ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม? มีข้อควรระวัง เพื่อลดความสี่ยงได้อย่างไร
การฉีดมีแบบทั้งอันตรายและไม่อันตราย ขึ้นกับหลายปัจจัยทั้งทักษะของแพทย์และ ยี่ห้อฟิลเลอร์ จุดหลักๆ ที่คุณหมอแนะนำให้ฉีดคือ ใต้ตา ขมับ ร่องแก้ม ร่องมุมปาก คาง หน้าผาก และปาก จุดที่ไม่แนะนำให้ฉีดเลยคือ จมูกเพราะเกิดการอักเสบและเกิดภาวะเนื้อตายได้ ส่วนหน้าอก – สะโพกต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่มากไม่คุ้มกับราคาที่จ่ายค่ะ บทความนี้จะพามารู้จักประเภทของสารเติมเต็มแบบต่างๆกัน รวมถึงวิธีการลดความเสี่ยงและอันตรายที่เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ด้วยค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม
การฉีดฟิลเลอร์นั้นไม่มีความอันตรายเลย หากเลือกฉีดกับฟิลเลอร์ของแท้ และฉีดโดยหมอที่มีความชำนาญมีประสบการณ์ในด้านการฉีดฟิลเลอร์สูง เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่งนั้นก็จะต้องใช้เทคนิคการฉีดที่แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงบางตำแหน่งก็เป็นจุดที่มีเส้นเลือดและเส้นประสาทอยู่มากจึงทำให้หากฉีดกับหมอที่ไม่มีประสบการณ์ก็อาจเกิดอันตรายขึ้นได้
ดังนั้นก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์คนไข้ควรทำการศึกษาข้อมูล ข้อควรรู้ต่างๆ ให้ดีเสียก่อนเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นหลังทำนั่นเองค่ะ
สาเหตุที่ทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วเกิดอันตรายมีอะไรบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์ถึงแม้ว่าจะเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูงแต่ก็ย่อมอาจเกิดอันตรายขึ้นได้ด้วยปัจจัย 3 อย่างหลักๆ ดังนี้
- ฉีดโดยหมอที่ไม่มีประสบการณ์หรือหมอเถื่อน
แน่นอนว่าการฉีดฟิลเลอร์นั้นควรจะต้องฉีดกับหมอที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญรู้จักสรีระชั้นผิวรวมไปถึงตำแหน่งของเส้นเลือดใต้ชั้นผิวเป็นอย่างดี เพราะหากหมอไม่เชี่ยวชาญมากพออาจทำให้ฉีดฟิลเลอร์ไปโดนตำแหน่งเส้นเลือดสำคัญจนเกิดอันตรายได้ - ฉีดด้วยฟิลเลอร์ของปลอม
เนื่องจากตัวฟิลเลอร์ของปลอมนั้นไม่ใช่สารไฮยาลรอนิคเอซิดแบบบริสุทธิ์และเราไม่สามารถรรู้ได้เลยว่าในฟิลเลอร์ปลอมมีส่วนผสมของสารอะไรบ้าง จึงถือว่าเป็นอันตรายอย่างมากเพราะฉีดเข้าไปแล้วอาจทำให้เกิดอาการแพ้ อักเสบ จนถึงขั้นติดเชื้อ เนื้อตายได้เลย - มีภาวะแพ้สารไฮยาลูรอนิค เอซิด
ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ก่อให้เกิดอันตรายเกิดขึ้นได้ แต่มักพบได้น้อยมากๆ แต่หากฉีดไปแล้วมาพบว่าตนเองมีอาการแพ้สารไฮยาลูรอนิค เอซิดภายหลังให้รีบเข้าฉีดสลายฟิลเลอร์และรับการรักษาโดยแพทย์อย่างเร็วที่สุด
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์
อาการข้างเคียงหลังการฉีดฟิลเลอร์ที่พบได้บ่อย คือ ช้ำ เขียวราวๆ 2-3 วันเท่านั้น แต่ก็มีอาการไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้อีกเนื่องจากความไม่ชำนาญของแพทย์ แม้จะพบไม่บ่อยแต่ก็เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ ขออธิบายดังนี้ค่ะ
1. ฉีดฟิลเลอร์แล้วผิวไม่เรียบ
หรือเป็นตุ่มก้อนหลังการฉีด เกิดจากการเลือกชนิดฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมกับผิว เช่น เลือกฟิลเลอร์เนื้อหนาเกินไปฉีดบริเวณที่มีผิวบาง เช่น ใต้ตา โหนกแก้ม ทำให้ฉีดแล้วเป็นก้อนตุ่มนูน แก้ไขได้โดยการฉีดสลาย ซึ่งอาจไม่เรียบเนียนในครั้งเดียว คนไข้อาจต้องมาฉีดสลายซ้ำเพื่อติดตามอาการ
2. อาการแพ้ฟิลเลอร์
เกิดขึ้นได้น้อยมาก คนไข้อาจไม่รู้ตัวมาก่อนว่าแพ้ฟิลเลอร์ โดยอาการจะเป็นลักษณะบวมแดงขึ้นมาซึ่งมักเกิดขึ้นทันทีหลังการฉีด ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นกลุ่มคนที่มีประวัติการแพ้สารไฮยาลูรอนิคนั่นเอง
3. ภาวะเนื้อตาย
กรณีนี้มักเกิดขึ้นในคนไข้ที่ฉีดฟิลเลอร์จมูก คุณหมอไม่แนะนำให้คนไข้ฉีดจมูก เพราะเสี่ยงต่อภาวะเนื้อตายและอักเสบมากที่สุด หากต้องการทำให้จมูกสูงขึ้น แนะนำผ่าตัดศัลยกรรมจะปลอดภัยกว่า
4. ฟิลเลอร์อุดตันในเส้นเลือด
ถือเป็นอาการที่อันตรายและร้ายแรงที่สุด เนื่องด้วยฟิลเลอร์อุดตันในเส้นเลือกที่ไปเลี้ยงจอประสาทตา ทำให้ตาบอด ซึ่งเจอได้น้อยๆมากโดยจะเกิดขึ้นทันทีหลังการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งมักมีสาเหตุมาจากการฉีดโดยหมอที่ไม่มีประสบการณ์
อันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม มีอะไรบ้าง?
อีกหนึ่งสิ่งที่น่ากลัวมากๆ นั้นก็คือการฉีดฟิลเลอร์ด้วยฟิลเลอร์ของปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน และไม่ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากอย. ซึ่งกลุ่มฟิลเลอร์ปลอมนั้นจะเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่มีความบริสุทธิ์ ไม่สามารถสลายในร่างกายได้ ดังนั้นเมื่อฉีดไปอาจเกิดผลที่ตามมาดังนี้
- ฟิลเลอร์ไหลเป็นก้อน เกิดจากเมื่อฉีดไปนานตัวซิลิโคนในฟิลเลอร์จำค่อยๆ ไหลไปกองรวมกันเป็นก้อนจนทำให้ผิวเกิดการผิดรูปได้
- มีอาการแพ้ฟิลเลอร์ นั่นเป็นเพราะว่าในฟิลเลอร์ของปลอมนั้นไม่ใช่ฟิลเลอร์ที่สกัดมาจากธรรมชาติ ไม่มีความบริสุทธิ์เหมือนฟิลเลอร์ของแท้และในฟิลเลอร์บางตัวก็ะมีสารอื่นๆ ปะปนอยู่เช่น พลาสติกหรือซิลิโคนเป็นต้น
- มีอาการอักเสบ ติดเชื้อ จนอาจทำให้เกิดเป็นอาการบวม มีหนองร่วมด้วย ซึ่งกรณีเกิดเคสแบบนี้คนไข้จะต้องรีบเข้ารักษากับหมอโดยด่วน
ซึ่งวิธีการรักษาและการแก้ไขก็คือการผ่าตัดและทำการขูดเอาเนื้อฟิลเลอร์ปลอมออก เนื่องจากฟิลเลอร์ของปลอมนั้นจะไม่สามารถใช้การฉ๊ดสลายฟิลเลอร์เหมือนกับฟิลเลอร์ของแท้ได้นั่นเอง
ฉีดฟิลเลอร์แล้วทำให้ตาบอดจริงไหม
อาการตาบอดหลังจากฉ๊ดฟิลเลอร์นั้นมีโอกาสเกิดขึ้นได้ซึ่งมักเกิดขึ้นจากความไม่เชี่ยวชาญของหมอผู้ฉีดที่ทำการฉีดฟิลเลอร์เข้าสู่หลอดเลือดที่เชื่อมต่อกับตา ส่งผลทำให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือดและนำไปสู่อาการตาบอดแบบถาวรได้
ฉีดฟิลเลอร์หลายๆ ครั้งติดต่อกันจะเป็นอันตรายไหม
การฉีดฟิลเลอร์บ่อยๆ ติดต่อกันหลายครั้งนั้นไม่เป็นอันตรายเลยหากฉีดด้วยฟิลเลอร์ของแท้ เนื่องจากฟิลเลอร์ของแท้สามารถอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือนจากนั้นจะสลายไปในร่างกายมนุษย์ ทำให้ผิวกลับสู่สภาพเดิมก่อนฉีดและการมาฉีดเติมนั้นก็ถือว่าไม่เป็นอันตรายต่ออย่างใด
ข้อควรปฏิบัติในการลดความเสี่ยงและอันตรายจากฟิลเลอร์
ผลลัพธ์หลังการฉีดฟิลเลอร์ให้ได้ผลดีขึ้นกับหลายปัจจัย นอกจากฝีมือแพทย์แล้ว คนไข้เองก็ควรมีความรู้ในการดูฟิลเลอร์เบื้องต้นเพื่อลดความเสี่ยงและอันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ ควรปฎิบัติดังนี้ค่ะ
เลือกคลินิกที่มีฟิลเลอร์ให้เลือกหลากหลายยี่ห้อและรุ่น
เพราะฟิลเลอร์แต่ละรุ่นถูกผลิตมาให้มีขนาดโมเลกุล และคุณสมบัติที่แตกต่างกันเพื่อให้เหมาะกับการฉีดในตำแหน่งที่ไม่เหมือนกัน เช่น ฟิลเลอร์รุ่นโมเลกุลขนาดใหญ่ ค่าความคงตัวสูง หากไปฉีดบริเวณใต้ตาจะทำให้เป็นก้อน ผิวไม่เรียบ บางคลินิกมีฟิลเลอร์เพียงไม่กี่รุ่น ก็อาจทำให้ตัวเลือกฟิลเลอร์ที่ดีที่สุดในการฉีดลดน้อยลงไปด้วย
ฟิลเลอร์ต้องได้มาตรฐาน
ทั้ง อย. ไทยและมาตรฐานสากล FDA ตัวกล่องฟิลเลอร์จะต้องระบุ ปีที่ผลิต วันหมดอายุ เลข Lot และเลข Reference no. เพื่อสามารถไปเช็คกับบริษัทผู้ผลิตได้
ฉีดกับแพทย์ประจำคลินิก
ไม่ใช่แพทย์พาร์ทไทม์ เพราะแพทย์ประจำคลินิกจะมีประสบการณ์ในการฉีดคนไข้มากกว่ารวมถึงมีความรู้ศาสตร์กายวิภาคใบหน้าเป็นอย่างดี หากมีปัญหาระหว่างฉีด แพทย์จะสามารถแก้ไขให้ทันท่วงทีได้
บทสรุป
ฉีดฟิลเลอร์จะได้ผลลัพธ์ดีและปลอดภัยหากได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญ เลือกแพทย์ที่ผ่านการฝึกอบรมและการรับรองเพื่อให้แน่ใจว่าคนไข้ได้รับการดูแลจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ กังนัมคลินิกมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านฟิลเลอร์และการปรับรูปหน้า ประสบการณ์มากกว่า 5-10 ปีในการดูแลคนไข้ สามารถนัดปรึกษาที่กังนัมคลินิกได้ทุกสาขาเลยค่ะ