ข้อควรรู้ก่อน โกนหนวด ยังไงให้เกลี้ยง ไม่เป็นตอและบาดผิว

เวลาจะกำจัดหนวดให้ได้รวดเร็วทันใจ หลายๆคนคงจะนึกถึงการโกนหนวดเป็นอันดับแรก แต่รู้หรือไม่ว่าการจะโกนหนวดนั้นเป็นวิธีที่เสี่ยงทำให้ผิวถูกบาด และขนขึ้นใหม่เป็นตอ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด จนได้รับบาดเจ็บ หรือโกนแล้วไม่ได้ผิวไม่เรียบเนียน ลูบ ๆ แล้วรู้สึกสากมือ และมีปัญหาผิวอื่นๆตามมา เราจึงมาแชร์ ขั้นตอนการโกนหนวดแบบเรียบเนียนที่มือใหม่หัดโกนต้องรู้ รับรองว่าจะไม่มีปัญหาผิวหลังโกนหนวดตามมาอย่างแน่นอน

การโกนหนวดคืออะไร?

การโกนหนวด คืออีกหนึ่งวิธีกำจัดขนหนวดที่ได้รับความนิยม โดยการใช้อุปกรณ์ที่หาซื้อได้ง่ายจากร้านสะดวกซื้อทั่วไปอย่างมีดโกน หรือมีดโกนไฟฟ้า เพื่อตัดลงบนเส้นขนให้ขาดหลุดออกจากรากเหลือแค่เพียงระดับเดียวกับผิวหนัง ซึ่งถือเป็นการกำจัดหนวดแบบชั่วคราวเท่านั้น

การโกนขนหนวดเหมาะกับใคร ?

• เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดหนวดแบบเร่งด่วน
• เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบมีปัญหาสิวบริเวณคาง หรือริมฝีปาก
• เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดความมันบนใบหน้า และต้องการกระชับรูขุมขน
• เหมาะสำหรับผู้ที่อยากให้การแต่งหน้าเรียบเนียนและ ติดทนนานมากขึ้น
• เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาว่างไปทำเลเซอร์กำจัดขนเป็นประจำ

อุปกรณ์สำหรับการโกนหนวดมีอะไรบ้าง?

สำหรับการโกนหนวดหลายคนอาจจะคิดว่ามีเพียงมีดโกนเพียงอย่างเดียว ก็สามารถกำจัดหนวดได้อย่างเรียบเนียนนั้นถือเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะจริงๆแล้วการโกนหนวดอย่างถูกวิธี จะต้องมีอุปกรณ์ที่ช่วยในการปกป้องผิวและอื่น ๆ ดังนี้

• มีดโกนหนวด
  มีดโกน เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับการโกนหนวด ดังนั้นเพื่อให้การโกนหนวดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ควรเลือกใช้มีดโกนใหม่ที่มีความคมมากเป็นพิเศษ เพื่อทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้น้อยที่สุด แต่อาจจะต้องระวังการบาดบนผิวด้วยเช่นกัน
• เครื่องโกนหนวดไฟฟ้า
  เครื่องโกนไฟฟ้า เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่นิยมใช้สำหรับการโกนหนวด เพราะสามารถล้างทำความสะอาด และสามารถใช้ซ้ำได้หลายครั้ง แต่ต้องใช้คู่กับครีมโกนหนวดเพื่อโกนได้ง่ายขึ้นและช่วยลดอาการระคายเคืองบนชั้นผิวหนังได้ดี แถวยังไม่ต้องเสี่ยงต่อการถูกใบมีดบาดอีกด้วย
• ครีมหรือโฟมโกนหนวด
  ครีมหรือเจลกำจัดขนหนวด เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มือใหม่หัดโกนหนวดจำเป็นต้องมี จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหนวดและผิวบริเวณที่โกน ทำให้เส้นขนอ่อนตัวลง และสามารถโกนหนวดได้ง่าย เรียบลื่นมากขึ้น ช่วยลดการระคายเคืองของผิว ทำให้การโกนหนวดเป็นไปได้ง่ายขึ้น และช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน ไม่หยาบกร้านหลังการโกน
• ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลังโกนหนวด
  Aftershave (อาฟเตอร์เชฟ) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อดูแลผิวหนังหลังกำจัดขนหนวดโดยเฉพาะ ซึ่งมีส่วนประกอบของสารที่สามารถฆ่าเชื้อต่างๆได้ เช่น alcohol denatured หรือมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ที่นิยมใส่ในสกินแคร์ เพื่อช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ผิว และช่วยกระชับรูขุมขน แต่ควรใช้ในปริมาณที่ไม่มากเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวหนังโดยรอบเกิดการระคายเคืองผิวได้

ขั้นตอนการโกนหวดให้เกลี้ยง ไม่บาดผิวและไม่เป็นตอ

การโกนหนวดอาจสร้างความระคายเคืองให้กับผิวได้ ดังนั้น ดังนั้นหาดมือใหม่อยากโกนหวดให้เกลี้ยง ไม่บาดผิวและไม่เป็นตอควรปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้

1. ใช้คลีนเซอร์และน้ำอุ่นก่อน
   การโกนหนวดควรเตรียมผิวให้พร้อม ด้วยการเปิดรูขุมขนให้กว้างขึ้น โดยการใช้น้ำอุ่นล้างหน้า จากนั้นใช้ผ้าขนหนูมาชุบน้ำอุ่นแล้ววางไว้บนผิวหน้าประมาณ 2 นาที เพื่อช่วยให้รูขุมขนค่อย ๆ เปิด เพื่อช่วยให้สามารถทำความสะอาดรูขุมขนได้อย่างหมดจดจาก นั้นใช้คลีนเซอร์เช็ดทำความสะอาดรูขุมขนเพื่อการทำความสะอาดที่ล้ำลึกมากยิ่งขึ้น
2. สครับเพื่อกำจัดเซลล์ผิวเก่า
   การสครับผิวเบา ๆ ตรงบริเวณใบหน้า หรือบริเวณที่ต้องการโกนหนวด จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันตามรูขุมขน รวมถึงเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวหนังดูกระจ่างใสเนียนนุ่ม และสามารถโกนหนวดได้อย่างเกลี้ยงเกลามากขึ้น
3. เตรียมผิวก่อนโกน
   การเตรียมผิวให้มีความพร้อม และทำให้ผิวมีสภาพที่แข็งแรงโดยใช้ Pre-Shave Oil ปรับสภาพผิวและทำให้ขนอ่อนนุ่มลง จะช่วยลดการโดนบาดจากมีดโกนได้ เนื่องจากน้ำมัน Pre-Shave Oil จะช่วยสร้างชั้นผิวให้หนาแน่นเคลือบบนผิวหน้า ช่วยลดแรงต้านจากขนหนวด ทำให้การโกนหนวดเป็นไปอย่างราบรื่น
4. ทาครีมโกนหนวดหรือโฟมโกนหนวด
   หลังจากการเตรียมผิวก่อนการโกนหนวดเสร็จเรียบร้อย ก่อนการใช้ใบมีดหรือเครื่องโกนหนวด ควรจะต้องทาครีมโกนหนวดหรือโฟมโกนหนวดเสียก่อน โดยทาในทิศทางที่ย้อนขึ้นด้านบนเพื่อเป็นการยกขนขึ้นให้ห่างจากใบหน้า ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้การโกนหนวดได้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนและแม่นยำมากขึ้น
5. เช็คความสะอาดและความคมของมีดโกน
   การเช็คความสะอาดและความคมของมีดโกนถือเป็นข้อสำคัญที่ไม่ควรพลาด เพราะการใช้มีดโกนที่คมจะช่วยลดการระคายเคืองของผิวในขณะโกน อีกทั้งมีดโกนที่สะอาดจะช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในระหว่างการโกน ดังนั้นหากต้องการเซฟให้การโกนหนวดของคุณปลอดภัยก็อย่าลืมตรวจสอบขั้นตอนนี้ให้ดี
6. โกนตามแนวขน
   การควรโกนหนวดจะต้องโกนตามแนวขนด้วยน้ำหนักมือที่สม่ำเสมอ เพราะหากลงน้ำหนักมือที่อยู่มากเกินไปก็อาจทำให้โดนมีโกนบาดได้ และหากไม่โกนหนวดตามแนวขนก็อาจจะทำให้ขนขึ้นใหม่เป็นตอแข็ง หรือมีปัญหาขนคุดตามมาได้
7. ล้างออกด้วยน้ำเย็น
   หลากการโกนหนวดอาจทำให้รู้ขุมขนเกิดการระคายเคือง และมีการเปิดกว้างขึ้น ดังนั้นหลังการโกนหนวดควรล้างหน้าด้วยน้ำเย็น เพราะเชื่อกันว่าน้ำเย็นสามารถช่วยกระชับรูขุมขน และช่วยลดการระคายเคืองของผิวได้ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นผดผื่นหรือรอยแดงหลังการโกนหนวด
8. ทาครีมบำรุงหรืออาฟเตอร์เชฟหลังการโกน
   (Aftershave) อาฟเตอร์เชฟ เป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญมากหลังการโกนหนวด เพราะมีส่วนประกอบอย่างเช่น แอลกอฮอล์ จึงเป็นตัวช่วยหลักที่มีการออกฤทธิ์เพื่อช่วยปกป้องการติดเชื้อจากสิ่งต่างๆได้ดี อีกทั่ง Aftershaveยังทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง และช่วยเซฟผิวจากการอักเสบและติดเชื้อจากการโกนได้อีกด้วย
9. โกนขนซ้ำเป็นประจำ
   เพราะการโกนหนวดเป็นวิธีกำจัดขนได้เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการโกนซ้ำบ่อยๆอย่าน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยการใช้ใบมีดใหม่ เพื่อช่วยลดการเกิดสิ่งสกปรกและลดการติดเชื้อ นอกจากนี้การโกนซ้ำเป็นประจำ ยังช่วยทำให้การโกนหนวดมีความเรียบเนียนยิ่งขึ้น

ข้อดี-ข้อเสียของการโกนหนวดมีอะไรบ้าง?

การโกนขนหนวดถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยขจัดเส้นขนและเซลล์ผิวเก่าที่ตายให้หลุดออกได้อย่างง่ายดาย แต่ก็อาจทำให้มีปัญหาผิวตามมาได้ จึงถือเป็นวิธีกำจัดขนที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียดังนี้

ข้อดีของการโกนหนวด

1. ทำให้ผิวหน้าดูสะอาดเกลี้ยงเกลา เรียบเนียนขึ้น
2. ช่วยกำจัดไรขนอ่อน ความมันส่วนเกิน
3. ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก
4. ลดแหล่งสะสมของแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว
5. ทำให้ผิวหน้าสามารถดูดซึมการบำรุงได้ดีขึ้น และทำให้เมคอัพติดทนตลอดวัน

ข้อเสียของการโกนหนวด

1. อาจทำให้ไรขนขึ้นใหม่ดูหนาและมีสีที่เข้มขึ้น
2. หากไม่ทำถูกวิธีอาจทำให้เกิดขนคุดตามมาได้
3. หากใช้ใบมีดโกนที่ไม่คม หรือ มีดโกนที่ไม่สะอาดอาจเกิดการระคายเคืองผิวได้
4. อาจทำให้ได้รับบาดเจ็บและเกิดบาดแผลได้
5. ผลลัพธ์จากการโกนหนวดอยู่ไหนเพียงแค่ 3-5 วันเท่านั้น ต้องโกนซ้ำบ่อยๆ

โกนหนวดแล้วเป็นตอเกิดจากอะไร

โกนหนวดแล้วเป็นตอ เกิดจากการโกนหนวดที่ไม่เป็นจังหวะไม่สม่ำเสมอ จึงทำให้เส้นขนในบางจุดไม่ถูกโกน จนกลายเป็นตอเกิดขึ้นได้ในอนาคต ดังนั้นทุกครั้งที่โกนขนหนวดควรโกนไปในทางทิศเดียวกันให้เป็นจังหวะอยู่เสมอจังหวะลากให้ได้ยาวที่สุดแบบเบามือ เพื่อช่วยลดการเกิดตอได้

ผลลัพธ์ของการโกนหนวดอยู่ได้นานไหม

การโกนหนวดเป็นการกำจัดขนได้เฉพาะแค่บนผิวหนังดังนั้นผลลัพธ์ในการโกนหนวดแต่ละครั้ง อาจอยู่ได้นานถึง 3-5 วัน เท่านั้น เนื่องจากขนหนวดจะงอกขึ้นใหม่ได้ทุกๆวินาทีเฉลี่ยวันละ 0.2-0.5 มิลลิเมตร แต่หากเกิดจากกรรมพันธุ์ ขนหนวดอาจเพิ่มขึ้นได้เร็วกว่าคนปกติเพราะฉะนั้น จึงต้องโกนหนวดถี่กว่าคนอื่น ๆ

ข้อควรระวังในการโกนหนวด

• ต้องทำในบริเวณที่สะอาดปลอดเชื้อโรค และควรทำความสะอาดผิวหน้าก่อนโกนหนวด เพื่อไม่ให้ผิวหนังเกิดการอักเสบ หรือ ติดเชื้อได้
• ไม่ควรใช้มีดโกนซ้ำ ๆ เพราะหากใบมีดโกนไม่คม อาจทำให้เส้นขนขาดไม่สม่ำเสมอจนเกิดขนคุดได้
• ก่อนการโกนจะต้องใช้ครีมโกนหนวดทุกครั้ง เพื่อปกต้องผิวไม่ให้เกิดการเสียดสีจากใบมีดโดยตรง
• การโกนหนวดผิดทิศทางอาจทำให้ขนหนวดที่ขึ้นใหม่เกิดเป็นตอมีเส้นแข็งและสีเข้มขึ้นได้
• ไม่ควรกดใบมีดแรงๆ ขณะโกน เนื่องจากอาจทำให้ผิวหนังเกิดการบาดเจ็บและติดเชื้อตามมา

การแก้ปัญหาโกนหนวดแล้วเป็นตอด้วยเลเซอร์

การทำเลเซอร์กำจัดขนหนวด ด้วย Long Pulse Nd YAG เป็นการนำพลังงานเลเซอร์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย โดยเครื่องเลเซอร์มีความยาวคลื่นถึง 1,064 นาโนเมตร ซึ่งสามารถลงไปช่วยกำจัดขนได้ถึงเซลล์รากขน ให้ความลึกถึง 5-7 มิลลิเมตร จึงทำให้วงจรชีวิตขนสั้นลงและขนที่งอกใหม่จะหลุดออกได้ง่าย Long Pulse Nd Yag จึงได้รับความนิยมใช้กำจัดขนในคลินิกชั้นนำ

นอกจากนี้ Long Pulse Nd Yag ยังได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของไทย (อย.) และสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA) ยังเป็นการทำลายขนหนวดได้อย่างแม่นยำและตรงจุด จึงสามารถกำจัดขนได้แบบถาวร พร้อมช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้บริเวณที่ยิงเลเซอร์ มีผิวพรรณที่ขาวเรียบเนียนขึ้นอีกด้วย

ข้อดีของการเลเซอร์กำจัดขนหนวด

• มีความปลอดภัยต่อผิว เพราะเครื่องเลเซอร์ที่ใช้ ผ่านมาตรฐานการรับรองจาก US-FDA จึงให้ความปลอดภัยสูง
• สามารถเข้าไปจับเส้นขนได้ลึก แม้กระทั่งเส้นขนอ่อนที่มีขนาดเล็กความบางมาก
• ช่างยลดอัตราการเกิดขนใหม่80-90% ต่อครั้ง และสามารถกำจัดขนได้ผลจริงแบบถาวรนาน 1-2 ปี
• ทำลายรากขนอย่างล้ำลึกและให้ปรับสภาพทำให้ผิวมีความเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น
• ช่วยแก้ปัญหาขนคุด ผิวไม่เรียบได้อย่างตรงจุด ซึ่งไม่มีการกำจัดขนวิธีไหนสามารถทำได้
• สามารถทำได้ทุกสีผิว และทุกลักษณะเส้นขนโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อผิว
• ใช้เวลาในการทำไม่นาน เพียง 5 นาที และไม่ต้องทำซ้ำบ่อย แค่เดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น

ข้อเสียของการเลเซอร์กำจัดขนหนวด

• ในช่วงแรกอาจมีรอยแดงในบริเวณที่ได้รับการทำเลเซอร์ และจะหายไปได้เองใน 1-2 ชั่วโมง
• ควรงดการจับ ถู ขัด หรือกิจกรรมที่อาจจะส่งผลให้ผิวเกิดการระคายเคือง
• หลังทำอาจมีความรู้สึกร้อนๆ ได้เล็กน้อยเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น

ระยะการเห็นผลของการเลเซอร์กำจัดขนหนวด

Long pulse ND Yag สามารถให้ผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เลเซอร์ และหากเมื่อกลับมาทำตามคำแนะนำอย่างต่อเนื่อง 3-5 ครั้งขึ้นไปก็จะเห็นผลที่ดีและชัดเจนขึ้นอย่างถาวรนั่นเอง

รีวิวเลเซอร์กำจัดหนวด

สรุป

ถึงแม้ว่าการโกนหนวดจะเป็นวิธีที่ง่าย ให้ผลลัพธ์รวดเร็ว แต่ก็ยังไม่ใช้วิธีที่สามารถยับยั้งการเกิดใหม่ของเส้นขน ดังนั้นยังมีข้อเสียอีกหลายประการซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาผิวตามมาได้ในอนาคต ดังนั้นผู้ที่ต้องการกำจัดหนวดแบบถาวร และได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยจึงควรเลือกการทำเลเซอร์ Long Pulse ND YAG ที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดขนได้ถึง 90% และให้ความปลอดภัยสูง โดยควรทำในคลินิกที่มีมาตรฐาน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยให้การกำจัดขนหนวดได้ผลลัพธ์ดีที่สุด