ฉีดเมโสแฟต สลายไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด หน้าเรียวสะใจแบบเร่งด่วน

ฉีดเมโสแฟต คือ

เคยไหมมีปัญหาไขมันส่วนเกินเกาะติดไม่ยอมไปไหน ไม่ว่าจะออกกำลังกาย คุมอาหาร หรือแม้กระทั่งทานยาลดน้ำหนัก แต่เซลลูไลท์เหล่านั้นก็ยังคงอยู่ที่เดิม แต่จะให้ไปดูดไขมันก็กลัวเจ็บ ไหนจะไม่มีเวลาให้พักฟื้นอีก จนเริ่มท้อใจ แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ ที่กังนัมคลินิกของเรายังมีอีกหนึ่งวิธีดีๆที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และไม่ต้องทนต่อความเจ็บปวด แถมยังเห็นผลลดไขมันแบบเฉพาะจุดได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย นั่นคือ การฉีดเมโสแฟต สลายไขมัน นั่นเอง

การฉีดเมโสแฟต ข้อดี ข้อเสีย ในปัจจุบัน_01
การฉีดเมโสแฟต ข้อดี ข้อเสีย ในปัจจุบัน_02

เมโสแฟตคืออะไร ?

เมโสแฟต (Meso Fat) คือ วิธีการช่วยสลายไขมันส่วนเกินตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย ด้วยการฉีดตัวยาเข้าไปในชั้นไขมันเพื่อไปลดและสลายไขมันส่วนเกิน ทำให้เซลล์ไขมันเกิดการแตกตัวเป็นอนุภาคเล็ก ๆ จนทำให้ร่างกายสามารถขับเซลล์ไขมันเหล่านั้นออกจากร่างกายได้ผ่านทางเหงื่อหรือปัสสาวะ เป็นต้น

โดยการฉีดเมโสแฟตนั้นมักถูกใช้ฉีดในหลายตำแหน่ง ซึ่งตำแหน่งที่ยอดนิยมมาก ๆ ได้แก่บริเวณแก้มและเหนียงให้กรอบหน้าเรียวกระชับเล็กลง รวมถึงการฉีดเพื่อลดเซลลูไลท์ตามจุดต่างๆของร่างกาย โดยมีส่วนประกอบของตัวยาหลักดังนี้

ส่วนประกอบของตัวยาในเมโสแฟต

  1. L-carnitine มีหน้าที่ช่วยสลายไขมันตามจุดต่าง ๆ ของร่างกายแล้วเปลี่ยนไขมันมาเป็นพลังงาน
  2. Mesostabyl ทำหน้าที่ยับยั้งการเกิดไขมันใหม่ หรือ คลอเรสตอรอลในชั้นเนื้อเยื่อต่างๆของร่างกาย
  3. Tyrosine ทำหน้าที่ช่วยในการเร่งระบบเผาผลาญ ทำให้ระบบการเผาผลาญของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินต่างๆได้มากขึ้น และ เร็วขึ้น
  4. Artichoke extract มีหน้าที่ลดการสร้างกรดไขมัน และ ช่วยลดไขมันเฉพาะจุดได้ ดังนั้นเมโสแฟตจึงได้รับความนิยมจากสถาบันความงามต่างๆ ในการนำมาฉีดลดไขมันส่วนเกินในจุดที่ต้องการ เช่น การฉีดโสแฟตลดแก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา เป็นต้น

ซึ่งนอกจากตัวยาเหล่านี้แล้ว แพทย์ยังนิยมใช้ในกลุ่มของตัวยา Phosphatidylcholine, Deoxycholate, Dexpanthenol, L-carnitine, Amino acid หรือ Minerals ซึ่งสารเหล่านี้เป็นสารสกัดจากถั่วเหลืองหรือไข่แดงและวิตามินอีกหลายชนิด ซึ่งเป็นสารสกัดที่จากธรรมชาติ จึงทำให้ไม่ส่งผลที่เป็นอันตรายกับร่างกาย มาเพื่อฉีดลดไขมันส่วนเกินแบบเฉพาะจุดอีกด้วย

เมโสแฟต เหมาะกับใครบ้าง ?

  1. เหมาะกับคนที่มีไขมันส่วนเกินสะสมแบบเฉพาะจุด
  2. ไขมันสะสมอยู่ในจุดที่ไม่สามารถกำจัดได้ด้วยการออกกำลังกาย
  3. เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันแบบเร่งด่วนในงบที่ไม่สูงมาก
  4. เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการผ่าตัดหรือดูดไขมัน
  5. เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาพัหฟื้น และ กังวลต่อการเจ็บปวด
การฉีดเมโสแฟต ข้อดี ข้อเสีย ในปัจจุบัน_03
การฉีดเมโสแฟต ข้อดี ข้อเสีย ในปัจจุบัน_04

ข้อดีของการฉีดเมโสแฟต

  1. ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับการดูดไขมัน
  2. ไม่ต้องเจ็บตัวจากการผ่าตัด
  3. สามารถลดไขมันได้อย่างตรงจุด
  4. เห็นผลที่ชัดเจน และ ที่รวดเร็วภายใน 1-3 สัปดาห์หลังฉีด และสามารถคงอยู่ได้นานถึง 3 เดือน
  5. สามารถช่วยลด คอเลสเตอรอล และไขมันในเส้นเลือดได้
  6. ทำให้ได้สัดส่วนที่เล็กลงและกระชับขึ้นจากการฉีดเมโสแฟต
  7. มีความปลอดภัยสูงไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายกับร่างกาย
  8. ใช้เวลาฉีดไม่นาน

ข้อเสียของการฉีดเมโสแฟต

  1. ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนั้น จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดี
  2. ต้องใชัตัวยาแท้ ผ่านการรับรองจาก อ.ย.เท่านั้นเพื่อความปลอดภัย
  3. เนื่องจากเป็นการสลายไขมันที่ได้รับความนิยมมาก จึงมีการลอกเรียนแบบตัวยาและฉีดโดยผู้ที่ขาดความเชี่ยวชาญ ในราคาที่ถูกกว่าคลิกนิก ทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้บริการ
  4. ผู้หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตรไม่สามารถทำได้
  5. ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ได้อยู่ถาวรแต่จะต้องมีการมาฉีดซ้ำเพื่อให้เห็นผลที่ดีที่สุด
  6. อาจมีอาการบวมประมาณ 1-2 วันหลังฉีด

เมโสแฟต มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

  1. เมโสแฟตสำหรับฉีดบริเวณใบหน้าหน้า เหนียง
  2. เมโสแฟตสำหรับฉีดบริเวณลำตัว เช่น ต้นแขน ต้นขา สะโพก เป็นต้น
    การฉีดเมโสแฟตจะต้องเลือกใช้ตัวยาแต่ละประเภทให้เหมาะสมกับบริเวณที่จะฉีด เพราะความหนาของชั้นไขมันในบริเวณมีความแตกต่างกันเพื่อให้เห็นผลชัดเจนที่สุด

บริเวณไหนบ้างที่นิยมฉีดเมโสแฟต

บริเวณที่นิยมฉีดสลายไขมันเฉพาะจุดบนร่างการได้แก่

ตำแหน่งฉีดแฟต ที่ออกฤทธิ์แล้วได้ผล
  1. ฉีดแฟตแก้ม เพื่อให้ใบหน้าเรียวขึ้น และ ดูเล็กลง
  2. ฉีดแฟตเหนียง หรือใต้คาง เพื่อทำให้เห็นกรอบหน้าชัดขึ้น
  3. ฉีดแฟตต้นแขน เพื่อช่วยให้ต้นแขนดูเล็กลงและดูกระชับตึงขึ้นอย่างรวดเร็ว
  4. ฉีดแฟตต้นขา เพื่อปัญหาผิวเปลือกส้ม และ ไขมันมันที่สะสมอยู่บริเวณต้นขา ทำให้ต้นขากระชับ และเล็กลง
  5. บริเวณสะโพก เพื่อลดขนาดสัดส่วนของสะโพกให้ได้สัดส่วนมากขึ้น
  6. ฉีดแฟตบริเวณหน้าท้อง เพื่อสลายไขมันส่วนเกินลดพุง ปรับขนาดรอบเอวให้เล็กลง
การฉีดเมโสแฟต ข้อดี ข้อเสีย ในปัจจุบัน_05

ฉีดเมโสแฟต ที่ไหนดี

  1. เลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน ใช้ยาแท้ และฉีดโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
  2. คลินิกที่มีข้อมูลแพทย์ หรือ ตัวยาที่ให้ให้สามารถตรวจสอบได้
  3. ได้รับความพึงพอใจจากผู้ที่เข้าใช้บริการ
  4. มีการให้บริการที่ดี ใส่ใจลูกค้า
  5. สามารถให้คำแนะนำได้อย่างถูกต้องครบถ้วน โดยไม่เน้นการขายที่เกินความจำเป็นให้แก่ลูกค้า

ทำไมควรฉีดเมโสแฟต ที่กังนัมคลินิก

  1. กังนัมคลินิกเราใช้ยาแท้ ที่ผ่าน อย. ทุกตัวเพื่อความปลอดภัยของลูกค้า
  2. เรามีเทคนิกในการฉีดเมโสแฟตแบบเฉพาะที่ให้ผลลัพธ์ได้ดีกว่า
  3. การฉีดเมโสแฟตที่กังนัมคลินิกทำโดยผู้เชี่ยวชาญทุกเคส
  4. แพทย์จะเป็นผู้ประเมินปริมาณการใช้ยาให้เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้แบบเคสต่อเคส
  5. เรามีสาขามาก ถึง 10 สาขา ที่เลือกเปิดให้บริการในสถานที่ต่างๆที่ลูกค้าสามารถเดินทางมาใช้บริการได้อย่างสะดวกสบาย
  6. ฉีดเมโสแฟตที่กังนัมคลินิก ในราคาที่สามารถจับต้องได้ และได้ผลที่คุ้มค้าเกินราคา
  7. กังนัมคลินิกเราให้บริการแบบจริงใจ ไม่มีการกั๊กตัวยาอย่างแน่นอน
  8. พนักงานจะคอยให้บริการลูกค้าเป็นอย่างดีตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาใช้บริการ
ฉีดเมโสแฟต-มีอาการเจ็บไหม

ฉีดเมโสแฟต เจ็บไหม?

เมโสแฟตจะฉีดบริเวณกรอบหน้า เนื้อใต้คาง ซึ่งเป็นบริเวณผิวหนังที่หนาอยู่แล้ว คนไข้จะรู้สึกเหมือนมดกัดขณะฉีด แต่ไม่มีความเจ็บเลย สามารถทนได้แน่นอนไม่จำเป็นต้องแปะยาชา แต่พยาบาลจะประคบน้ำแข็งเพื่อบรรเทาความเจ็บและทำให้ผิวบริเวณนั้นมีความชาก็จะคลายความรู้สึกลงได้ ใช้เวลาในการฉีดสลายแฟตเพียง 5-10 นาทีเท่านั้น ผลลัพธ์จะค่อยๆชัดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป 1-2 สัปดาห์

ฉีดเมโสแฟต vs โบท็อกลดกราม vs ดูดไขมันหน้า เลือกแบบไหนดี

ทั้ง 3 หัตถการอย่าง เมโสแฟต ฉีดโบท็อกลดกราม การดูดไขมันหน้า หรือแม้แต่การใช้เครื่อง Hifu ต่างก็มีจุดเด่นและหลักการทำงานที่แตกต่างกันออกไปรวมไปถึงตัวราคาค่าใช้จ่าย แต่แน่นอนว่าทั้ง 3 หัตถการสามารถทำร่วมกันได้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจมากยิ่งขึ้น

เมโสแฟตโบท็อกลดกรามดูดไขมันหน้าHifu
หลักการทำงานตัวยาที่ฉีดเข้าไปจะไปทำการสลายไขมันให้เกิดการแตกตัวและค่อยๆ สลายจนถูกขับออกจากร่างกายทางเหงื่อและปัสสาวะ และเมื่อไขมันถูกขับออกไปแล้วจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ร่างกายเริ่มมีขนาดที่เล็กลงเรื่อยๆตัวยาที่ฉีดเข้าไปจะไปส่งผลต่อระบบประสาททำให้กล้ามเนื้อเกิดการหยุดทำงานและค่อยๆ หดตัวลงเรื่อยๆ ทำให้รูปร่างภายนอกดูเรียวเล็กขึ้นเป็นการใช้เครื่องมือดูดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายทีละส่วน โดยหลังทำจะต้องสวมใส่ชุดรัดรูปเพื่อทำให้รูปร่างกระชับเข้าส่วนไฮฟูจะใช้คลื่นลงไปสลายไขมันพร้อมช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้เกิดการเรียงตัวจนนำไปสู่การแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย
ระยะเวลาเห็นผล2-3 เดือน6-12 เดือนถาวร (ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง)6-12 เดือน
การพักฟื้นไม่ต้องพักฟื้นไม่ต้องพักฟื้นปกติจะไม่ต้องพักฟื้น แต่ในบางรายที่มีการดูดไขมันออกเยอะอาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลียได้ไม่ต้องฟักฟื้น
ราคา2,000-10,000 บาท7,000-10,000 บาท30,000-100,000 บาท5,000-15,000 บาท

เมโสแฟต ยี่ห้อไหนดี แตกต่างกันอย่างไร

การเลือกฉีดเมโสแฟต ควรเลือกตัวยาให้เหมาะสมกับบริเวณที่จะฉีดและฉัดในปริมาณที่เหมาะสม โดยผู้เชี่ยวชาญ นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด เมโสแฟตที่แพทย์นำมาใช้กับวงการความงามได้แก่

  1. ยี่ห้อ fnc30 ที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมบริเวณแก้มเยอะ ซึ่งจะช่วยยกกระชับและกำจัดไขมันออกไปอย่างได้ผลที่ชัดเจน ช่วยทำให้ใบหน้าดูเล็กเรียวขึ้น
  2. ยี่ห้อ babi-lone ซึ่งนำเข้ามาจากประเทศเกาหลี มีเลขจดแจ้ง อย. มันใจได้เลยว่ามีความปลอดภัย 100% เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาแก้มห้อย หย่อยคล้อย โดยตัวยาจะช่วยลดไขมันบริเวณแก้ม และ ช่วยยกกระชับให้แก้มดูยกตึงขึ้นอีกด้วย
  3. ยี่ห้อ Mesoestetic ซึ่งเป็นตัวยาที่นำเข้ามาจากสเปน สามารถช่วยในการแก้ไขปัญหาไขมันสะสมบริเวณ เหนียง ต้นแขน ต้นขา สะโพก น่อง ให้เล็กลงด้วยกระบวนการเผาผลาญไขมัน จึงให้สัดส่วนดูเฟิร์มกระชับขึ้นได้

เมโสแฟต ทำให้ไขมันหายไปได้อย่างไร

การฉีดเมโสแฟต ตัวยาจะเข้าไปทำการสลายไขมันส่วนเกินที่จับตัวกันเป็นก้อน ทำให้ไขมันละลาย กลายเป็นของเหลว กำจัดออกด้วยระบบการเผาผลาญของร่างกาย โดยระบบการระบายของเสียต่างๆ เช่น ปัสสาวะ หรือ เหงื่อ เป็นต้น

ฉีดเมโสแฟตกี่วันเห็นผล

หลังฉีดเมโสแฟตไปแล้วจะค่อยๆยุบและเห็นผลภายใน 5-7 วัน และเห็นผลชัดเจนที่สุดใน 1 เดือนหลังฉีด ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 3-4 เดือน แนะนำมาฉีดซ้ำทุกๆ 3 เดือนเพื่อให้ผลลัพธ์คงอยู่ยาวนาน ในคนไข้บางกลุ่มที่มีปัญหากรามใหญ่จากกล้ามเนื้อแพทย์แนะนำให้ฉีดโบท็อกร่วมด้วยจะเห็นผลชัดเจนที่สุด

อ่านบทความเพิ่มเติม ฉีดเมโสแฟต กี่วันเห็นผล ใช้เวลานานหรือไม่?

ฉีดเมโสแฟตไม่เห็นผล เกิดจากอะไร

หากใครฉีดแฟตแล้วไม่เห็นผล อาจมาจากสาเหตุอื่นๆนอกจากไขมันส่วนเกินบนใบหน้า เช่น กระดูกใหญ่ ผิวหนังคล้อย กล้ามเนื้อใหญ่ ซึ่งเหล่านี้หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกจุด ก็อาจรู้สึกว่าฉีดแฟตไปแล้วหน้ายังไม่เรียวและเล็กลง เพราะเมโสแฟตไปกำจัดเฉพาะแค่เซลล์ไขมันนั่นเอง คนที่มีปัญหากล้ามเนื้อใหญ่ ผิวหนังคล้อย จึงทำให้การฉีดแฟตไม่ได้ผล จึงแนะนำให้ฉีดโบท็อกลดกราม หรือใช้เลเซอร์ยกกระชับกลุ่ม ultraformer , ulthera , thermage ร่วมด้วย ทั้งนี้สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่กังนัมคลินิกเพื่อวิเคราะห์ปัญหาในแต่ละท่านเพื่อเลือกวิธีการที่ดีที่สุดที่เหมาะกับท่าน

ฉีดเมโสแฟต หน้าบวมกี่วัน

หลังฉีดเมโสแฟตคนไข้อาจรู้สึกบวมบริเวณที่ฉีด ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดจากตัวยาเมโสแฟตที่ซึมเข้าแตกตัวในผิวหนังชั้นไขมัน หลังจากนั้นจะค่อยๆยุบบวมหายไปเองภายใน 3-4 ชั่วโมง และเข้าที่ใน 1-3 วัน หากครบ 3 วันแล้วมีอาการบวมยังไม่หายหรือลดลง ให้ติดต่อแพทย์ผู้ฉีดเพราะอาจเกิดจากการแพ้สารบางตัวในเมโสแฟตได้

ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟต

  1. นัดหมายเพื่อระบุวัน เวลา ที่ลูกค้าสะดวก กับทางคลินิก
  2. เข้ามาพบคุณหมอตามเวลาที่นัดหมาย เพื่อให้คุณหมอทราบถึงปัญหาของคนไข้ และประเมินปริมาณยาที่ใช้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับปัญหา
  3. เตรียมยาที่จะใช้สำหรับคนไข้ (ปริมาณยาที่ใช้จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันและบริเวณที่ต้องการกำจัดไขมัน)
  4. คุณหมอฉีดเมโสแฟตในบริเวณที่กำหนด ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีเท่านั้น เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ
  5. สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ปกติโดยไม่ต้องพักฟื้นใดๆ

การเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสแฟต เพื่อสลายไขมัน

  1. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  2. งดการทานยากลุ่มแอสไพริน และ วิตมิน ทีมีผลกับเลือดเช่น น้ำมันปลา พิมโรส แปะก๊วย เป็นเวลาอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
  3. ไม่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
  4. หากมีอาการแพ้ หรือ โรคประจำตัว ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
คำแนะนำหลังทำ meso fat

การปฏิบัติหลังฉีดเมโสแฟต

  1. สามารถล้างหน้าและแต่งหน้าได้ตามปกติ
  2. หากเกิดรอยแดง รอยช้ำจากเข็มในบริเวณที่ฉีดให้ประคบเย็นก่อนใน 48 ชั่วโมง
  3. ดื่มน้ำสะอาดในปริมาณมากๆ เพื่อช่วยในการขับไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายได้ไวขึ้น
  4. ออกกำลังกายเบาๆ เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้นในกรณีที่ฉีดเมโสแฟต บริวาณต้นแขน ต้นขา สะโพก น่อง และหน้าท้อง
  5. หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น อบซาวน่าและการทำทรีทเม้นท์ต่างๆ รวมไปถึง งดการนวดตัว 1 สัปดาห์ หลังการฉีดเมโสแฟต เพื่อลดการฟกช้ำ
  6. งดการดื่มแอลกอฮอล์ และ การสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลง และเสื่อมไวขึ้น

ฉีดเมโสแฟต ราคา เท่าไหร่?

ฉีดเมโสแฟตราคาเท่าไหร่

ในส่วนของราคาค่าฉีดนั้นจะมีความแตกต่างกันไปแล้วแต่ยี่ห้อและปริมาณตัวยาที่ใช้ซึ่งโดยปกติแล้วเมโสแฟต 1 ขวดจะมีปริมาณอยู่ที่ 10CC ราคาประมาณ 1,500-2,500 บาท นอกจากนั้นตัวราคายังแตกต่างกันไปตามแต่ละจุดที่ฉีด เช่น หากฉีดแฟตลดแก้ม ลดเหนียง จะใช้ตัวยาเพียงแค่ 10CC ก็สามารถเห็นผลได้ ต่างจากการฉีดแฟตที่ร่างกายเช่น แขนและขา หรือรอบเอวที่มีไขมันเป็นจำนวนมาก จึงต้องใช้ปริมาณของตัวยาที่มากกว่า 10CC ถึงเห็นผล

โปรโมชั่นฉีดเมโสแฟตที่กังนัมคลินิก

สำหรับราคาโปรโมชั่นที่กังนัมคลินิกนั้น ก่อนอื่นๆ ต้องบอกว่าเราได้มียี่ห้อเมโสแฟตให้ได้เลือกกันหลากหลายยี่ห้อตามความต้องการโดยมีราคา ดังนี้

  • SISI สูตร Face (Korea) 1 ขวด 2,990 บาท / 2 ขวด 4,990 บาท / 5 ขวด 9,990 บาท / 10 ขวด 18,000 บาท
  • SISI สูตร Body (Korea) 1 ขวด 4,990 บาท / 2 ขวด 8,990 บาท / 5 ขวด 20,000 บาท / 10 ขวด 35,000 บาท
  • Meso Fat (Spain) 1 เข็ม 1,500 บาท / 5 เข็ม 6,500 บาท / 10 เข็ม 10,000 บาท

รีวิว Before / After หลังฉีดเมโสแฟต

รีวิวหลังฉีดเมโสแฟต Before After
รีวิว Before After หลังฉีดแฟต

การฉีดเมโสแฟตนั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการสลายไขมันเฉพาะจุดโดยเฉพาะในจุดที่ใช้การออกกำลังกายลดยาก ซึ่งวิธีนี้จะใช้การฉีดตัวยาเข้าไปสลายไขมันและทำให้เซลล์ไขมันถูกขับออกจากร่างกายผ่านทางเหงื่อหรือปัสสาวะ จึงทำให้สัดส่วนในบริเวณดังกล่าวมีขนาดที่เรียวเล็กขึ้น แต่ทว่าวิธีนี้จะเหมาะแค่กับคนที่มีไขมันเยอะเท่านั้น ดังนั้นก่อนตัดสินใจทำควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่าปัญหาของเราเหมาะกับการฉีดเมโสแฟตหรือไม่

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง