ฉีดปากกระจับ อันตรายไหม มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง? เลือกฉีดอย่างไรให้ปลอดภัย

หากจะให้พูดถึงการฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับในยุคนี้นั้นก็ต้องพูดเลยว่ากลายเป็นสิ่งที่หนุ่มๆสาวๆ หลายคนต่างให้ความสนใจกันอย่างมาก เพราะจะเป็นวิธีการปรับรูปปากที่สามารถเห็นผลได้ทันทีและเห็นผลได้อย่างยาวนาน แต่ทว่าบางคนก็เกิดความกังวลใจถึงเรื่องความปลอดภัยว่าฉีดปากกระจับปลอดภัยไหม ดังนั้นในบทความนี้หมอเลยจะให้ความรู้ในประเด็นนี้กัน

ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ คืออะไร

เป็นวิธีการปรับแก้ไขรูปปากให้มีความอวบอิ่ม และได้รูปทรงคล้ายกับ “ผลกระจับ” ด้วยการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยารูโรนิก แอซิต (Hyaluronic acid : HA) ซึ่งรูปทรงปากกระจับนั้นจะเน้นการฉีดยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย และฉีดเน้นบริเวณส่วนกระจับปากบนให้ชัดขึ้น เพื่อให้รูปปากมีความได้รูปทำให้ใบหน้าดูอ่อนหวานมากยิ่งขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ อันตรายไหม

การฉีดปากกระจับนั้นไม่มีความอันตรายเลย หากฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดกับคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่สูง และฉีดด้วยฟิลเลอร์ของแท้ที่ผ่านอย. เนื่องจากฟิลเลอร์แท้จะเป็นสารสกัดมาจากธรรมชาติทำให้มีโอกาสแพ้ต่ำ

และนอกจากนั้นเมื่อเวลาผ่านไปฟิลเลอร์แท้จะสลายไปเองโดยไม่มีการทิ้งสารตกค้างใดๆ ที่เป็นอันตรายไว้ในร่างกาย นอกจากนั้นการฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับยังสามารถช่วยฟื้นฟูริมฝีปากให้มีความชุ่มชื้น สุขภาพดีได้อีกด้วย

ผลข้างเคียงหลังฉีดปากกระชับมีอะไรบ้าง

หลังจากที่มีการฉีดปากกระจับไปในคนไข้บางรายอาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบหลักๆ คือ

ผลข้างเคียงแบบปกติ

• มีอาการบวม
• มีรอยแดงจากรอยเข็ม

ซึ่งผลข้างเคียงในลักษณะนี้จะหายไปได้เองภายใน 7-14 วันโดยคนไข้สามารถใช้การประคบเย็นเพื่อช่วยบรรเทาอาการได้

ผลข้างเคียงที่ไม่ปกติ

• มีหนอง
• มีตุ่มนูนแดงหรือตุ่มใสเกิดขึ้น
• มีผื่นลมพิษหลังฉีด

ซึ่งสามารถสันนิษฐานได้ว่าคนไข้อาจมีอาการแพ้ฟิลเลอร์หรือมีอาการอักเสบติดเชื้อเกิดขึ้น จึงควรรีบพบแพทบ์เพื่อวินิจฉัยถึงสาเหตุหาแนวทางการรักษาในลำดับต่อไป

ใครไม่ควรฉีดฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ

แน่นอนว่าการฉีดปากกระจับนั้นไม่ใช่หัตถการที่มีความอันตรายใดๆ ยกเว้นกลุ่มคนบางกลุ่มที่เป็นข้อยกเว้นว่าไม่ควรเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับดังนี้

• ผู้ที่มีประวัติการแพ้สารไฮยารูโรนิก แอซิต (Hyaluronic acid : HA)
• สตรีที่กำลังตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
• ผู้ที่ทานยาหรือวิตามินที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด
• ผู้ที่มีบาดแผล แผลจุดบริเวณริมฝีปาก

3 ข้อที่ควรให้ความสำคัญก่อนฉีดปากกระจับ อย่างไรให้ปลอดภัย

การฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นมีอยู่ 3 สิ่งหลักๆ ที่ควรการศึกษาข้อมูล ตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ ให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจทำ ดังนี้

1. ใช้ฟิลเลอร์ของแท้เท่านั้น

เนื่องจากฟิลเลอร์ของแท้ทุกรุ่นที่มีในไทยล้วนแล้วแต่ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากอย. มาแล้ว สามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย และนอกจากนั้นฟิลเลอร์ของแท้ยังมีความบริสุทธิ์สูงสามารถสลายตัวได้ในร่างกายมนุษย์

ต่างกับฟิลเลอร์ปลอมที่ส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของซิลิโคนที่ไม่สามารถสลายตัวในร่างกายได้ ทำให้นานๆ ไปเนื้อฟิลเลอร์จะเกิดการไหลและจับตัวเป็นก้อน หรือบางรายอาจเกิดการอับเสกติดเชื้อตั้งแต่หลังฉีดแรกๆ เลยก็ได้

ซึ่งในปัจจุบันได้มียี่ห้อฟิลเลอร์ให้เลือกหลายยี่ห้อด้วยกัน โดยในไทยก็มียี่ห้อฟิลเลอร์ที่ผ่านอย.แล้ว 14 ยี่ห้อดังนี้ Restylane, Belotero, Juvederm, Perfectha, Revanesse, Yvoire, Neuramis, Definisse, Flore, E.P.T.Q., Hyabell, Neobelle, Biohyalux และ Art

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์แท้ต่างกับฟิลเลอร์ปลอมอย่างไร มีจุดสังเกตอย่างไรบ้าง?

2. ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับกับหมอเท่านั้น

การฉีดปากกระจับนั้นจะต้องใช้ทักษะและความเชี่ยวชาญอย่างมาก เนื่องจากจะเป็นการฉีดเพื่อปรับแก้รูปทรงริมฝีปาก ซึ่งหากไม่ได้กับหมอแท้อาจทำให้ฉีดผิดตำแหน่งจนทำให้ปากเบี้ยว ปากผิดรูปได้

ดังนั้นก่อนฉีดควรทำการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหมอผู้ฉีดโดยสามารถพิมพ์ค้นหาชื่อคุณหมอในเว็บไซต์ของแพทย์สภา เพื่อตรวจสอบได้ว่าเป็นหมอที่มีใบประกอบวิชาชีพไหม และข้อสำคัญหมอแท้จะไม่รับฉีดฟิลเลอร์นอกสถานที่เหมือนหมอกระเป๋าอย่างเด็ดขาด

ตรวจสอบข้อมูลแพทย์ของกังนัมคลินิก ทีมเพทย์กังนัมคลินิก

3. ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดทั้งก่อนและหลังฉีด

แน่นอนว่าการดูแลตัวเองทั้งช่วงก่อนและหลังทำนั้นมีความสำคัญอย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วงป้องกันอาการอักเสบ ผลข้างเคียงจากการทำแล้วยังช่วยทำให้ผลลัพธ์หลังทำออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจอีกด้วย ซึ่งข้อควรปฏิบัติมีดังนี้

ก่อนทำ

• งดทานยา อาหารเสริมกลุ่มที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
• งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนฉีดเพื่อป้องกันการกระตุ้นการอักเสบ บวม ช้ำ
• หากมีบาดแผล ผื่น สิว บริเวณที่จุดที่ฉีดให้เลื่อนการฉีดปากกระจับออกไปแล้วทำการรักษาอาการดังกล่าวให้หายดีเสียก่อน

หลังทำ

• ดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อให้เนื้อฟิลเลอร์สามารถทำงานได้ดีในชั้นผิว
• งดทานอาหารกลุ่มร้อนจัดๆ หรือทานอาหารหน้าเตาร้อนอย่างน้อย 2 สัปดาห์
• งดจับ กด ลูบ หรือกัดริมฝีปาก สครับปากแรงๆ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของเนื้อฟิลเลอร์

อันตรายของการฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับปลอมมีอะไรบ้าง

ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่าเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสารในฟิลเลอร์ปลอมนั้นเป็นสารอะไร และมีผลที่อันตรายต่อร่างกายแค่ไหน แต่ส่วนใหญ่ที่สามารถตรวจพบได้จะเจอกับซิลิโคนเหลวหรือพาราฟิน ซึ่งเป็นสารที่ไม่สามารถสลายในร่างกายของมนุษย์ได้ และอาการที่มักพบเวลาฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับปลอมมีดังนี้

• เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ ปากบวมมีน้ำหนอง
• เกิดพังผืดรัดผิวจนทำให้ปากเบี้ยว ปากผิดรูป
• ฉีดแล้วเกิดเป็นก้อนทันที หรือฉีดไปนานๆ แล้วเนื้อฟิลเลอร์ปลอมไหลไปรวมกันเป็นก้อน

หากฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับปลอมจะแก้ไขอย่างไรดี

ในส่วนของวิธีแก้ไขและรักษาหลังจากไปฉีดฟิลเลอร์ปลอมมานั้นจะสามารถรักษาได้ด้วยวิธีเดียวก็คือการผ่าตัดขูดเอาเนื้อฟิลเลอร์ออก ซึ่งถือเป็นวิธีการผ่าตัดขนาดเล็กที่จะมีบาดแผลเล็กน้อย แต่ระดับความยากง่ายในการรักษานั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าฉีดฟิลเลอร์ปลอมมานานแค่ไหน

เนื่องจากหากฉีดฟิลเลอร์ปลอมไปนานๆ บางรายอาจเกิดเป็นพังผืดในใต้ผิวจึงทำให้มีความยากในการขูดฟิลเลอร์ที่มากกว่าการฉีดฟิลเลอร์ปลอมไม่นาน

เลือกฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับที่มีราคาเหมาะสม

ในส่วนของราคาค่าใช้จ่ายในการฉีดปากกระจับนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้ออะไรในการฉีด และใช้ปริมาณเนื้อฟิลเลอร์ที่ใช้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะใช้ฟิลเลอร์อยู่ที่ 1-2 ซีซี ราคาประมาณ 10,000-20,000 บาท

แต่ที่กังนัมคลินิกเรามีโปรโมชั่นฉีดปากกระจับในราคาดังนี้

· Restylane 1cc = 8,623-12,000 บาท
· Restylane kyss 1cc = 13,693-15,000 บาท
· Juvederm 1cc = 10,693-12,000 บาท
· Belotero 1cc = 7,896-12,000 บาท
· Neuramis 1 cc = 1,999 บาท (จากปกติราคา 5,966 บาท)

ข้อสำคัญในพิจารณาการเลือกสถานที่ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ

• คลินิกต้องได้มาตรฐาน
  มีการเปิดให้บริการด้วยการขออนุญาตกระทรวงสาธารณสุขอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะต้องมีใบประกอบอนุญาตการเปิดคลินิกที่มีเลข 11 หลักที่สามารถนำไปตรวจสอบกับทางกระทรวงสาธารณสุขได้
• คลินิกต้องมีการใช้ฟิลเลอร์ของแท้
  ซึ่งจะต้องมีการสั่งฟิลเลอร์ผ่านบริษัทผู้นำเข้าอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งก่อนฉีดทางคุณหมอมักจะมีการนำกล่องฟิลเลอร์มาให้ลูกค้าตรวจสอบด้วยการสแกน QR Code เพื่อตรวจสอบฟิลเลอร์ก่อนทุกครั้งก่อนฉีด ซึ่งหากคลินิกไหนไม่มีการให้ตรวจสอบลูกค้าสามารถแจ้งขอตรวจสอบได้เลยซึ่งหากคลินิกไม่อนุญาตสามารถส่งเรื่องแจ้งกับทาง สคบ.ได้
• คลินิกจะต้องให้หมอเป็นผู้ฉีดให้เท่านั้น
  เนื่องจากการฉีดปากนั้นจะต้องใช้ทักษะอย่างมากในการฉีดเพื่อปรับและปั้นรูปทรงให้ได้ตามที่คนไข้ต้องการดังนั้นหากคลินิกไหนให้พยาบาลหรือผู้ช่วยพยาบาลเป็นผู้ฉีดให้คนไข้สามารถปฏิเสธการรับบริการและแจ้งทาง สคบ.ได้เลย
• คลินิกต้องมีการแจ้งราคาค่าใช้จ่ายให้ครบถ้วนก่อนทุกครั้ง
  แน่นอนว่าเรื่องค่าใช้จ่ายก็ถือเป็นประเด็นสำคัญมากๆ สำหรับคนไข้หลายๆ คน ดังนั้นคลินิกจึงควรแจ้งราคาค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ครบถ้วนเช่น มีค่าหมอ ค่าอุปกรณ์หรือค่ายาชาเพิ่มไหม ซึ่งรายละเอียดค่าใช้จ่ายควรจะต้องแจ้งตั้งแต่ตอนที่คนไข้เข้าปรึกษาและประเมินกับคุณหมอ และไม่ควรมีการบวกเพิ่มภายหลังที่คนไข้ทำการรักษาแล้วอย่างเด็ดขาด
• คลินิกควรมีบริการติดตามผลหลังฉีด
  การติดตามผลลัพธ์หลังฉีดถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คนไข้กังวลอย่างมาก เพราะในบางรายอาจเกิดผลข้างเคียงขึ้นได้ ดังนั้นคลินิกควรที่จะมีบริการโทรหลังเพื่อสอบถามอาการของคนไข้หลังฉีดว่าเป็นอย่างไรบ้าง มีผลข้างเคียงอะไรไหมหากมีควรดูแลตัวเองอย่างไรหรือถ้ามีผลที่ร้ายแรงเช่นการแพ้ ก็จะได้ให้คนไข้รีบเข้ารักษาได้อย่างทันท่วงที

สรุป

การฉีดปากกระจับนั้นไม่มีความอันตรายใดๆ เลยหากคนไข้เข้ารับบริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดกับคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่สูง และมีการใช้ฟิลเลอร์ของแท้ในการฉีด เนื่องจากฟิลเลอร์ของแท้จะมีความบริสุทธิ์มีโอกาสที่ร่างกายจะแพ้ได้น้อยมากๆ ดังนั้นการตรวจสอบคลินิกก่อนเข้ารับบริการฉีดปากให้ถ่ถ้วนก่อนทุกครั้งจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก

และสำหรับใครที่สนใจอยากฉีดปากที่กังนัมคลินิกเรามีคุณหมอผู้เชี่ยวชาญคอยให้บริการหลายท่าน และฉีดกับกังนัมมั่นใจได้เลยว่าใช้ฟิลเลอร์ของแท้ผ่านอย. ฉีดแล้วปลอดภัยต่อร่างกายทุกกล่องในราคาที่คนไทยสามารถเอื้อมถึงได้ สำหรับท่านไหนที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กังนัมคลินิกทุกสาขาหรือ Line : @gangnamclinic