ฉีดเมโสแฟตต้นแขน แก้ปัญหาแขนใหญ่ แขนย้วย ได้จริงไหม?
สาว ๆ หลาย ๆ คนมักเจอปัญหาแขนใหญ่และต้นแขนย้อยที่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการแต่งตัว โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่เปิดเผยบริเวณต้นแขน เช่น เสื้อแขนกุด ชุดเกาะอก ชุดว่ายน้ำ เป็นต้น เพื่อให้สาว ๆ ได้สนุกกับการแต่งตัวมากขึ้น เกิดความมั่นใจในสัดส่วน การฉีดเมโสแฟตที่ต้นแขนจึงช่วยลดไขมันลดต้นแขนที่ได้ผลจริง แขนเรียวเล็กสวยทันใจ หมดกังวลกับปัญหาแขนใหญ่อีกต่อไป
ฉีดเมโสแฟตต้นแขน คืออะไร?
การฉีดเมโสแฟตต้นแขน คือ การฉีดตัวยาเข้าไปสลายไขมันส่วนเกินบริเวณต้นแขนลักษณะเดียวกับการฉีดเมโสแฟตแก้ม โดยตัวยาที่ใช้ฉีด จะมี Artichoke extract (Cynara scolymus) เป็นสารที่ออกฤทธิ์หลัก ทำหน้าที่กระตุ้นการสังเคราะห์ coenzyme ในกระบวนการ anabolism ช่วยลดเนื้อเยื่อไขมัน ลดการสังเคราะห์กรดไขมัน โดยการฉีดเมโสแฟตต้นแขนหมอจะฉีดลงไปในชั้นผิวลึกประมาณ 5 – 10 มิลลิเมตร การฉีดแต่ละจุดห่างกันอย่างน้อยประมาณ 2 เซนติเมตร ทำให้ไขมันส่วนเกินเเตกตัว หรือ สลายตัว ถูกขับออกจากร่างกายทางระบบขับถ่าย ทางเหงื่อ ทางปัสสาวะและอุจจาระ
บทความแนะนำ
ฉีดเมโสแฟตต้นแขนช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
การฉีดแฟตต้นแขน คือช่วยสลายไขมันส่วนเกินที่ต้นแขนให้ลดน้อยลง เพื่อแก้ปัญหาแขนใหญ่ แขนย้วย ให้ต้นแขนกระชับและมีขนาดเล็กลง อีกทั้งการฉีดเมโสแฟตต้นแขนสามารถช่วยลดเซลลูไลท์ได้บางส่วน โดยเฉพาะคนที่มีไขมันสะสมมากๆ ควรต้องฉีดเมโสแฟตอย่างน้อย 4-5 ครั้ง จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
ฉีดแฟตต้นแขน ลดได้จริงไหม?
การฉีดแฟตต้นแขน เป็นวิธีลดต้นแขนด้วยสลายไขมันสะสม มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เห็นผลเร็ว สำหรับผลลัพธ์หลังฉีดเมโสแฟตต้นแขนจะเห็นผลประมาณ 10 – 15% ในครั้งแรกที่ทำ และเห็นว่าแขนเล็กชัดเจนขึ้นในสัปดาห์ที่ 2 – 3 หลังทำ ซึ่งผลลัพธ์จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการตอบสนองของร่างกายแต่ละคน
ฉีดแฟตต้นแขน ข้อดี-ข้อเสีย
ข้อดี
- เห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 2-3 สัปดาห์หลังฉีด และสามารถคงอยู่ได้นานถึง 3 เดือน
- ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับการดูดไขมัน
- ไม่เจ็บตัวและไม่ต้องพักฟื้น
- ใช้เวลาฉีดไม่นาน
- สามารถลดไขมันเฉพาะส่วนได้ตามที่ต้องการ
- มีความปลอดภัยสูงไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายกับร่างกาย
ข้อเสีย
- อาจมีอาการบวมประมาณ 1 – 2 วันหลังฉีด
- ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดี
- ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ได้อยู่ถาวรแต่จะต้องมีการมาฉีดซ้ำเพื่อให้เห็นผลที่ดีที่สุด
- มีโอกาสแพ้สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ง่าย
- หากตรวจสอบคลินิกที่ฉีดไม่ดี ชั้นไขมันในร่างกายอาจเกิดการอักเสบหลังฉีดได้
แฟตต้นแขน ต้องฉีดกี่ซีซี?
การฉีดแฟตต้นแขนต้องฉีดข้างละประมาณ 10 – 20 ซีซี ขึ้นอยู่กับปริมาณและชั้นไขมัน โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินให้ตามความเหมาะสมก่อนทำการฉีด
ฉีดแฟตต้นแขน กี่วันเห็นผล ต้องฉีดกี่ครั้ง?
ในครั้งแรกหลังจากฉีดแฟตต้นแขน ไขมันจะลดลงได้ประมาณ 10 – 15% หลังจากนั้น 2 – 3 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลลัพธ์อย่างเต็มที่ หากคนไข้ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และอยู่ได้นานขึ้น ควรกลับมาฉีดซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์ที่ประเมินของแต่ละบุคคล ซึ่งจะประมาณ 4 – 5 ครั้ง แล้วแต่บุคคล
ฉีดแฟตต้นแขน อยู่ได้กี่เดือน?
การฉีดเมโสแฟตลดแขนจะอยู่ได้นานประมาณ 2 – 3 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันสะสมของแต่ละบุคคล ยี่ห้อของเมโสแฟตและปริมาณที่ใช้ และการดูแลตัวเองหลังฉีดของแต่ละบุคคล ซึ่งหากคนไข้ต้องการคงผลลัพธ์ให้ยาวนานขึ้นสามารถมาฉีดเติมได้
ฉีดแฟตต้นแขน ยี่ห้อไหนดี
การเลือกฉีดแฟตต้นแขน ควรเลือกตัวยาเมโสแฟตให้เหมาะสมกับบริเวณที่จะฉีดและฉีดในปริมาณที่เหมาะสม เมโสแฟตมีหลากหลายยี่ห้อ โดยคุณสมบัติของแต่ละยี่ห้อจะมีความแตกต่างกัน ผู้ที่ต้องการฉีดแฟตต้นแขนควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อรับการประเมินให้เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด โดยยี่ห้อที่นิยมนำมาฉีดลดต้นแขนและสลายไขมันตามสัดส่วนตามร่างกายได้แก่ยี่อห้อ
- Noble
ยี่ห้อนี้จะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ที่ช่วยในเรื่องของการเร่งการเผาพลาญไขมันได้เป็นอย่างดีและยังมีส่วนช่วยในการยกกระชับผิวได้อีกด้วย - VNS
ตัวนี้จะเป็นเมโสแฟตแบบพรีเมี่ยมที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในเกาหลี โดยที่มีจุดเด่นคือฉีดแล้วจะไม่แสบ ไม่เป็นก้อน สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ถึง 45% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ - Phytobella
ตัวนี้จะเป็นยี่ห้อจากประเทศเกาหลี โดยมีจุดเด่นที่มีตัวยาแบบเข้มข้น และเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ โดยทั้งยี่ห้อนี้ได้ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากทั้งอย.ไทยและอย.เกาหลีเรียบร้อยแล้ว - BABI Neo One
เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อจากประเทศเกาหลี โดยจะโดดเด่นมาก ๆ กับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย เพราะนอกจากจะช่วยสลายไขมันได้ดีแล้วยังช่วยยกกระชับผิวได้ดีอีกด้วย
ฉีดแฟตต้นแขน ราคาเท่าไหร่?
โดยทั่วไปการฉีดแฟตต้นแขน ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ครั้งละประมาณ 2,500 บาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของเมโสแฟตที่ใช้ สูตรที่ใช้ ปริมาณในการฉีด (1 ขวดมีตัวยา 10 CC) และจำนวนครั้งที่ฉีด หมอจะเป็นผู้ประเมินปริมาณตัวยาที่แนะนำให้ฉีดในแต่ละครั้ง ตามความเหมาะสมของแต่ละราย
ฉีดแฟตต้นแขน บวมกี่วัน?
อาการบวมหลังฉีดแฟตต้นแขน เกิดจากปริมาณยาที่ฉีดเข้าไป หากไม่เคยฉีดแฟตต้นแขนมาก่อนก็อาจมีอาการบวมประมาณ 1 – 2 วันหลังฉีด ซึ่งตัวยาจะยุบซึมลงไปเอง ไม่ปวด ไม่อักเสบ ไม่ต้องกังวลไปนะคะ
ฉีดแฟตต้นแขน ผลข้างเคียงอะไรบ้าง
การฉีดแฟตต้นแขนในบางราย หลังฉีดอาจมีอาการบวม ช้ำ หรือรู้สึกเจ็บปวดบริเวณต้นแขนเล็กน้อยหากออกแรงกดบริเวณที่ฉีด ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปริมาณไขมันของแต่ละบุคคล แต่อาการเหล่านี้จะหายไปได้เอง ใน 1 – 3 วัน
ฉีดแฟตต้นแขน อันตรายไหม?
โดยปกติการฉีดแฟตต้นแขนโดยเมโสแฟตนั้น ถือว่าเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูง เพราะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ สลายออกจากร่างกายได้ดี ดังนั้นการฉีดแฟตต้นแขนจึงไม่อันตราย หากฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และคลินิกที่ได้มาตรฐาน กังนัมคลีนิกที่มีแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญคอยให้การดูแล และประเมินความเหมาะสมให้กับผู้รับบริการทุกเคส
ฉีดแฟตต้นแขนพร้อมกับโบท็อกแขน ได้หรือไม่?
สำหรับคนไข้ที่มีปัญหาต้นแขนใหญ่ และอยากลดขนาดต้นแขน ก่อนทำการรักษาหมอจะต้องตรวจประเมินดูว่าจุดที่คนไข้ต้องการลดเป็นกล้ามเนื้อหรือไขมัน ซึ่งสามารถทำได้ทั้งวิธีการฉีดโบท็อกซ์ลดต้นแขนและฉีดเมโสแฟตลดต้นแขน
- ฉีดโบท็อกซ์ลดต้นแขน คือ การใช้สาร Botulinum toxin ที่มีคุณสมบัติทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว จึงช่วยลดขนาดของกล้ามเนื้อให้เล็กลงได้ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาแขนใหญ่จากการใช้กล้ามเนื้อบริเวณแขนบ่อย ๆ มีกล้ามเนื้อแขนเยอะ สามารถแก้ไขให้เรียวขึ้นด้วยการฉีดโบท็อกซ์ ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อ จะเริ่มเห็นผล 7 – 14 วันหลังฉีด อยู่ได้นานประมาณ 6 – 12 เดือน
- ฉีดแฟตต้นแขน เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาแขนใหญ่จากไขมันส่วนเกินสะสม สามารถดูได้จากการยกแขนขึ้นมาทำมุม 90 องศา ถ้าจับดูแล้วรู้สึกนิ่ม ๆ ท้องแขนมีความหย่อนคล้อย หรือในบางคนจับต้นแขนแล้วนิ่มเลยโดยที่ไม่ต้องยกแขนทำมุม การฉีดแฟตช่วยลดไขมัน จะเริ่มเห็นผล 7 วันหลังฉีด อยู่ได้นานประมาณ 3 เดือน
ขั้นตอนการฉีดแฟตต้นแขน
- นัดหมายกับทางคลินิกเพื่อระบุวัน เวลา ที่ลูกค้าสะดวก
- ปรึกษากับคุณหมอเพื่อตกลงการรักษา ประเมินปริมาณยาที่ใช้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับปัญหา
- ฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์ บางคลินิกอาจจะประคบเย็นเพื่อช่วยให้เจ็บน้อยลง
- เตรียมยาที่จะใช้สำหรับฉีดคนไข้ (ปริมาณยาที่ใช้จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันและบริเวณที่ต้องการกำจัดไขมัน)
- คุณหมอฉีดเมโสแฟตบริเวณต้นแขน ใช้เวลาประมาณ 10 – 15 นาที
- สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ปกติโดยไม่ต้องพักฟื้นใด ๆ
ใครไม่ควรฉีดแฟตต้นแขน
- ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี
- สตรีมีครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
- ผู้ที่ป่วยโรคเบาหวานที่ต้องฉีดอินซูลินอยู่เป็นประจำ
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด เช่น เส้นเลือดในสมองตีบ เส้นเลือดในสมองอุดตัน มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน มีประวัติเลือดหยุดยาก หรือต้องใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ที่มีประวัติภาวะความดันโลหิตต่ำ
- ผู้ที่มีประวัติโรคหัวใจ
- ผู้ป่วยโรคมะเร็งหรือโรคที่จำเป็นต้องใช้ยารักษาจำนวนมาก
- ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
วิธีเช็คและดูเมโสแฟตต้นแขนของแท้และปลอม
- สแกน QR CODE ที่ข้างกล่องเพื่อเช็คดูรายละเอียด
- ดู วัน เดือน ปี ที่ผลิต
- แต่ในความเป็นจริงอาจจะดูได้ยาก เราไม่สามารถดูออกได้เลยว่าเมโสแฟตต้นแขนที่มีขายโดยทั่วไปนั้นเป็นของแท้หรือไม่ แนะนำว่าถ้าต้องการฉีดแฟตต้นแขนควรฉีดกับคลีนิคที่ได้มาตรฐาน ปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อเพิ่มมั่นใจได้ว่า เมโสแฟตต้นแขนที่เราฉีดนั้น เป็นของแท้ ที่มีคุณภาพแน่นอน
ข้อห้ามหลังฉีดแฟตต้นแขน
- ห้ามไปซาวน่าและสครับผิว เพราะ ความร้อนจากซาวน่าและสครับจะทำให้เกิดอาการบวมและช้ำได้มากขึ้น
- ห้ามนวดหรือกดบริเวณที่ฉีด เพื่อลดการฟกช้ำ
- ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1 สัปดาห์
- ห้ามสูบบุหรี่ 1 สัปดาห์
- ห้ามออกกำลังกายอย่างหนักเป็นเวลา 48 ชั่วโมงหลังฉีด
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดแฟตต้นแขน ที่ไหนดี?
- เลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน มีการแจ้งเลขที่ใบอนุญาตที่ชัดเจน
- เลือกคลินิกที่มีข้อมูลแพทย์ หรือ ตัวยาที่ให้ให้สามารถตรวจสอบได้
- ได้รับความพึงพอใจจากผู้ที่เข้าใช้บริการ
- มีการให้บริการที่ดี ใส่ใจลูกค้า
- มีรีวิวการฉีดจากผู้เข้ารับการรักษาจริง จากแหล่งเวปไซด์ที่น่าเชื่อถือ
- สามารถให้คำแนะนำได้อย่างถูกต้องครบถ้วน โดยไม่เน้นการขายที่เกินความจำเป็นให้แก่ลูกค้า
สรุป
การฉีดเมโสแฟตต้นแขน เป็นการลดไขมันส่วนเกิน ที่ทำให้แขนเล็กลงได้ สามารถแก้ปัญหาต้นแขนใหญ่ได้อย่างตรงจุด เป็นวิธีที่สะดวกและมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากตัวยาที่ใช้เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ สลายออกจากร่างกายได้ดี แต่ทั้งนี้หลังฉีดแฟตต้นแขนแล้ว เรายังต้องดูแลตัวเอง โดยเฉพาะในเรื่องของอาหารและการออกกำลังกายควบคู่ด้วย เพื่อไม่ให้เกิดไขมันสะสมขึ้นมาอีก วิธีนี้จึงเป็นวิธีที่ทำให้เราสามารถกำจัดไขมันส่วนเกินออกได้โดยไม่ต้องผ่าตัดดูดไขมันเลย