผิวเป็นประจำ ป้องกันผิวขาดน้ำ ซึ่งกระทบกับการสร้างคอลลาเจนในผิว
- ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เฮลท์ตี้มากขึ้น งดสูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์
รีวิวหลังเพิ่มคอลลาเจนบนใบหน้า ที่กังนัมคลินิก
หลังเลือกวิธีเพิ่มคอลลาเจนบนใบหน้าที่กังนัมคลินิก เห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวที่ดูสดใส เปล่งปลั่งขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ปัญหาผิวหมองคล้ำ ดูสุขภาพผิวไม่ดี ขาดความเรียบเนียนก็ลดลง เหมาะกับคนที่เริ่มมีอายุเพิ่มขึ้นและต้องการหาวิธีดูแลตัวเองแบบเห็นผลชัดเจน
สรุป
การเลือกวิธีเพิ่มคอลลาเจนให้ผิวหน้าด้วยวิธีที่เหมาะสมกับสภาพผิว ก็จะช่วยลดอายุให้กับผิวได้ดี ปรับภาพลักษณ์ให้อ่อนเยาว์ลง ผิวจะค่อยๆ เปลี่ยนแปลง เกิดความยืดหยุ่น กระชับ และดูเปล่งปลั่งขึ้นอย่างธรรมชาติ หากมีการดูแลอย่างต่อเนื่องประกอบกันทั้งด้วยวิธีทางหัตถการความงามและการดูแลตัวเองทั่วไป