วิธีลดขาเบียดเร่งด่วน ให้ขาเรียวสวยภายใน 7 วัน มีวิธีไหนบ้าง?

สำหรับใครที่กำลังกลุ้มอกกลุ้มใจกับปัญหาขาใหญ่ ขาเบียด ที่ทำให้ต้นขาดูไม่กระชับ ขาย้วย แถมมีเซลลูไลท์ จนหมดความมั่นใจเพราะใส่อะไรก็ไม่สวย เมื่อเห็นบทความนี้อย่าเพิ่งเลื่อนผ่านนะคะ เพราะวันนี้เราจะมาป้ายยาบอกวิธีลดขาเบียด ให้กลับมาเรียวสวยเหมือนเสกได้ ด้วยเคล็ดลับการลดต้นขาที่ปลอดภัย เห็นผลที่รวดเร็ว ซึ่งจะมีวิธีอะไรให้ปฏิบัติตามกันบ้างมาดูกันเลยค่ะ

ขาเบียดคืออะไร

คือการมีต้นขาที่ใหญ่อันเกิดมาจากการมีไขมันและเซลลูไลท์สะสมในบริเวณต้นขาที่มากเกินไป จนทำให้ไม่เหลือช่องว่างระหว่างขาทั้งสองข้างเวลาเดินหรือวิ่งจึงการเสียดสีเบียดกันจนถูกเรียกว่า “ขาเบียด” นั่นเอง ซึ่งอาการขาเบียดนั้นไม่ได้เพียงแต่สร้างความไม่สวยงามแล้วยังสร้างความรำคาญใจแก่ผู้เป็นอีกด้วย

สาเหตุขาเบียด เกิดจากอะไร?

ไขมันส่วนเกิน หรือเซลลูไลต์บริเวณต้นขา เกิดขึ้นได้จากหลายองค์ประกอบ ทั้งกายภาพหรือทางกรรมพันธุ์และพฤติกรรมการทานอาหาร เช่น ทานของทอด ของมัน อาหารรสจัด รวมถึงการดื่มน้ำไม่เพียงพอ จึงทำให้ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญเปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงานได้ นอกจากนี้ไขมันที่ต้นขายังอาจเกิดจากภาวะ Lipedema หรือภาวะบวมน้ำเหลือง ซึ่งเป็นภาวะที่ทำให้ไขมันกระจายออกไปตามส่วนต่าง ๆ มีความผิดปกติ จนสังเกตได้ชัดว่าบริเวณต้นแขน ต้นขา และสะโพก ดูบวมขึ้น ส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มสาวๆ กว่าผู้ชาย

12 วิธีลดขาเบียด แต่ละวิธีเหมาะกับใคร?

เมื่อกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาไขมันที่ต้นขา หลายคนอาจจะต้องการวิธีที่จะช่วยให้ต้นขากลับมาเรียวสวยอย่างเร่งด่วนอีกครั้ง ซึ่งในปัจจุบันก็สามารถทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่เห็นผลชัดเจนและปลอดภัยที่จะมาแนะนำในวันนี้ได้แก่

ควบคุมการทานอาหาร

การควบคุมอาหารเป็นวิธีง่ายที่คุณสามารถทำได้เอง โดยการหลีกเลี่ยงอาหารประเภทของทอด ของมัน แป้ง และน้ำตาล ควบคุมปริมาณแคลอรีที่รับประทานในแต่ละวัน ให้อยู่ที่ประมาณ 250-500 กิโลแคลอรีต่อวัน ซึ่งวิธีนี้จะช่วยทำให้คุณสามารถควบคุมน้ำหนักให้ลดลงได้อย่างน้อย 1/2 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ และทำให้ร่างกายดึงไขมันส่วนเกินมาใช้เป็นพลังงาน เพื่อลดไขมันตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณต้นขา ที่เป็นแหล่งสะสมของไขมันมากที่สุด

ออกกำลังกายลดต้นขา

การออกกำลังการแบบเฉพาะส่วน โดยเน้นบริเวณต้นขาเป็นหลัก อย่างเช่นการออกกำลังกายแบบคาดิโด, Squat, Sumo Squat, Lunges, Wall Sit Squat, Jumping Jacks, Squat Jumps, Leg raises ซึ่งเป็นเป็นท่าออกกำลังการที่เน้นลดต้นขาโดยเฉพาะ สำหรับใครที่อยากลดไขมันส่วนเกิน เพื่อให้ขาเรียวเล็ก ลองออกกำลังกายตามนี้ดูได้เลยค่ะ

ทำขาเรียวด้วยเจลร้อน

โดยทั่วไป เจลร้อนสำหรับการลดสัดส่วนมักจะประกอบไปด้วยสารสกัดที่ช่วยเร่งให้เกิดการเผาผลาญ เช่น สารสกัดจากพริก, คาเฟอีน, แคปซาซิน ส้มแขก ไคโตซาน และโกโก้ ซึ่งทำให้เกิดความร้อนลงสู่ชั้นผิว ด้วยวิธีการทาครีมลงบนผิวแล้วนวดคลึงต้นขาไปเรื่อย ๆ อย่างน้อย 20-30 นาทีต่อวัน เพื่อให้ไขมันเกิดการแตกตัว ซึ่งวิธีนี้ก็ก็ช่วยทำให้เซลลูไลท์ที่ต้นขาลดลง ทำให้ต้นขาเล็กลงได้ แต่อาจต้องใช้ระยะเวลานานและต้องอาศัยความต่อเนื่อง

นวดขาเรียว

การนวดต้นขาจะช่วยทำให้เกิดการผ่อนคลายและลดความตึงของกล้ามเนื้อ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต และช่วยให้ไขมันส่วนเกินที่ต้นขาแตกตัวเล็กลง ทำให้ร่างการสามารถขับออกทางน้ำเหลืองได้ง่ายขึ้น ซึ่งขั้นตอนในการนวดคือ โกยเนื้อต้นขาด้านนอกและด้านในขึ้นเป็นวงกลมถี่ ๆ ในทิศทางเข้าหาต่อมน้ำเหลือง ข้างละ 20 ครั้ง จากนั้นใช้มือทั้งสองข้างบิดเนื้อต้นขาในทิศทางตรงกันข้ามกันเหมือนบิดผ้า ข้างละ 30 ครั้ง เมื่อทำต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันจะทำให้ต้นขาเรียวขึ้น

ใส่สายรัดขาเรียว

สายรัดที่กระชับสัดส่วนมีลักษณะ คล้ายปลอกขาป้องกันการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อสำหรับการออกกำลังกาย แต่มีความยืดหยุ่นมากกว่าใช้ใส่รัดบริเวณต้นขาก่อนเข้านอน หรือในระหว่างวัน เพื่อช่วยเก็บต้นขาที่หย่อนคล้อย มีไขมันให้ดูกระชับขึ้น ซึ่งมีราคาก็มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน เมื่อใส่เป็นประจำอย่างต่อเนื่องจึงจะเห็นผล

เครื่อง RF หรือ คลื่นวิทยุ สลายไขมันต้นขา

เป็นเครื่องมือที่ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย สลายไขมันและเซลลูไลท์ เหมาะสำหรับผู้มีปัญหา เซลลูไลท์ หรือไขมันสะสมบริเวณต้นนขา สะโพก หน้าท้อง ต้นแขน โดยการทำ RF จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ทำให้ร่างกายสามารกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปได้ดีขึ้น สัดส่วนกระชับขึ้น ลดปัญหาผิวเปลือกส้ม เหมาะสำหรับคนที่กลัวความเจ็บจากการผ่าตัด แต่การทำ RF ไม่ใช่การลดน้ำหนัก

Carboxy Therapy

เป็นการใช้เข็มที่มีขนาดเล็กแทงผ่านผิวหนัง จากนั้นทำการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดอ๊อกไซด์กระจายตัวเข้าไปในเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังบริเวณต้นขา เพื่อให้เส้นเลือดในบริเวณนั้นเกิดการขยายตัว เลือดมาเลี้ยงบริเวณต้นขาได้ดี ต้นขาได้รับออกซิเจนมากขึ้น ซึ่งออกซิเจนนั้นจะลดการคั่งของของเหลวระหว่างเซลล์ ซึ่งทำให้เซลล์ไขมันเกิดการสลายตัวลดลง ส่งผลให้เนื้อเยื่อผิวหนังที่กระชับตึงขึ้น ต้นขาจึงดูเรียวขึ้นแต่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง 15-20 ครั้งขึ้นไป ทุก 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์

ดูดไขมันต้นขา

การดูดไขมัน (Liposuction) เป็นกระบวนการศัลยกรรมเพื่อความงาม โดยใช้เทคนิคการกำจัดไขมันส่วนเกิน ชั้นใต้ผิวหนังแบบเฉพาะส่วน เพื่อปรับปรุงบริเวณต้นขาให้มีความเรียวกระชับขึ้น โดยแพทย์จะทำการกรีดแผลที่ต้นขา จากนั้นใช้คลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency Assisted Liposuction) ซึ่งจะช่วยให้ไขมันแตกสลายเป็นโมเลกุลที่เล็กๆ เพื่อให้สามารถดูดออกมาได้โดยง่าย จากนั้นเริ่มทำการดูไขมันที่ต้นขาด้านใน ต้นขาด้านหน้า และด้านหลัง เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ต้นขาเรียวเป็นธรรมชาติมากที่สุด หลังการทำจะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที แต่อาจมีอาการบวมช้ำหรือผิวหนังเป็นคลื่นให้คนไข้ต้องรับมือ

ฉีดเมโสแฟตต้นขา

การฉีดเมโสแฟต เป็นอีกหนึ่งวิธีในการลดไขมัน เซลลูไลท์บริเวณต้นขา โดยจะใช้การฉีดตัวยาเข้าสู่ชั้นผิวหนัง จากนั้นตัวยาจะจะออกฤทธิ์กระตุ้นระบบการทำงานของ metabolism ไขมันส่วนหนึ่งจะแตกตัวหรือสลายตัว และถูกขับออกจากไปตามกลไกการขับของเสียของร่างกายปะปนออกมากับเหงื่อ อุจจาะ และปัสสาวะ นอกจากนี้การฉีดแฟตต้นขายังจะช่วยดึงไขมันส่วนเกินมาใช้เป็นพลังงาน จึงทำให้ต้นขาดูเรียวกระชับขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด สามารถเห็นผลได้ภายใน 2-4 สัปดาห์ หลังทำครั้งแรกในผู้ที่มีไขมันไม่มาก แต่สำหรับผู้ที่มีไขมันที่ต้นขาเยอะอาจต้องทำซ้ำ 3-4 ครั้งขึ้นไปจึงเริ่มมีการเห็นผลที่ชัดเจน

ฉีดขาเรียว (Lipodissolve)

Lipo Dissolve หรือที่เรียกว่า LLD (Lipolytic Lymphatic Drainage) เป็นวิธีการการสลายเซลล์ไขมันใหม่ล่าสุดใน Technique ซึ่งตัวยา จะมีการออกฤทธิ์ทำลายเซลล์ไขมันในเนื้อเยื่อชั้นไขมันในเกิดการแตกตัว และช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของระบบน้ำเหลืองใต้ผิวหนังให้ทำงานได้ดีขึ้น จึงทำให้สามารถกำจัดขับไขมันบริเวณต้นขาได้รวดเร็ว มีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรับรองความปลอดภัยจาก FDA ซึ่งมีความแตกต่างจากการฉีด Meso Fat คือใช้ตัวยาในปริมาณที่น้อยกว่า เพียง 4-6 เข็มเท่านั้น มีการเห็นผลเร็วกว่า และหลังการฉีด Lipo Dissolve จะไม่ทำให้เกิดอาการบวม เห็นผลชัดเจนใน 2-4 สัปดาห์

Z Lipo + Z Wave ลดไขมันต้นขา

การลดไขมันต้นขาด้วย Lipo & Z Wave เป็นการใช้ 2 เทคนิค การลดไขมันแบบเฉพาะจุดด้วยด้วยความระดับความเย็น -5°C ถึง -10°C ควบคู่กับการสั่นสะเทือนใต้ชั้นผิว โดย Z Lipo จะทำหน้าที่ดูดเนื้อบริเวณที่ต้องการจำกัดไขมันขึ้นมาแล้วทำให้เกิดการสั่นสะเทือน เพื่อให้เซลล์ไขมันแตกตัวออกจากกันเป็นโมเลกุลเล็กๆ ซึ่งสามารถกำจัดออกไปได้ง่าย จากนั้นปล่อยคลื่นความเย็นแช่แข็งเซลล์ไขมันที่ตาย และ Z Wave ทำหน้าที่ส่งคลื่นความถี่เข้าไปที่ชั้นไขมัน เพื่อให้ระบบน้ำเหลืองลำเลียงไขมันส่วนเกินให้ออกจากร่างกายได้ง่าย ดังนั้นไขมันที่จับตัวกันเป็นก้อน หรือเซลลูไลท์ในชั้นไขมันต้นขาจึงบางลง ทำให้ต้นขาเล็กลง ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่มีความปลอดภัย ไม่ส่งผลข้างเคียงในระยะยาวกับผิว แต่หลังทำคือผิวหนังมีรอยแดงและช้ำบ้างเล็กน้อยเท่านั้น

ฉีดโบท็อกลดต้นขา

การฉีดโบท็อกลดต้นขา คือการใช้ สาร Botulinum toxin ฉีดเข้าไปยังกล้ามเนื้อบริเวณต้นขา เพื่อให้โบท็อกออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อที่ใหญ่ และแข็งเล็กลงชั่วคราว โดยหลังการฉีดโบท็อกจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวใดๆของร่างกาย แต่วิธีน้ำจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาต้นขาใหญ่จากกล้ามเนื้อเท่านั้น เพราะสารโบท็อกจะไม่สามารถกำจัดไขมันได้ ซึ่งหลังการฉีดโบท็อกจะมีระยะการเห็นผลอยู่ที่ 7-14 วัน เห็นผลลัพธ์อย่างเต็มที่ว่าต้นขาเรียวเล็กลงใน 1 เดือน และผลลัพธ์อยู่ได้นาน 4-6 เดือน จากนั้นต้องกลับมาฉีดซ้ำอีกครั้ง

วิธีดูแลตัวเองและป้องกันปัญหาขาใหญ่

เพื่อไม่ให้สาวๆต้องเจอกับปัญหาต้นขาใหญ่ ที่ลดยากควรมีการดูแลตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดมาสะสมไขมันส่วนเกิดบริเวณต้นขา ดังนี้

• ดื่มน้ำให้เพียงพอเพราะน้ำเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับการเผาผลาญไขมันส่วนเกินที่อยู่ในร่างกาย และไขมันที่มาจากอาหารและเครื่องดื่มให้ออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี
• ลดโซเดียมการรับประทานอาหารที่มีโซเดียมมากเกินไป จะทำให้ร่างกายเกิดภาวะบวมน้ำ เนื่องจากมีการกักเก็บน้ำส่วนเกินไว้ ซึ่งส่งผลทำให้ต้นขาใหญ่ได้โดยตรง
• ควบคุมอาหารการทานของทอด ของมัน แป้งขัดสี และน้ำตาล อาจทำให้ต้นขาใหญ่โดยไม่รู้ตัว ดังนั้นจึงควรงดอาหารจำพวกนี้แล้วหันมารับประทานโปรตีน ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการเสริมสร้ากล้ามเนื้อ และช่วยให้อิ่มนานขึ้น ลดการทานของจุกจิกในระหว่างวัน ซึ่งอาหารที่มีโปรตีนสูงได้แก่ ปลาแซลมอน เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ทูน่า และไข่
• ทานผักและผลไม้ผักผักและผลไม้มักจะอุดมไปวิตามินต่างๆที่ร่างกายต้องการ และมีกากใยสูง ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น และนอกจากนี้ผักที่มีสีเขียวเข้มยังประกอบไปด้วยอิเล็กโทรไลต์ ซึ่งมีหน้าที่ช่วยปรับความสมดุลของเหลวภายในร่างกายอีกด้วย
• ออกกำลังกายกระชับสัดส่วนแบบเฉพาะจุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญแคลอรี่และไขมันส่วนเกินได้ดียิ่งขึ้น เช่นคาร์ดิโอหรือการออกกำลังกาย Weight Training
• พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ จะทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ได้ดีขึ้น เนื่องจากการพักผ่อนน้อยจะระดับคอร์ติซอลพุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ร่างกายสูญเสียการควบคุมกลูโคส ซึ่งอาจส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นนั่นเอง

สลายไขมันต้นขา แก้ขาเบียด ที่ไหนดี

การเลือกสลายไขมันต้นขาอันดับแรกที่ต้องให้ความสำคัญนั่นก็คือ ความปลอดภัย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพก็ควรเลือกทำกับสถานพยาบาลเพื่อความงามที่มีคุณสมบัติเพรียบพร้อมดังนี้

• มีวิธีสลายไขมันต้นขาหลายวิธี เพื่อสามารถเลือกให้เหมาะสมกับผู้เข้าใช้บริการมากที่สุด และในคนไขบางคนอาจจำเป็นต้องใช้มากกว่า 1 วิธีในการรักษา เพื่อการเห็นผลที่ดีที่สุด
• เลือกคลินิกที่มีแพทย์อยู่ประจำ เพื่อความต่อเนื่องตามแผนการรักษา
• คลินิกผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากกระทรวงสาธารณสุข และมีเลขที่ใบอนุญาต 13 หลัก แจ้งไว้ให้เห็นชัดเจน
• มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถให้ผลลัพธ์เป็นไปตามที่ผู้เข้าใช้บริการคาดหวัง และมีรีวิวจากลูกค้าจริง
• มีการเปิดเผยข้อมูลของตัวยา และเครื่องมือที่ใช้ พร้อมทั้งให้ข้อมูลกับผู้เข้าใช้บริการอย่างตรงไปตรงมา
• มีการแจ้งราคาที่ชัดเจน เน้นการรักษาที่เห็นผลมากกว่าการขายคอร์สบริการที่เกินความจำเป็น
• ติดตามผลการรักษา และมีช่องทางการติดต่อที่สะดวก

สรุปเลือกวิธีเสกขาเรียวด้วยวิธีไหนเห็นผลไวที่สุด

การเลือกวิธีลดต้นขาให้เรียวสวยจำเป็นต้องเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวของคนไข้มากที่สุด โดยขอแนะนำว่าให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะจะสามารถวิเคราะห์การรักษาได้อย่างตรงจุด และในบางกรณีเพื่อให้การเห็นผลที่ชัดเจนและรวดเร็วที่สุด แพทย์อาจมีการ พิจารณาวิธีลดต้นขาร่วมกันมากกว่า 1 วิธีร่มกัน หากใครมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาแพทย์โดยตรงสามารถติดต่อได้ที่ Gangnam clinic ทุกสาขา