Q-switch Laser คืออะไร? ช่วยรักษาเรื่องอะไรบ้าง ต่างกับเครื่องอื่นๆ อย่างไร?

เครื่อง Q switch laser

หากจะให้พูดถึงอีกหนึ่งวิธีในการช่วยกู้หน้าใส ลดรอยดำ รอยสิวได้ดีนั้นก็คือ Q-switch Laser ซึ่งถือเป็นเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมากในปัจจุบัน แต่ทว่าหลายๆ คนก็คงสงสัยว่า Q-switch Laser นั้นทำแล้วดีไหม ดังนั้นในบทความนี้หมอจะมาอธิบายให้เข้าใจกัน

เลเซอร์ Q-switch คืออะไร

คือเครื่องเลเซอร์ประเภทหนึ่งที่มีจุดเด่นในเรื่องของการช่วยลบรอยดำ ฝ้า กระ พร้อมปรับสภาพผิวให้มีความกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น ด้วยตัวเครื่องเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นถึง 2 ช่วงความยาวอย่าง 532 nm และ 1,064 nm จึงทำให้สามารถยิงส่งพลังงานลงไปลึกถึงผิวชั้นในด้วยความเร็วระดับหนึ่งพันล้านวินาที จึงทำให้เครื่อง Q-switch Laser มีอีกหนึ่งชื่อเรียกว่า “เครื่องเลเซอร์หน้าใส” นั่นเอง

Q-switch Laser ช่วยเรื่องอะไร

เครื่อง Q-switch Laser นั้นสามารถช่วยรักษาปัญหาผิวได้อย่างหลากหลายจนเกือบจะครอบคลุมทุกปัญหาผิวไม่ว่าจะเป็น

  • ช่วยลบรอยดำ ทั้งรอยสิว รอยแผลเป็น รอยฝ้า กระต่างๆ
  • ช่วยปรับสีผิวให้มีความกระจ่างใส และมีสีผิวที่สม่ำเสมอกันทั้งใบหน้า
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินในชั้นผิวให้เพิ่มขึ้น
  • ช่วยปรับกระชับรูขุมขนให้กระชับขึ้น ทำให้ผิวมีความเรียบเนียนขึ้นเล็กน้อย
  • ช่วยลดริ้วรอยร่องตื้นและชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้ดี
  • ช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไป
  • ช่วยปรับสภาพผิวให้มีความเรียบเนียนขึ้นเล็กน้อย
  • ช่วยลบรอยสัก หรือปานดำต่างๆ
  • ช่วยแก้ปัญหาเรื่องสีปากที่ดำคล้ำได้ดี
Q-switch Laser ช่วยเรื่องอะไร

Q-switch Laser เหมาะกับใครบ้างและไม่เหมาะกับใคร

ผู้ที่เหมาะกับ Q-switch Laser

  • ผู้ที่มีปัญหารอยสิว รอยดำ หรือปานตามจุดต่างๆ ของร่างกาย
  • ผู้ที่มีปัญหาฝ้า กระทั้งแบบ กระตื้นหรือกระลึก
  • ผู้ที่มีต้องการลบรอยสัก
  • ผู้ที่มีปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอกันหรือมีปัญหาผิวทูโทน

ผู้ที่ไม่เหมาะกับ Q-switch Laser

  • ผู้ที่มีบาดแผล แผลสด ผื่น รอยแดงต่างๆ ควรทำการรักษาให้หายดีก่อนค่อยทำเลเซอร์
  • ผู้ที่มีปัญหาสิวไม่ว่าจะเป็นสิวอักเสบ สิวอุดตัน ควรงดการทำเลเซอร์เพราะอาจทำให้สิวอักเสบได้มากกว่าเดิม
  • ผู้ที่มีเคยใช้สารลอกผิว กรอผิวมาน้อยกว่า 1 เดือน
  • สตรีที่กำลังอยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคลมชัก
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวไหม้แดด ผิวลอก ควรรักษาอาการดังกล่าวให้หายดีเสียก่อน

Q-switch Laser สามารถทำส่วนไหนได้บ้าง

Q-switch Laser สามารถทำส่วนไหนได้บ้าง

การยิงเลเซอร์ Q-switch เพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวนั้นสามารถทำได้ทุกส่วนในร่างกายทั้งบริเวณใบหน้าและลำตัว แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นที่นิยมในการยิงแก้ปัญหาผิวที่ใบหน้าเช่น พวกรอยดำ ฝ้ากระต่างๆ มากกว่า

Q-switch Laser ราคาค่าทำแต่ละครั้งเท่าไหร่

ในส่วนของราคาค่าทำ Q-switch เลเซอร์แต่ละครั้งนั้นจะมีเรทราคาอยู่ที่ประมาณ 900-2,000 บาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิกที่เข้ารับบริการ

Q-switch Laser ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล

จำนวนครั้งในการทำ Q-switch เลเซอร์ให้เห็นผลลัพธ์จะอยู่ที่ประมาณ 3-10 ครั้งขึ้นอยู่กับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละคน ซึ่งสามารถเข้าปรึกษากับหมอประจำของแต่ละคลินิกเพื่อทำการประเมินก่อนได้ว่าปัญหาที่ตัวเองมีอยู่นั้นจะต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล

ทำ Q-switch Laser แต่ละครั้งควรเว้นระยะเวลานานกี่วัน

ในส่วนของระยะเวลาในการพักฟื้นหลังทำเลเซอร์ Q-switch ในแต่ละครั้งนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 3-4 สัปดาห์ แต่ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนอีกด้วย เนื่องจากหากมีสภาพผิวที่บอบบางและระคายเคืองง่าย หมอจะแนะนำให้พักหน้าเป็นเวลา 4-5 สัปดาห์แล้วค่อยกลับมาเลเซอร์อีกครั้ง

Q-switch Laser มีผลข้างเคียงหลังทำไหม

หลังจากที่ทำ Q-switch เลเซอร์ไปในบางรายอาจมีสิว มีรอยแดง หรืออาการผิวบวมขึ้นเล็กน้อย แต่เป็นอาการที่ปกติไม่ได้ร้ายแรงอะไร ซึ่งจะสามารถหายไปได้เองภายใน 3-5 วัน แต่หากหลังจากทำไปแล้ว 1-2 วันแต่ยังมีอาการแสบช้าผิว หรือเกิดปัญหาผิวเบิร์นไหม้ให้รีบเข้าพบหมอทันที เนื่องจากอาจเกิดขึ้นจากผู้ที่ทำการยิงเลเซอร์ไม่มีความชำนาญมากพอ ซึ่งอาจมีการปรับค่าพลังงานที่สูงเกินไปจนทำให้ผิวเบิร์นไหม้ได้

หลังทำ Q-switch Laser มีข้อห้ามอะไรบ้าง

อีกหนึ่งอย่างที่หลายๆ คนอาจจะมองข้ามไปนั้นก็คือในส่วนของข้อห้ามหลังทำ Q-switch เลเซอร์เนื่องจากอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคืองจนนำไปสู่ปัญหาผิวที่ใหญ่และมากกว่าเดิม เช่น

  • การออกแดดหรือเปล่าให้ผิวเผชิญกับแสงแดดจัดๆ ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกายกลางแจ้ง การอาบแดด หรือการออกแดดโดยไม่ได้ทาครีมกันแดด เนื่องจากสภาพผิวหลังทำเลเซอร์ Q-switch นั้นจะมีความบอบบางสูงจึงเสี่ยงต่อการเกิดฝ้า กระแดดได้ง่ายกว่าปกติมากๆ
  • การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ วิตามินเอ วิตามินซี หรือสารช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวอย่าง AHA, BHA เนื่องจากกลุ่มสารเหล่านี้อาจจะไปทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวได้ง่าย เช่น เกิดปัญหาผิวลอก ผิวแห้งตึงขึ้นได้ดังนั้นจึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยนจึงจะดีที่สุด
  • การไม่ใช้มอยเจอไรเซอร์บำรุงผิว ซึ่งจะทำให้สภาพผิวหลังทำเลเซอร์ที่มีความบอบบางเกิดการแห้งตึงได้ง่ายกว่าเดิม ซึ่งการบำรุงผิวด้วยมอยเจอไรเซอร์เป็นประจำเช้า-เย็นนั้นนอกจากจะช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นแล้ว ยังช่วยปรับโครงสร้างผิวให้มีความยืดหยุ่นและแข็งแรงขึ้นได้อีกด้วย

ข้อดี-ข้อเสียของ Q-switch Laser

ข้อดีของ Q-switch Laser

  • ช่วยแก้ปัญหาผิวต่างๆ ทั้งรอยดำ ฝ้า กระได้ดี
  • ตอนทำจะไม่ให้ความรู้สึกเจ็บมากนัก อาจมีอาการจี๊ดผิวเหมือนโดนมดกัดในบางตำแหน่งเท่านั้น
  • มีผลข้างเคียงที่น้อย เมื่อเทียบกับเครื่องเลเซอร์แบบอื่นๆ อย่าง Pico Laser
  • หลังทำไม่ต้องพักฟื้น โดยสามารถแต่งหน้าและใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  • มีราคาค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างไม่ถูกและไม่แพงจนเกินไป

ข้อเสียของ Q-switch Laser

  • ต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะเห็นผล ซึ่งจะต้องกลับไปยิงเลเซอร์ซ้ำอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของหมอ
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์แบบเร่งด่วน
  • หลังทำหากมีการดูแลผิวได้ไม่ดีพออาจทำให้เกิดปัญหาผิวได้ง่าย เช่น เกิด ฝ้า กระ รอยด่างที่ผิว

นอกจาก Q-switch Laser แล้วยังมีเครื่องเลเซอร์เครื่องไหนอีกบ้าง?

ซึ่งนอกจากเครื่อง Q-switch Laser แล้วในปัจจุบันก็ได้มีเครื่องเลเซอร์อีกหลายเครื่องที่สามารถช่วยแก้ปัญหาผิวได้เหมือนกัน ดังนี้

  • IPL (Intense Pulsed Light)
    อีกหนึ่งเครื่องที่จะมีช่วงคลื่นพลังงานที่กว้างและมีความยาวหลายช่วงคลื่นตั้งแต่ 500 – 1,200 นาโนเมตร ทำให้ระหว่างทำจะรู้สึกเจ็บได้น้อยกว่า ทั้งยังช่วยปรับผิวให้มีความกระจ่างใส ลดรอยดำ รอยแดง กำจัดขนได้ดีและมีราคาที่ถูกกว่า แต่ก็แน่นอนว่าจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ช้ากว่ามากๆ เช่นกัน
  • Pico Laser หรือ Picosecond Laser
    ถือเป็นอีกเครื่องเลเซอร์ที่กำลังมาแรงอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งเป็นเครื่องเลเซอร์ที่มีหน่วยค่าพลังงานเป็น Picosecond ที่มีความเร็วในการยิงส่งพลังงานถึงล้านล้านวินาที ทำให้ช่วยแก้ปัญหาผิวไม่ว่าจะเป็นรอยดำ รอยแดง หลุมสิว รอยสัก ฝ้า กระต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว แต่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ แต่ก็มีข้อเสียคือราคาที่สูงและผลข้างเคียงหลังทำที่ค่อนข้างรุนแรงและต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นผิวหน้า
  • VBeam Laser
    เป็นอีกหนึ่งเลเซอร์ช่วยปรับหน้าใสที่จะมีคลื่นความยาวอยู่ที่ 595 นาโนเมตร โดยมีจุดเด่นในเรื่องของการช่วยเรื่องรอยแดง รอยสิว หรือความผิดปกติเกี่ยวกับเส้นเลือดซึ่งจะต่างกับ Q-switch Laser ที่เด่นในเรื่องรอยดำ แต่ก็ถือเป็นอีกเครื่องเลเซอร์ที่คนนิยมทำควบคู่กันกับ Q-switch Laser
  • Dual Yellow Laser
    เครื่องเลเซอร์แสงสีเหลืองและแสงสีเขียวที่มีความยาวคลื่นอยู่ที่ 511 นาโนเมตร และ 578 นาโนเมตร ที่มีจุดเด่นในเรื่องของการช่วยรักษาสิว รักษาฝ้า กระ จุดด่างดำต่างๆ รวมถึงสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวให้เพิ่มขึ้นได้

4 ข้อควรรู้ก่อนทำ Q-switch Laser

หลักการทำงานของ Q-switch Laser

หลังจากที่ยิงส่งพลังงานแสงเลเซอร์เข้าไปในชั้นผิวแล้ว ตัวเลเซอร์จะเข้าไปทำให้เม็ดสีเมลานินในชั้นผิวของเราให้เกิดการแตกตัวเป็นอนุภาคที่เล็กลงจนทำให้ร่างกายสามารถขับออกไปได้ รวมไปถึงยังไปช่วยกระตุ้นทำให้ร่างกายของเราสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินที่เพิ่มมากขึ้น จนทำให้ชั้นผิวคอลาเจนมีการเรียงตัวอย่างเป็นระเบียนซึ่งส่งผลทำให้ปัญหาริ้วรอยต่างๆ จางหายไป ทำให้หลุมสิวค่อยๆ ตื้นขึ้นจนทำให้ผิวมีความเรียบเนียนสม่ำเสมอกัน

การเตรียมตัวก่อนทำ

ขั้นตอนการเตรียมและดูแลผิวก่อนทำ Q-switch Laser นั้นไม่ได้มีความยุ่งยากอะไรมากมาย เพียงแค่อาจจะต้องเลี่ยงการให้ผิวถูกกับแสงแดดและความร้อน รวมไปถึงงดใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของเรตินอล วิตามินซี AHA BHA ก่อนทำอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อช่วยลดโอกาสการระคายเคืองผิวหลังทำได้

ขั้นตอนการทำ

  • เริ่มจากการทำความสะอาดผิว ในจุดที่จะทำการยิงเลเซอร์
  • ในกรณีที่หมอพิจารณาว่าจะต้องปรับค่าพลังงานเลเซอร์ให้สูงขึ้นนั้นอาจจะต้องมีการทายาชาร่วมด้วยเพื่อลดความรู้สึกเจ็บในระหว่างยิงเลเซอร์
  • เริ่มทำการยิงเลเซอร์ในทีละจุดจนครบ
  • ทาครีมบำรุงหรือยาแก้อักเสบผิว หรือบางรายอาจจะทาครีมกันแดดให้เป็นอันเสร็จ

เลือกทำที่ไหนดี

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการทำ Q-switch Laser นั้นก็คือการเลือกคลินิกให้ดี เพื่อทั้งความปลอดภัยและการเห็นผลลัพธ์ที่คุ้มค่า คุ้มราคา โดยควรพิจารณาดังนี้

  • คลินิกมีหน้าร้าน ตำแหน่งพิกัดของสาขาที่ชัดเจน
  • คลินิกต้องเปิดให้บริการแบบถูกกฎหมาย มีใบอนุญาตการเปิดคลินิกจากกระทรวงสาธารณสุข
  • คลินิกต้องใช้เครื่องเลเซอร์ของแท้ และต้องเป็นเครื่องที่นำเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย โดยมีอย. ไทยให้การรับรองความปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
  • คลินิกต้องมีการระบุราคาค่าใช้จ่ายที่ชัดเจนเพื่อให้ลูกค้าได้ตัดสินใจก่อนทำ
  • คลินิกจะต้องให้หมอเป็นผู้ทำการยิงเลเซอร์ให้ เพื่อความปลอดภัยของตัวลูกค้า และควรเป็นหมอที่มีความเชี่ยวชาญมีใบประกอบวิชาชีพที่ออกโดยแพทย์สภา

สรุป Q-switch Laser ดีจริงไหม?

การทำ Q-switch Laser นั้นถือเป็นอีกหนึ่งวิธีในการช่วยรักษาปัญหารอยดำ ฝ้า กระ รวมไปถึงช่วยลบรอยสักได้ดีซึ่งเป็นเลเซอร์ที่จะต้องใช้ระยะเวลาและจำนวนครั้งในการทำ 3-10 ครั้งขึ้นไปจึงจะทำให้เห็นผลลัพธ์ในการรักษาที่ชัดเจน แต่ก็มีข้อดีคือมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสามารถเอื้อมถึงได้ หลังทำไม่ได้มีผลข้างเคียงที่รุนแรงเท่ากับ Pico Laser แต่สำหรับใครที่มีปัญหาที่ค่อนข้างมากและพอจะมีงบประมาณหมอแนะนำว่าให้ข้ามไปทำ Pico Laser จะดีกว่า เพราะถึงแม้จะมีราคาที่สูงกว่า มีผลข้างเคียงหลังทำที่รุนแรงกว่า แต่ก็สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ไวกว่ามากๆ อีกด้วย

สำหรับใครที่กำลังสนใจอยากจะทำ Q-switch Laser แล้วอยากสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมหรืออยากให้หมอช่วยประเมินว่าเราเหมาะกับการทำ Q-switch Laser ไหม และต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล สามารถติดต่อสอบถามได้ที่กังนัมคลินิกทุกสาขา หรือติดต่อผ่านช่องทางออนไลน์ทั้ง Line : @gangnamclinic หรือช่องทาง Social Media ของทางคลินิกที่สะดวก

ขอบคุณข้อมูลจาก: verywellhealth

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง