โบท็อกเกาหลียอดฮิตมียี่ห้อไหนบ้าง ปัจจุบันฉีดแล้วยังดีอยู่ไหม?
อีกหนึ่งวิธีการในการช่วยปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย ร่องลึกตามจุดต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีและเป็นวิธีที่ฮอตฮิตอย่างมากในวงการหัตถการความงามนั้นก็คือการฉีดโบท็อก ซึ่งในปัจจุบันเรามียี่ห้อโบท็อกให้เลือกหลายแบรนด์ด้วยกัน แต่ในบทความนี้เราจะมีพูดถึงโบท็อกเกาหลีกันบ้างว่าจะมียี่ห้อไหนบ้าง ฉีดแล้วดีไหมคุ้มค่าหรือไม่
เลือกฉีดโบท็อกเกาหลีดีไหม
การเลือกฉีดโบท็อกเกาหลีนั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับกลุ่มคนที่ต้องการอยากจะทำหัตถการและต้องการประหยัดงบค่าใช้จ่าย เพราะว่าโบท็อกเกาหลีนั้นเด่นอย่างมากในเรื่องของราคาที่สามารถจับต้องเอื้อมถึงได้ง่าย และมีประสิทธิภาพไม่แตกต่างจากโบท็อกจากฝั่งอเมริกาเลย
นอกจากนั้นโบท็อกเกาหลีทุกยี่ห้อในไทยล้วนแล้วแต่ผ่านการรับรองความปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีการขึ้นทะเบียนจนอย.เรียบร้อยแล้ว จึงสามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย
โบท็อกเกาหลีมียี่ห้ออะไรบ้าง
ในปัจจุบันนั้นโบท็อกเกาหลีที่เราสามารถพบได้บ่อย ๆ ในไทยนั้นมีอยู่ 4 ยี่ห้อหลัก ๆ ดังนี้
1. Nabota
Nabota (นาโบตะ) เป็นยี่ห้อโบท็อกเกาหลีที่ฮอตฮิตอย่างมากเป็นยี่ห้อที่มีมาอย่างยาวนานถึง 30 ปี จุดเด่นคือการใช้เทคโนโลยี HI-PURE Technology ในการผลิตทำให้ตัวยาที่มีความบริสุทธิ์ถึง 98.7% จึงสามารถเห็นผลค่อนข้างไวกว่ายี่ห้ออื่น ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและสามารถช่วยลดโอกาสการดื้อยาได้ดี ซึ่งบริษัทผู้ผลิตได้แก่บริษัท DAEWOONG ปัจจุบันโบท็อก Nabota ได้มีอยู่ด้วยกัน 2 รุ่นก็คือ
- Nabota (กล่องดำ) จำนวน 100 ยูนิต
- Nabota (กล่องแดง) จำนวน 200 ยูนิต
2. Aestox
Aestox (เอสท็อก) เป็นโบท็อกเกาหลีอีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมในไทยเนื่องจากโบท็อกยี่ห้อนี้ได้มีการทำวิจัยร่วมกับโรงพยาบาลศิริราชในไทยทำให้ได้โบท็อกที่มีมาตรฐานระดับสากลออกมา และมีตัวยาที่มีความบริสุทธิ์มากกว่า 99.5% จึงช่วยลดโอกาสการดื้อโบท็อกได้ดีมาก ๆ ปัจจุบันโบท็อก Aestox ได้มีการนำเข้าอย่างเป็นทางการโดยบริษัทผู้นำเข้ายาและเครื่องมือแพทย์อย่างบริษัทเอสเทค ฟาร์มา จำกัด นอกจากนั้นยังมีถึง 3 รุ่น ดังนี้
- Aestox (กล่องม่วง) จำนวน 50 ยูนิต
- Aestox (กล่องฟ้า) จำนวน 100 ยูนิต
- Aestox (กล่องส้ม) จำนวน 200 ยูนิต
3. Botulax
Botulax (โบทูแลค) เป็นโบท็อกเกาหลีที่นำเข้าไทยโดยบริษัท คอสม่า เมดิคอล จำกัด ความพิเศษคือบริษัทผู้ผลิตได้มีการคิดค้นและพัฒนาสูตรโบท็อกให้มีความใกล้เคียงกับโบท็อกจากอเมริกาอย่าง Allergan ทำให้ตัวยามีความบริสุทธิ์อยู่ที่ 99.5% ผลลัพธ์ที่ใกล้จึงดูเป็นธรรมชาติ เห็นผลไว หลังฉีดหน้าไม่แข็งตึงปัจจุบันมีทั้งหมด 2 รุ่นคือ
- Botulax 100 ยูนิต
- Botulax 200 ยูนิต
4. Neuronox
Neuronox (นิวโรน็อกซ์) เป็นโบท็อกจากบริษัท Medytox จุดเด่นคือเป็นโบท็อกสายพันธุ์ออริจินัล Hall A Hyper ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดียวกับโบท็อก Allergan จากอเมริกาที่มีงานวิจัยรองรับมากมายทำให้ผลลัพธ์หลังฉีดออกมาคล้ายคลึงกันคือตัวยาออกฤทธิ์ไว ปัจจุบันมีทั้งหมด 3 รุ่นคือ
- Neuronox (กล่องแดง) จำนวน 50 ยูนิต
- Neuronox (กล่องฟ้า) จำนวน 100 ยูนิต
- Neuronox (กล่องส้ม) จำนวน 200 ยูนิต
ฉีดโบท็อกเกาหลีกับโบท็อกอเมริกาต่างกันอย่างไร
จริง ๆ แล้วการฉีดโบท็อกเกาหลีและโบท็อกอเมริกานั้นถ้าจะให้พูดถึงเรื่องผลลัพธ์ก็เรียกว่าแทบไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่ หากมีการฉีดด้วยโบท็อกของแท้ ฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และฉีดในปริมาณที่เหมาะสมกับปัญหา แต่ทว่าทั้งโบท็อกเกาหลีและโบท็อกอเมริกานั้นก็ย่อมมีความแตกต่างกันอยู่ในเรื่องของราคาและระยะเวลาการเห็นผล ดังนี้
- โบท็อกเกาหลี มีอายุการเห็นผลโดยประมาณอยู่ที่ 4-6 เดือน
- โบท็อกอเมริกา มีอายุการเห็นผลโดยประมาณอยู่ที่ 6-12 เดือน
แต่ทั้งนี้เรื่องระยะเวลาการเห็นผลลัพธ์นั้นอาจจะยาวนานกว่าระยะโดยเฉลี่ยขึ้นอยู่กับการตัวเองตัวเองของคนไข้หลังทำ แต่หากใครที่อยากผลลัพธ์ในระยะยาวก็แนะนำให้เลือกโบท็อกจากฝั่งอเมริกาจึงจะตอบโจทย์ที่สุด
ฉีดโบท็อกเกาหลีเสี่ยงดื้อยาได้จริงไหม
จริง ๆ แล้วการฉีดโบท็อกนั้นไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อไหน โบท็อกเกาหลี โบท็อกอเมริกา โบท็อกเยอรมัน หากฉีดอย่างไม่ถูกต้องตามความเหมาะสมก็อาจก่อให้เกิดอาการดื้อยาได้ทั้งหมด ดังนั้นหากไม่อยากดื้อยาควรระมัดระวังในเรื่องต่อไปนี้
- ฉีดด้วยโบท็อกของแท้ที่ได้มาตรฐาน ไม่ควรฉีดโบท็อกปลอม โบท็อกหิ้วอย่างเด็ดขาดเพราะอาจทำให้เกิดอาการดื้อยาได้ง่ายมากกว่าปกติ
- ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง มีใบประกอบวิชาชีพ ห้ามฉีดกับผู้ช่วยพยาบาล หมอกระเป๋าเพราะกลุ่มคนเหล่านี้ย่อมมีความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างร่างกาย เส้นประสาทได้ดีไม่เท่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ฉีดไปแล้วอาจทำให้ตัวยาไปโดยเส้นประสาทจนเกิดอาการหน้าแข็งตึง หนังตาตก ปากเบี้ยวได้
- ไม่ควรฉีดโบท็อกในปริมาณที่มากเกินไป หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่ายิ่งฉีดด้วยจำนวนยูนิตเยอะ ๆ ยิ่งทำให้เห็นผลนานซึ่งเป็นความคิดที่ผิดมาก ๆ เพราะยิ่งฉีดเยอะเกินยิ่งทำให้เกิดการดื้อยาได้ง่าย
- ไม่ควรฉีดโบท็อกบ่อยเกินไป ในการฉีดโบท็อกแต่ละครั้งควรเว้นระยะประมาณอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อไม่ให้เกิดการดื้อยา
- ไม่ควรเปลี่ยนยี่ห้อโบท็อกที่ใช้ฉีดบ่อย ๆ การเปลี่ยนยี่ห้อโบท็อกบ่อย ๆ ยิ่งเสี่ยงต่อการดื้อยาได้สูงมาก ๆ
และเมื่อเกิดอาการดื้อยาโบท็อกแล้วก็ต้องตอบเลยว่าในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาอย่างเป็นทาง แต่แพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำให้งดการฉีดโบท็อกเพื่อรอให้ภูมิต้านทานต่อโบท็อกหายไปจึงจะสามารถกลับมาฉีดได้ โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3 – 5 ปีหรือมากกว่านั้นในบางราย
โบท็อกเกาหลีราคาเท่าไหร่
เรื่องของราคาค่าฉีดโบท็อกเกาหลีนั้นจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 3,500-12,000 บาทต่อจำนวน 100 ยูนิต แต่ทั้งนี้ในบางคลินิกจะมีโปรโมชั่นที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับการตลาดของแต่ละแห่ง แต่อย่างที่กังนัมคลินิกเรามีโปรโมชั่นค่าฉีดโบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Nabota และ Aestox ในราคาดังนี้
โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Nabota
- 100 ยูนิต ราคา 5,966 บาท
โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Aestox
- 50 ยูนิต ราคา 3,696 บาท
สรุป
การฉีดโบท็อกเกาหลีนั้นถือเป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยปรับรูปหน้า ลดริ้วรอยได้ดีอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากเนื่องจากโบท็อกเกาหลีมีราคาที่ถูกและมีประสิทธิภาพไม่แพ้กับโบท็อกอเมริกา จะแตกต่างกันหลัก ๆ ในเรื่องของการเห็นผลที่โบท็อกเกาหลีจะมีอายุที่สั้นกว่าอยู่ที่ 4-6 เดือนโดยประมาณ และในปัจจุบันโบท็อกเกาหลีก็ถือว่ามีให้เลือกหลายยี่ห้อด้วยกัน เช่น Nabota, Aestox, Botulax และ Neuronox เป็นต้น
สำหรับลูกค้าท่านไหนที่สนใจอยากรับบริการฉีดโบท็อกเกาหลี ที่กังนัมคลินิกเรามีโปรโมชั่นค่าฉีดโบท็อก Nabota (ของแท้ ฉีดโดยแพทย์) ในราคาเริ่มต้น 5,966 บาท (100 ยูนิต) โดยสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line : @gangnamclinic หรือได้ที่กังนัมคลินิกทุกสาขา