โกนขนขาดีไหม? รวมข้อควรรู้ก่อนโกนขนขาอย่างไรให้ถูกวิธีและไม่เป็นตอ
เส้นขนตามจุดต่างๆ บนร่างกายเราถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยเรื่องต่างๆ แต่ในยุคสมัยนี้ที่มีค่านิยมของการมีผิวที่เรียบเนียนไร้ขนจึงทำให้หลายๆ คนเกิดความที่อยากจะกำจัดขนโดยเฉพาะบริเวณขา และวิธีที่ได้รับความนิยมสูงสุดก็คือการโกนขนขา แต่ทว่าการโกนขนขาบ่อยๆ นั้นดีจริงไหม ทำไมโกนแล้วถึงเกิดขนเป็นตอเยอะ ในบทความนี้เราจะมาให้คำตอบนั้นกัน
เลือกใช้วิธีกำจัดขนด้วยการโกนขนขาดีไหม
การเลือกวิธีกำจัดขนขาด้วยการโกนนั้นก็ถือเป็นอีกวิธีที่เป็นดาบสองคมซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัว แต่หากจะให้พูดในเชิงแพทย์ก็ต้องว่าเป็นวิธีที่ไม่แนะนำเลย เพราะมีผลข้างเคียงที่รุนแรงและไม่คุ้มเสียเป็นอย่างมากนั่นเอง
โกนขนขามีข้อดีอะไรบ้าง
- ช่วยประหยัดเวลาในการกำจัดขน โดยใช้ระยะเวลาในการทำเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
- ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเนื่องจากใบมีดโกนมีหลายราคาตั้งแต่หลัก 10 ไปจนถึงหลัก 100 บาท
- เป็นการกำจัดขนที่ไม่รู้สึกเจ็บในระหว่างทำ
- สามารถทำเองด้วยตนเองได้ที่บ้านง่ายๆ เนื่องจากมีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน
โกนขนขามีข้อเสียอะไรบ้าง
- หลังทำจะทำให้เส้นขนที่ขึ้นใหม่มีลักษณะแข็งเป็นตอ จนทำให้รู้สึกว่าขนดกและเยอะขึ้น
- มีระยะเวลาการเห็นผลที่สั้นเพียง 1-2 วันเท่านั้นเส้นขนก็จะกลับมาเริ่มยาวเหมือนเดิม
- หลังทำเสี่ยงต่อการเกิดขนคุด เนื่องจากเป็นวิธีการกำจัดที่ก่อให้เกิดการเสียดสีของผิวหนัง
- หากทำโดยไม่ระวังอาจเสี่ยงต่อการเกิดแผล หรือโดนใบมีดโกนบาดผิวได้
- หลังทำในช่วงที่ขนเริ่มยาวขึ้นจะทำให้รู้สึกคันที่ผิว
วิธีโกนขนขา มีขั้นตอนอย่างไร ต้องใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง
ในการโกนขนขานั้นบอกเลยว่าเป็นวิธีการกำจัดขนที่ใช้อุปกรณ์ที่น้อยมากๆ และสามารถหาซื้ออุปกรณ์ได้ง่ายๆ อีกด้วยโดยอุปกรณ์จะมีดังนี้
- ใบมีดโกน แนะนำว่าให้ใช้มีดโกนที่มีใบมีดเยอะๆ เพราะจะทำให้ลดความเสี่ยงของการโดนบาดได้
- สครับผิว โดยแนะนำให้ใช้สครับเม็ดละเอียดเพื่อทำการขัดผิวเบาๆ ก่อน 1 วันจะทำให้ช่วยขจัดขี้ไคลและเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกซึ่งจะทำให้โกนขนได้ง่ายขึ้น
- ออลย์หรือโลชั่นทาผิว สำหรับทาผิวหลังโกนขนเพื่อบำรุงผิวส่วนนั้นให้ชุ่มชื้นและช่วยลดอาการอักเสบของผิวหลังโกนขนได้
นอกจากการโกนขนขา แล้วเลือกกำจัดขนขาด้วยวิธีไหนดี
และอย่างที่ใครหลายๆ คนทราบว่าในยุคนี้เราได้มีวิธีการที่จะมาช่วยกำจัดเส้นขนขาได้อย่างมากมายหลายวิธีแล้ว ดังนี้
แว็กซ์ขนขา
เป็นวิธีการกำจัดขาอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยม โดยจะใช้แผ่นแว็กซ์หรือขี้ผึ้งแว็กซ์ขนเป็นตัวช่วยในการถอนเอาเส้นขนออก ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เราสามารถกำจัดขนขาได้ถึงรากขน ทำให้สามารถเห็นผลลัพธ์ได้นานกว่าการโกนขนอยู่ที่ 2-3 สัปดาห์ ในปัจจุบันวิธีนี้มีทั้งที่แบบซื้อมาทำเองและสามารถไปทำที่ร้านได้โดยมีค่าใช้จ่ายต่อครั้งอยู่ที่ 100-1,000 บาท แต่วิธีนี้ก็มีข้อเสียเช่นกันคือในตอนทำจะรู้สึกเจ็บมากๆ เพราะถือเป็นการดึกกระชากเอาเส้นขนออกแบบรวดเร็ว จึงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดรูขุมขนกว้าง และการอักเสบของรูขุมขนได้
ใช้ครีมกำจัดขนขา
เป็นอีกหนึ่งวิธียอดนิยมที่สามารถทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้านซึ่งวิธีนี้จะคล้ายๆ กับการโกนขนแต่จะใช้เนื้อครีมเป็นตัวทำลายเส้นขนแทนใบมีด โดยในปัจจุบันได้มีตัวครีมกำจัดขนออกมาวางขายอย่างมากมายหลายรูปแบบทั้งในแบบครีมหรือขวดสเปรย์เนื้อมูส โดยวิธีทำก็ง่ายๆ เพียงแค่ทาครีมลงในจุดที่จะกำจัดขนแล้วปล่อยทิ้งไว้ให้ครีมทำลายเส้นขนแล้วจึงค่อยล้างออก
แต่ก็เช่นกันวิธีนี้ไม่สามารถกำจัดเส้นขนได้ถึงรากขนได้ แต่ก็ถือเป็นวิธีที่เสี่ยงต่ออาการแพ้ระคายเคืองจากตัวครีมกำจัดขนได้เช่นกัน ดังนั้นก่อนทำจึงควรทำการทดสอบอาการแพ้ครีมเสียก่อน
การใช้เลเซอร์กำจัดขนขา
เป็นวิธีการกำจัดเส้นขนด้วยแสงเลเซอร์ที่จะทำการยิงส่งพลังงานคลื่นเลเซอร์เพื่อให้ตัวแสงลงไปกำจัดเส้นขนให้ค่อยๆ หลุดร่วงออกไป วิธีนี้สามารถกำจัดเส้นขนได้ถึงรากขน และมีผลข้างเคียงหลังทำที่น้อยกว่าวิธีอื่นๆ
จึงทำให้ในปัจจุบันก็ถือเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก จนทำให้เกิดเครื่องเลเซอร์หลายๆ รุ่นออกมา ซึ่งในประเทศไทยเองก็มีเครื่องเลเซอร์ยอดนิยมที่ถูกใช้ในการกำจัดขนทั้งหมด 3 เครื่องหลักๆ ด้วยกัน ดังนี้
- IPL หรือ Intense Pulse Light เป็นวิธีการใช้คลื่นแสงที่มีความยาวคลื่นอยู่ที่ 650 –1200 นาโนเมตร เข้าไปกำจัดเส้นขนทำให้เส้นขนค่อยๆ
- Diode Laser เป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นอยู่ที่ 800-810, 940, 1,064 -1,350 นาโนเมตร และเหมาะกับการทำในบริเวณใหญ่ๆ อย่าง ขา แขน หลังเท่านั้นและในระหว่างทำอาจรู้สึกสะดุ้งหรือร้อนที่ผิวเล็กน้อยในระหว่างทำ
- Long Pulse ND YAG Laser หรือที่หลายๆ คนเรียกว่า YAG Laser เป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 1,064 นาโนเมตรทำให้สามารถกำจัดเส้นขนได้ถึงรากขน และช่วยแก้ปัญหาขนคุด สีผิวคล้ำไม่เรียบเนียน เหมาะกับทุกบริเวณ และทุกสีผิว ทุกสภาพเส้นขนโดยเฉพาะเส้นขนสีเข้มของคนเอเชีย
การทำเลเซอร์กำจัดขนขาเป็นวิธีที่แก้ปัญหาเรื่องขนได้อย่างตรงจุดแต่ก็ราคาที่จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าวิธีอื่นๆ และต้องใช้ความสม่ำเสมอในการทำเลเซอร์จำนวน 3-5 ครั้งขึ้นไปถึงจะสามารถเห็นผลลัพธ์ แต่โดยรวมแล้วก็ยังถือว่าเป็นวิธีที่แพทย์ผิวหนังแนะนำ
การดูแลตัวเองหลังกำจัดขนขา
แน่นอนว่าเมื่อมีค่านิยมในการชอบผิวที่เนียนใสไร้ขนแล้วซึ่งนอกจากวิธีการกำจัดขนแล้วก็มีวิธีการดูแลตัวเองหลังกำจัดขนที่ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งจะมีวิธีการดูแลตัวเองดังนี้
- ทาครีมบำรุงหรือออลย์บำรุงผิวทุกครั้งหลังกำจัดขนขา เพื่อป้องกันอาการอักเสบผิวและช่วยบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้นสุขภาพดี
- หลังกำจัดขนไม่ควรทำการขัดหรือสครับผิว เนื่องจากเป็นช่วงที่ผิวมีความบอบบางสูงจึงเสี่ยงต่อการระคายเคืองผิวได้ง่าย
- หลังกำจัดขน 2-3 วันแรกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิวอย่าง BHA, AHA รวมไปถึงกลุ่มวิตามินซี ไวท์เทนนิ่งหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ที่ทำให้เสี่ยงต่อการระคายเคืองผิวได้
- ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันเพื่อปกป้องผิวจากการถูกแสงแดดทำร้าย
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการโกนขนขา
หลังโกนขนขาแล้วคันเกิดจากอะไร
อาการคันผิวหลังจากโกนขนนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็น อาการอักเสบของผิวในระหว่างโกน การใช้ใบมีดโกนที่ไม่เหมาะสมใบมีดไม่คมทำให้ผิวเกิดการอักเสบ การเกิดขนใหม่และมีลักษณะเป็นตอแข็งซึ่งจะเป็นช่วงที่ทำให้รู้สึกคันผิวเป็นเรื่องปกติ หรือแม้แต่การโกนขนในช่วงที่ผิวแห้งก็สามารถส่งผลให้รู้สึกคันหลังโกนขนได้เช่นกัน
โกนขนขายังไงไม่ให้เป็นตอ
ซึ่งต้องทำความเข้าใจก่อนว่าหลักการโกนขนคือการใช้ใบมีดตัดเอาเส้นขนที่โผล่ขึ้นมาเหนือผิวออก ซึ่งทำให้จุดที่ถูกใบมีดตัดนั้นมีลักษณะแข็งเป็นตอและเมื่อเส้นขนส่วนนั้นยาวขึ้นก็จะทำให้ขนเป็นตอแข็งๆ ถือเป็นเรื่องปกติ แต่หากตอนโกนขนมีการโกนขนในแนวเดียวกับเส้นขนก็จะสามารถช่วยทำให้เส้นขนเป็นตอแข็งน้อยลงได้
หลังโกนขนขาแล้วผื่นขึ้นเกิดจากอะไร
อาจเกิดมาจากในระหว่างที่โกนขนใบมีดไปสัมผัสกับผิวที่มากเกินไปจนทำให้ผิวมีอาการอักเสบเกิดเป็นตุ่มผื่นขึ้นในจุดที่โกนขนออกไปนั้นเองโดยส่วนใหญ่แล้วตุ่มดังกล่าวจะมีเส้นขนอยู่ข้างในเมื่อปล่อยทิ้งไว้นานๆ จะเกิดอาการอักเสบคล้ายกับเป็นสิวหรือที่เราเรียกว่าขนคุดนั่นเอง อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาเรื่องขนคุดและวิธีรักษา
โกนขนขาควรโกนเเนวไหน? ขึ้นหรือลง
หลักการโกนเส้นขนที่ดีนั้นควรโกนแนวเดียวกับเส้นขน เช่น หากเส้นขนเรามีลักษณะงอกในแนวลงให้เราโกนแนวลงตามเส้นขน ซึ่งวิธีนี้จะสามารถช่วยลดการเกิดตอขนที่แข็งได้ และยังช่วยลดการเกิดขนคุดได้อีกด้วย
โกนขนขาต้องทาอะไรก่อน ทาครีมได้ไหม
จริงๆ แล้วก่อนโกนขนไม่จำเป็นจะต้องทาอะไรก่อนโกน แต่ควรทำความสะอาดผิวก่อนโกนทุกครั้ง หรือทางที่ดีแนะนำให้ทำการสครับผิวก่อนโกนขนอย่างน้อย 1 วันเพื่อขัดขี้ไคลและเซลล์ผิวออกทำให้เราโกนขนออกมาได้ง่ายขึ้น
หลังโกนขนขาอยู่ได้กี่วัน
ระยะเวลาการเห็นผลลัพธ์หลังโกนขนขานั้นจะอยู่ที่ 1-2 วันเท่านั้นและหลักจากนั้นเส้นขนจะค่อยๆ ยาวขึ้นทีละนิดซึ่งขนที่ยาวขึ้นจะมีลักษณะเป็นตอและมีเส้นที่หนาแข็งกว่าเดิมมากๆ
โกนขนขาทุกวันได้หรือไม่
ถือเป็นวิธีที่ไม่แนะนำ เนื่องจากจะส่งผลให้เกิดอาการอักเสบของผิวได้สูงมากๆ เพราะผิวของเราจะต้องถูกใบมีดขูดในทุกๆ วัน และนอกจากนั้นยังทำให้เส้นขนมีลักษณะแข็งเป็นตอและทำให้เสี่ยงต่อการเกิดขนคุดได้ง่ายมากๆ อีกด้วย
สรุป โกนขนขาดีไหม?
การโกนขนขนนั้นถึงแม้จะเป็นวิธีที่ประหยัดค่าใช้จ่ายและสามารถเห็นผลไว แต่ก็ถือเป็นวิธีที่ไม่แนะนำให้ทำอย่างยิ่งเนื่องจากทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดผิวอักเสบ ขนคุด ขนหนาแข็งเป็นตอได้ง่ายมากๆ และในบางรายอาจเกิดบาดแผลขึ้นในระหว่างโกนขนได้อีกด้วย ดังนั้นควรเลือกไปใช้วิธีการกำจัดด้วยวิธีอื่นๆ อย่างการทำเลเซอร์ที่ถึงแม้จะมีราคาที่สูงกว่าแต่สามารถเห็นผลได้ยาวนานกว่าและไม่ก่อให้เกิดขนคุดอย่างแน่นอน