รู้จักโบท็อกซ์ลดกล้ามแขน ช่วยแก้ปัญหาแขนใหญ่ได้จริงไหม
หากจะให้พูดถึงการฉีดโบท็อกซ์ลดกล้ามแขนนั้นถือเป็นอีกหนึ่งวิธีในการช่วยลดปัญหาแขนใหญ่ได้เป็นอย่างดี แต่ทว่าวิธีนี้ก็ไม่ได้เหมาะกับปัญหาแขนใหญ่บางแบบ ดังนั้นในบทความนี้เราเลยจะมาให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์ลดกล้ามแขนว่าคืออะไร เหมาะกับใคร ต้องใช้กี่ยูนิตและมีราคาเท่าไหร่มาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
โบท็อกซ์ลดกล้ามแขนคืออะไร
คือการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin) เพื่อเข้าไปทำให้กล้ามเนื้อแขนเกิดการหดตัวลง จนทำให้แขนมีความเรียวเล็กขึ้น จึงเหมาะอย่างมากกับสาว ๆ ที่มีปัญหาต้นแขนใหญ่จากการมีกล้ามเนื้อโตที่ผิดปกติจนส่งผลต่อความมั่นใจในรูปร่าง
(อ่านบทความเพิ่ม:ฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร? Botox แต่ละจุดช่วยเรื่องอะไรบ้าง? มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร?)
โบท็อกซ์ลดกล้ามแขนมีระบบการทำงานอย่างไร
หลักการทำงานของโบท็อกซ์ลดกล้ามแขนหลัก ๆ ก็คือหมอจะใช้วิธีการฉีดตัวยาโบท็อกซ์ที่จะมาในรูปแบบของผลึกสีขาวที่จะต้องมีการไปผมกับน้ำเกลือก่อน และจึงนำไปฉีดเข้ากล้ามเนื้อแขนส่วน Biceps หรือส่วนต้นแขนที่อยู่ระหว่างบริเวณหัวไหล่และข้อศอกนั้นเอง
ซึ่งเมื่อฉีดตัวยาโบท็อกซ์เข้าไปแล้วตัวยาจะเข้าไปทำงานต่อระบบประสาทส่วนควบคุมกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อหยุดทำงานลงแบบชั่วคราว และเมื่อกล้ามเนื้อหยุดการทำงานลงตัวกล้ามเนื้อก็จะค่อย ๆ หดตัวลงจนทำให้แขนมีขนาดที่เล็กลงตามไปด้วย
โบท็อกซ์ลดกล้ามแขนช่วยลดแขนใหญ่ได้จริงไหม
แน่นอนว่าการฉีดโบท็อกซ์ลดกล้ามแขนสามารถช่วยแก้ปัญหาแขนใหญ่ได้จริง แต่ทว่าจะเห็นผลแค่กับคนที่มีปัญหาแขนใหญ่จากการมีกล้ามเนื้อแขนที่ใหญ่เท่านั้น หากเป็นปัญหาแขนใหญ่จากการสะสมของไขมันจะไม่ค่อยเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
วิธีเช็คว่าเราแขนใหญ่จากสาเหตุใด
โดยหลัก ๆ แล้วปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหาแขนใหญ่นั้นที่พบได้บ่อยจะมีอยู่ 3 ปัจจัยหลัก ๆ นั้นก็คือ
1. แขนใหญ่จากกล้ามเนื้อ : โดยมักจะเกิดขึ้นจากการออกกำลังกายช่วงแขนอย่างหนัก หรือมีพฤติกรรมการยกของหนักเป็นประจำ ส่งผลทำให้ส่วนต้นแขนดูใหญ่ เวลาจับแล้วจะรู้สึกถึงความแข็งของกล้ามเนื้อ สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการฉีดโบท็อกซ์ลดกล้ามแขนร่วมกับการงดออกกำลังกายช่วงแขน
2. แขนใหญ่จากไขมัน : ซึ่งมักมีสาเหตุการเกิดมาจากการสะสมของไขมันจากพฤติกรรมการทานอาหารประเภทกลุ่มที่มีไขมันสูง น้ำตาลสูง และไม่มีการออกกำลังกายส่วนแขนเพื่อสลายไขมัน เวลาจับจึงจะรู้สึกถึงความนิ่ม ซึ่งปัญหานี้ไม่เหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์ลดกล้ามแขน แต่จะเหมาะกับการฉีดเมโสแฟตร่วมกับการออกกำลังกายแขนมากกว่า
3. แขนใหญ่จากทั้งกล้ามเนื้อและไขมัน : ปัจจัยนี้สามารถพบได้บ่อยที่สุดนั้นก็คือเวลาจับจะรู้สึกถึงความนิ่มและเวลาเกร็งแขนอาจจะเห็นเป็นกล้ามเนื้อปูดออกมาได้ ซึ่งวิธีแก้ไขก็สามารถทำได้ทั้งการฉีดโบท็อกซ์ลดกล้ามแขนและการฉีดเมโสแฟตเพื่อสลายไขมัน แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่าควรเริ่มที่จะทำหัตถการตัวไหนก่อนและหลัง
โบท็อกซ์ลดกล้ามแขนเหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ที่มีปัญหาแขนใหญ่จากกล้ามเนื้อ
- ผู้ที่ต้องการปรับแขนให้เรียวเล็ก
- ผู้ที่ต้องการลดแขนให้เรียวขึ้นโดยไม่ต้องการผ่าตัด และไม่มีเวลาพักฟื้นหลังทำ
- ผู้ที่ต้องการเสริมความมั่นใจให้รูปร่างและการแต่งกาย
เลือกใช้โบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี
จริง ๆ แล้วการเลือกใช้ยี่ห้อโบท็อกซ์สามารถฉีดได้ทุกยี่ห้อที่เป็นโบท็อกของแท้ และผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากอย. ซึ่งที่กังนัมคลินิกเราเองก็มียี่ห้อโบท็อกให้เลือก 5 ยี่ห้อด้วยกัน ดังนี้
- Allergan (จากประเทศอเมริก)
โบท็อกซ์ Allerganเป็นโบท็อกซ์ยี่ห้อแรกของโลกและมีงานวิจัยที่มารับรองถึงการเห็นผลลัพธ์มาอย่างยาวนานด้วยตัวยาที่มีความบริสุทธิ์มากถึง 99.5% จึงทำให้ยาสามารถกระจายตัวได้ดี มีโอกาสดื้อยาได้น้อยและเห็นผลได้นานประมาณ 6-8 เดือน ราคา: 18,000 บาท/100 ยูนิต - Dysport (จากประเทศอังกฤษ)
มีจุดเด่นคือตัวยาจะมีขนาดโมเลกุลที่เล็ก ทำให้ฉีดไปแล้วตัวยาสามารถกระจายตัวได้ดี ทำให้เห็นผลที่ไว และอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ราคา: 15,696 บาท/300 ยูนิต - Aestox (จากประเทศเกาหลี)
เป็นอีกยี่ห้อที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในประเทศไทยเรา เนื่องจากมีความปลอดภัย เนื่องจากตัวยามีความบริสุทธิ์สูงช่วยเห็นผลได้ไวพอ ๆ กับ Allergan และยังมีส่วนช่วยในการดื้อยาได้ดีอีกด้วย โดยจะเห็นผลได้ประมาณ 3-6 เดือน ราคา: 3,696 บาท/50 ยูนิต
(อ่านบทความเพิ่มเติม: โบท็อกเกาหลียอดฮิตมียี่ห้อไหนบ้าง ปัจจุบันฉีดแล้วยังดีอยู่ไหม?) - NABOTA (จากประเทศเกาหลี)
โบท็อกซ์ Nabotaเป็นยี่ห้อที่ใครหลาย ๆ คนต่างก็รู้จักกันดี เนื่องจากว่าได้รับความนิยมอย่างมาก มีราคาที่ถูก และให้ระดับการเห็นผลที่ไม่แพ้กับยี่ห้ออื่นเลย ด้วยตัวยาที่มีความบริสุทธิ์ถึง 98.7% จึงเห็นผลค่อนข้างไวและลดโอกาสดื้อยาได้เช่นกัน ซึ่งจะเห็นผลได้ประมาณ 4-5 เดือน ราคา: 5,966 บาท/100 ยูนิต - XEOMIN (จากประเทศเยอรมัน)
เป็นโบท็อกซ์ที่นิยามว่าโบท็อกซ์เจน 2 ที่มีจุดเด่นในเรื่องของช่วยลดโอกาสการดื้อยา บวกกับตัวยามีความบริสุทธิ์สูง เห็นผลได้ไวและเห็นผลได้นานถึง 4-6 เดือนราคา: 12,232 บาท/100 ยูนิต
ควรจะฉีดกี่ยูนิตถึงจะเห็นผล
โดยส่วนใหญ่แล้วในการฉีดโบท็อกซ์ลดกล้ามแขนนั้นจะใช้ปริมาณตัวยาอยู่ที่ประมาณ 200 ยูนิตต่อครั้ง (เฉลี่ยแขนข้างละ 100 ยูนิต) ซึ่งจะทำให้สัดส่วนของรอบแขนลดลงไปประมาณ 10-20% และจะสามารถเห็นผลลัพธ์ไปประมาณ 2-4 เดือนขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้
โบท็อกซ์ลดกล้ามแขนควรทำกี่ครั้ง เห็นผลภายในกี่วัน
การฉีดโบท็อกซ์ลดกล้ามแขนคนไข้จะสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ แต่จะไม่สามารถเห็นได้ทันที โดยจะเริ่มแสดงผลลัพธ์หลังจากฉีดไปแล้วประมาณ 1-2 เดือน ซึ่งในคนไข้ที่มีปัญหาแขนใหญ่ไม่มากนั้นจะเห็นผลได้ชัดเจนมากกว่า
การเตรียมตัวก่อนทำ
- ศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์รวมไปถึงผลข้างเคียงให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจทำ
- หากมีโรคประจำตัวหรือมีการทานยารักษาโรคควรแจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้งก่อนฉีด
- งดยาและวิตามินที่ส่งผลต่อการหยุดไหลของเลือดและส่งผลต่อการกระตุ้นการฟกช้ำหลังทำประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนทำ เช่น แอสไพริน แปะก๊วย วิตามินอี วิตามินซี น้ำมันปลา เป็นต้น
- งดการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิวก่อนทำประมาณ 2 วัน
- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ก่อนทำ 24 ชั่วโมงเพราะจะไปกระตุ้นการบวมหลังทำ
ข้อควรปฏิบัติหลังทำ
- งดนวด กดจับผิวในจุดที่ฉีดเพื่อป้องกันการกระจายตัวของตัวยาไปยังตำแหน่งอื่น
- งดออกกำลังกาย หรือยกของหนักเพื่อป้องกันไม่ให้ไปเพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้ใหญ่ขึ้น
- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่หลังทำประมาณ 48 ชั่วโมง
- งดอยู่ในที่อากาศร้อนหรือทำกิจกรรมในที่อากาศร้อน เช่น อาบแดด ซาวน่า เพื่อป้องกันไม่ตัวยาสลายตัว
เลือกฉีดโบท็อกซ์ลดกล้ามแขนที่ไหนดี
สำหรับการฉีดโบท็อกซ์ลดกล้ามแขนนั้นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามนั้นก็คือการเลือกคลินิกที่จะเข้ารับบริการ ซึ่งควรมีการพิจารณาตามข้อต่อไปนี้
- คลินิกจะต้องเปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีการขออนุญาตการเปิดคลินิกกับกระทรวงสาธารณสุข และจะต้องมีเลขใบอนุญาตการเปิด 11 หลักที่สามารถนำไปตรวจสอบกับทางกระทรวงสาธารณสุขได้
- มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำคลินิกทุกสาขา และแพทย์จะต้องมีใบประกอบวิชาชีพที่ออกโดยแพทย์สภาอย่างถูกต้อง
- หัตถการฉีดโบท็อกซ์ลดกล้ามแขนจะต้องฉีดกับแพทย์เท่านั้น ไม่ควรให้พยาบาลหรือผู้ช่วงพยาบาลเป็นผู้ฉีดให้ หากคลินิกไหนไม่ให้แพทย์เป็นคนฉีดสามารถส่งเรื่องร้องเรียนกับทาง สคบ. ได้
- คลินิกจะต้องมีการใช้ตัวยาโบท็อกซ์ของแท้ และก่อนฉีดจะมีการแกะกล่องต่อหน้าคนไข้เพื่อให้คนไข้สามารถสแกนตรวจสอบตัวยาโบท็อกซ์กับทางบริษัทผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการได้
- คลินิกจะต้องมีราคาโปรโมชั่นที่หลากหลาย มียี่ห้อโบท็อกซ์ให้เลือกหลายยี่ห้อตามความต้องการของคนไข้
- คลินิกจะต้องมีสถานที่ตั้งอย่างชัดเจน และมีช่องทางการติดต่อได้สะดวก
สรุป
การฉีดโบท็อกซ์ลดกล้ามแขนนั้นอีกหนึ่งวิธีในการช่วยลดปัญหาแขนใหญ่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นวิธีที่เหมาะอย่างมากกับคนที่แขนใหญ่จากการมีภาวะกล้ามเนื้อโตในช่วงต้นแขนโดยการฉีดโบท็อกซ์ลดกล้ามแขนนั้นสามารถทำควบคู่กับวิธีการลดแขนแบบอื่น ๆ เช่น การฉีดเมโสแฟตหรือการใช้เครื่องสลายไขมันได้ ทั้งนี้ยังมีจุดเด่นคือสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และยังสามารถเห็นผลได้นานประมาณ 2-4 เดือนขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้
สำหรับลูกค้าท่านใดที่กำลังมองหาสถานที่ฉีดโบท็อกซ์ลดกล้ามแขนอยู่ เราขอแนะนำที่กังนัมคลินิกโดยสามารถเข้าปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการประเมินก่อนตัดสินใจทำได้ที่กังนัมคลินิกทุกสาขาหรือช่องทางออนไลน์ได้ทาง Line: @gangnamclinic
แหล่งอ้างอิงของข้อมูล
Marisa Martino.Barbie Botox: How Millions Of People Are Using Botox To Look Like Barbie.
https://skinneymedspa.com/barbie-botox/
Botulinum toxin dosing in arm muscles: contextual factors – PMC.2021 Jan 30.
https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC7969489/
Can Botox reduce muscle mass in arms or legs? – April 29, 2011.Gems
https://www.realself.com/question/botox-reduce-muscle-mass-arms-legs