แนะนำวิธีลดแก้ม แก้มเยอะ แก้มใหญ่ ที่ผลได้เป็นธรรมชาติ แบบเร่งด่วน

ปัญหาแก้มเยอะ แก้มใหญ่ ลดด้วยวิธีไหนดี

ปัญหาแก้มเยอะหรือแก้มใหญ่อาจ อาจเป็นเรื่องหนักใจของใครหลายๆคน เพราะแก้มจะทำให้ใบหน้าโดยรวมทั้งหมดดูใหญ่ขึ้น ใบหน้าดูกลม เนื่องจากแก้มเยอะจะไม่สามารถทำให้เห็นกรอบหน้าที่ชัดเจน แต่ในปัจจุบันมีวิธีการที่อาจช่วยลดขนาดแก้ม ลดเหนียง ด้วยหลายวิธี ทั้งการใช้วิธีแบบธรรมชาติ และการใช้ตัวยาช่วยสลายไขมันด้วยวิธีทางการแพทย์ เพื่อให้ใบหน้ากลับมาเรียวเล็ก เห็นกรอบหน้าชัดเป็นวีเชฟอีกครั้ง โดยไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกด้วย 22 วิธีลดแก้มในบทความนี้

ปัญหาแก้มเยอะ-แก้มใหญ่

คนที่มีปัญหาแก้มเยอะ แก้มใหญ่ เกิดจากอะไรได้บ้าง

แก้มเยอะหรือแก้มใหญ่เป็นสาเหตุทำให้ใบหน้าดูกลม แก้มป่อง ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น

  • การมีแก้มเยอะหรือแก้มใหญ่อาจเป็นเรื่องที่มีลักษณะพันธุกรรม ซึ่งสาเหตุนี้เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
  • การรับประทานอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลและไขมันสูงอาจทำให้เกิดการสะสมไขมันในตำแหน่งต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งอาจทำให้แก้มดูใหญ่ขึ้นได้
  • การดื่มเครื่องดื่มบางชนิด เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม น้ำผลไม้สำเร็จรูป อาจเป็นการเพิ่มปริมาณน้ำตาลในร่างกาย และส่งผลให้เกิดการสะสมไขมันในแก้มได้
  • การไม่ออกกำลังกายอาจทำให้เกิดการสะสมไขมันในแก้ม
  • เกิดจากโรคอ้วน และ โรคเบาหวาน ซึ่งจะทำให้เกิดการสะสมไขมันในแก้มและทั่วร่างกายได้

แนะนำ วิธีลดแก้ม สำหรับคนแก้มเยอะ แก้มใหญ่

การลดแก้มให้เห็นผลที่ชัดเจน อาจจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับโครงสร้างของแต่ละบุคคล ดังนั้นเพื่อให้ทุกคนสามารถเลือกวิธีลดแก้มได้ตรงกับวัตถุปะสงค์ ออนนี่มีวิธีการลดแก้มมาให้เลือกดังนี้

1. ฉีด Botox ลิฟกรอบหน้า

ฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า

การฉีด Botox แก้มเป็นกระบวนการทางเคมีที่ใช้สารบางชนิดที่ชื่อว่าโบทูลินัมท็อกซิน (Botulinum toxin) ซึ่งได้มาจากแบคทีเรียคลอสตริเดียมโบทูลินัม (Clostridium botulinum) ที่ช่วยลดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อและช่วยกระชับผิวหน้าในบริเวณแก้ม จึงทำให้แก้เล็กลง แก้มดูกระชับขึ้น เป็นอีกหนึ่งวิธีลดแก้มที่ได้รับความนิยม

2. Meso Fat สลายไขมันแก้ม

ฉีดเมโสแฟตสลายไขมันที่แก้ม

Meso Fat คือเทคนิคการรักษาความงามที่ใช้การฉีดสารลงในผิวหนัง เพื่อช่วยลดมวนของเซลล์ไขมันในบริเวณที่ต้องการ เช่น แก้ม โดยสารที่ใช้ในการฉีดนี้จะประกอบไปด้วย Phosphatidylcholine, Lcarnitine, Dexpanthenol, Deoxycholate, Amino acid หรือ Minerals ซึ่งเป็นสารสกัดจากถั่วเหลือง ไข่แดงและวิตามินอีกหลายชนิด ที่มีการออกฤทธิ์กระตุ้นระบบการทำงานของ metabolism ช่วยเร่งการสลายไขมันตามธรรมชาติของร่างกาย และ L-carnitine จะช่วยเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน (fat burn) ได้

อ่านเพิ่มเติม : ฉีดแฟต (Meso Fat) คืออะไร ฉีดสลายไขมันจุดไหนได้บ้าง เหมาะกับใคร

3. Hifu

Sygmalift Hifu ยกกระชับแก้ม

การทำ HIFU หรือ High-Intensity Focused Ultrasound เป็นเทคโนโลยีการรักษาความงามที่ใช้คลื่นเสียงระดับสูงส่งผ่านผิวหนังเข้าสู่ชั้นเนื้อหนังและไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายในเนื้อเยื่อ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวหนัง และลดการหยุดยั้งการสร้างคอลลาเจน ทำให้แก้มเรียบเนียน ลดริ้วรอยและย้อนวัยได้ นอกจากนี้การทำ Hifu ยังเป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายในเนื้อเยื่อแก้ม เพื่อการยกกระชับโดยไม่ทำให้ผิวหนังได้รับบาดเจ็บ และไม่ต้องเสียเวลาในการฟื้นตัวหลังการรักษา

อ่านเพิ่มเติม : 10 ข้อควรรู้ก่อนทำ Hifu คืออะไร? มีกี่แบบ? เลือกยี่ห้อไหนดี ให้เหมาะกับเรา

4. Thermage

soft thermage ยกกระชับแก้มหย่อนคล้อย

การทำ Thermage จะใช้เครื่องมือที่ส่งคลื่นวิทยุสูงความถี่ไปยังเนื้อเยื่อด้านในของผิวหนัง ทำให้เกิดความร้อนภายในเนื้อเยื่อ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในเนื้อเยื่อผิวหนัง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีคอลลาเจนลดลง เช่น ในแก้ม จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและลดริ้วรอยที่เกิดขึ้นบนผิวหนัง ทำให้ผิวหนังกระชับ เรียบเนียนขึ้น โดยการทำ Thermage จะสามารถเห็นผลลัพธ์การลดแก้มได้ภายใน 1-3 เดือนหลังจากการรักษา โดยผู้ป่วยไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น

5. Ulthera

การทำ Ulthera (อัลเทอร่า) เป็นเทคโนโลยีการรักษาแบบแบบ Original ที่ใช้คลื่นเสียงในระดับความถี่สูง (High Intensity Focused Ultrasound) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในเนื้อเยื่อผิวหนัง ส่งผลทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นช่วยลดริ้วรอย ลดความหย่อนคล้อยของผิว ลดปัญหาแก้มห้อย และทำให้แก้มมีความยกกระชับขึ้น ผิวหน้าจึงดูเรียบเนียน เห็นกรอบหน้าได้ชัดเจนขึ้น หมดปัญหาแก้มเยอะ โดยสามารถเห็นผลที่ชัดเจนได้ภายใน 1-3 เดือนหลังจากการรักษา

6. ดูดไขมัน

การดูไขมันหน้า (Facial Vaser Liposuction) เป็นเทคนิคการลดไขมันบริเวณแก้มเพื่อลดปัญหาหน้าบาน ซึ่งเทคนิคนี้จะต้องทำโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจำเป็นต้องมีการเปิดำแผลขนาดเล็กบริเวณที่ต้องการดูดไขมัน แล้วนำเครื่องดูดไขมันไฟฟ้า ดูดไขมันออกจากบริเวณแก้มด้านล่าง เหนียง คอ และขอบกราม ในปริมาณที่ต้องการ ทำให้ใบหน้าของคนไข้เล็กลงและมีลักษณะเรียวยาวมากขึ้น เห็นกรอบหน้าชัด ดูเป็นธรรมชาติโดยผลการดูดไขมันหน้าจะเห็นผลลัพธ์ได้ทันที แต่คนไข้อาจต้องมีระยะการพักฟื้นอย่างน้อย 7 วัน

7. จัดฟัน

การจัดฟัน

การจัดฟันเป็นวิธีที่จะช่วยปรับความสมดุลของการเรียงตัวของฟัน ซึ่งอาจส่งผลทำให้แก้มเล็กลง หรือแก้มตอบได้ เนื่องจากการตัดฟันจะทำให้การเคี้ยวอาหารเป็นไปได้ลำบาก ทำให้ทานอาหารได้น้อยลง และกล้ามเนื้อแมสซีเตอร์ (Masseter muscle) ที่มีหน้าที่ในการบดเคี้ยวอาหารก็ไม่ค่อยได้ใช้งาน จึงทำให้กล้ามเนื้อมีขนาดลดลงได้ แต่การจัดฟันไม่ใช่วิธีที่สามารถลดแก้มได้โดยตรง

8. ร้อยไหม

ร้อยไหมยกกระชับแก้ม

การร้อยไหมยกกระชับหน้า เป็นวิธีการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นได้ โดยยกกระชับเนื้อบริเวณร่องแก้ม หรือแก้มหย่อนคล้อยโดยการดึงไปจะไปอยู่บริเวณโหนกแก้ม จึงทำให้เห็นกรอบหน้าที่ชัดขึ้น ซึ่งจะไม่ค่อยเห็นผลในคนที่มีปัญหาแก้มให้จากไขมัน เพราะเป็นการแก้ปัญหาแบบไม่ตรงจุด ซึ่งหากต้องการลดแก้ม เหนียง ที่เป็นไขมันแพทย์จะแนะนำให้ใช้วิธีฉีด MESO FAT ซึ่งมีผลในการสลายไขมันได้โดยตรง

9. ศัลยกรรมผ่าตัดกระพุ้งแก้ม

การผ่าตัดลดแก้มคือการทำศัลยกรรมเพื่อลดขนาดแก้มโดยตรง ด้วยการผ่าการลดไขมันที่กระพุ้งแก้ม (Buccal Fat Pad Removal) ออกตามความเหมาะสม โดยการนำส่วนไขมันชั้นในที่ลึกสุดของใบหน้าที่อยู่ในบริเวณใกล้กระพุ้งแก้มออกมา เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาแก้มใหญ่และไม่สามารถลดได้ด้วยวิธีอื่น ๆ แต่วิธีนี้มีความเสี่ยงและความไม่สะดวกสูงกว่าวิธีอื่น ๆ เนื่องจากต้องใช้การผ่าตัดที่เชี่ยวชาญและอาจมีผลข้างเคียงตามมาได้ ดังนั้นการตัดลดแก้มจึงควรพิจารณาให้ระมัดระวังมากเป็นพิเศษ

10. การทำ RF (Radio Frequency)

การทำ RF หรือ Radio Frequency เป็นการใช้คลื่น Radio Frequency เพื่อปล่อยคลื่นไฟฟ้าอ่อนๆ ในรูปของคลื่นวิทยุ ส่งผ่านเนื้อเยื่อเพื่อเพิ่มการผลิตคอลลาเจนในผิวหนัง และลดเนื้อเยื่อไขมันในบริเวณแก้ม และช่วยลด volume ของใบหน้าด้วยคลื่นความถี่ 0.3 – 0.5 MHz ลงไปยังใต้ผิวชั้นลึก ซึ่งส่งผลให้เซลล์ผิวหนังสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวหนังดูแข็งแรง มีความยืดหยุ่น และเนื้อเยื่อไขมันในบริเวณแก้มจะถูกย่อยลงด้วยความร้อนที่เกิดจาก RF จึงทำให้แก้มดูเล็กลง

11. CoolSculptimg สลายไขมันด้วยความเย็น

Coolsculpting คือ การกำจัดไขมันออกจากร่างกายด้วยความเย็น -10 องศา โดยการใช้เครื่องมือที่เรียกว่า applicator ซึ่งจะถูกวางลงบนบริเวณที่ต้องการลดไขมันเพื่อให้ไขเซลล์ไขมันตายลงจากการถูกแช่แข็ง และถูกกำจัดไปได้ง่าย ซึ่ง CoolSculpting ถือเป็นเทคโนโลยีแบบ Non-invasive จึงไม่ทำให้เกิดรอยแผล ไม่ทำลายเซลล์และเนื้อเยื่อส่วนอื่นๆ มีความปลอดภัย ผ่านการรับรองจาก US FDA. ซึ่งความเย็นจะถูกส่งไปยังใต้ผิวหนัง Subcutaneous tissue หรือ ชั้นไขมัน Subcutaneous fat จึงทำให้กำจัดไขมันที่แก้ได้เป็นอย่างดี

12. นวดหน้ากดจุด

การนวดกดจุดลดแก้มเป็นการใช้การกดบนจุดบนใบหน้า เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตในส่วนนั้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการย่อยสลายไขมันและส่วนเกินที่อยู่ในแก้ม โดยการนวดกดจุดลดแก้มนั้นเป็นวิธีการที่ไม่ต้องใช้เครื่องมือหรือสารเคมีใดๆกับร่างกาย แต่อาจจะต้องใช้กับการดูแลรักษาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า เช่น การกดจุดลดแก้มอาจจะใช้ร่วมกับการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพให้ดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้เพื่อความปลอดภัยของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อบนใจหน้า การนวดกดจุดยังต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้นอีกด้วย

13. ใช้ลูกกลิ้งนวดหน้า

ลูกกลิ้งนวดหน้า

การใช้ลูกกลิ้งนวดหน้าเป็นการนวดหน้าด้วยลูกกลิ้งที่มีขนาดเล็ก ที่สามารถวางไว้บนผิวหน้าและใช้เคลื่อนที่ได้ตามทิศทางที่ต้องการ โดยการนวดหน้าด้วยลูกกลิ้งนี้สามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตในส่วนนั้น ทำให้เกิดการกระตุ้นการย่อยสลายไขมัน และช่วยลดการบวมและการเก็บน้ำในแก้ม และช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน จึงทำให้ผิวหน้ามีความเรียวเล็กลง แต่จะต้องทำอย่างถูกวิธี และใช้อุปกรณ์ที่มีความปลอดภัยเพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อเยื้อใต้ผิวได้รับการบาดเจ็บ

14. ใส่สายรัดวีเชฟ

การใช้สายรัดวีเชฟเป็นกระบวนการลดแก้มที่มีความปลอดภัย โดยเป็นการใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า “เอสเททิก” (ESTETIC) ซึ่งจะใช้สายรัดที่ประกอบด้วยไนล่อนซึ่งเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติยืดหยุ่นสูง รัดไปบริเวณใต้ผิวหนังแก้ม หรือแนวเชิงกรานของแก้ม โดยปรับสายรัดให้แน่นพอดี ซึ่งสายรัดวีเชฟจะเพิ่มการยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อและไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนัง จึงทำให้แก้มดูเรียวเล็กลง แต่ยังไม่มีผลการวิจัยได้ออกมาคอนเฟิร์มว่าวิธีนี้จะสามารถใช้ได้ผลจริง

15. ฝึกท่าบริหารหน้า

การฝึกท่าบริหารหน้าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ยิมยมของคนแก้มเยอะ เพราะจะช่วยลดแก้มได้ เพราะเนื่องจากการบริหารหน้าเป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและลดไขมันบริเวณแก้มได้ ซึ่งจะช่วยทำให้หน้ามีลักษณะเรียวยาวและเล็กลงได้ ด้วยท่าง่ายๆเช่น เงยหน้าขึ้นและดูดแก้มเข้าหากันให้ได้มากที่สุด จากนั้นให้ทำค้างไว้ 5 วินาที แล้วทำซ้ำอย่างเดิม 15-20 ครั้ง เป็นประจำทุกวัน

16. ฉีดฟิลเลอร์คาง

การฉีดฟิลเลอร์คางหน้าเรียว (V-line) เป็นกระบวนการทางเวชกรรมที่ใช้สารการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) ที่บริเวณชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูก ซึ่งอยู่ลึกใต้กล้ามเนื้อไปเพื่อเพิ่มความเรียวของคาง เพื่อให้ได้สัดส่วน ดูสมมาตร และทำให้ใบหน้าดูหน้าเรียวมากขึ้น

ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์คางจึงไม่ได้เป็นวิธีลดแก้มโดยตรงแต่จะเป็นการเพิ่มสมดุลให้ใบหน้าดูสมส่วน นิยมทำพร้อมกับหัตถการอื่นๆ ร่วมด้วย ในกลุ่มคนที่มีปัญหาแก้มเยอะ เพื่อปรับหน้าเรียวขึ้น หากคนไข้ต้องการผลลัพธ์ที่ดีมายิ่งขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการฉีดฟิลเลอร์

17. เป่าลูกโป่ง

เป่าลูกโป่ง

การเป่าลูกโป่งเป็นอีกวิธีที่จะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อบริเวณแก้มให้ตึงกระชับขึ้น และสามารถลดแก้มให้ดูเรียวขึ้นได้ นอกจากนี้การเป่าลูกโป่งยังสามารถช่วยเติมเต็มอากาศในปอดและเพิ่มอัตราการหายใจได้อีกด้วย แนะนำให้ทำประมาณ 10 ครั้งต่อ ต่อเนื่องทุกวัน ร่วมกับวิธีลดแก้มแบบอื่น ๆ

18. การแต่งหน้าและปรับทรงผม

เป็นอีกวิธีที่ถึงแม้จะไม่ช่วยแก้ปัญหาแก้มเยอะโดยตรงแต่ก็สามารถช่วยเรื่องการอำพรางรูปหน้าได้ค่อนข้างดี ถือเป็นวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาแก้มเยอะได้อย่างเร่งด่วนทันที  ซึ่งทั้งการแต่งหน้าหรือการตัดแต่งทรงผมนั้นสามารถทำร่วมกันได้

  • การแต่งหน้า : เน้นการคอนทัวร์ส่วนแก้มเพื่อเพิ่มจุดแสงและเงาทำให้ใบหน้าเรียวขึ้น
  • การตัดผม : ควรตัดผมด้านหน้าให้มีเลเยอร์หรือตัดปอยผมเพื่อช่วยปกบริเวณแก้ม

การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาแก้มเยอะ แก้มใหญ่

  • การดื่มน้ำมากๆ อาจช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น เพราะแก้มใหญ่มักเกิดจากทั้งกล้ามเนื้อและการสะสมไขมัน ซึ่งการดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว สามารถลดอาการบวมน้ำ ของร่างกายได้ แต่ไม่สามารถลดไขมันในบริเวณแก้มได้แบบเฉพาะจุด
  • การนอนให้เพียงพอ 6 – 8 ชั่วโมงต่อวัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดแก้ได้ เพราะการนอนหลับในช่วงเวลาที่เหมาะสมตั้งแต่ 22.00 เป็นต้นไปจะทำให้เกิดการฟื้นฟูเซลล์ต่างๆภายในร่างกาย
  • การควบคุมการทานอาหารเป็นวิธีที่สำคัญในการลดแก้ม โดยควรเลือกทานอาหารที่มีปริมาณไขมันต่ำ และอาหารที่มีปริมาณโปรตีนสูง หลีกเลี่ยงอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล ที่เป็นสาเหตุของการสะสมไขมัน
  • งดอาหารรสเค็มจัด เพราะอาหารรสเค็มนั้นมีโซเดียมอยู่สูง จึงทำให้น่างการเกิดการกักเก็บน้ำเอาไว้มาก จึงเกิดอาการหน้าบวม
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เกิดการสะสมไขมันในบริเวณแก้ม นอกจากนี้การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังทำให้เกิดการดูดซึมสารอาหารที่ไม่ดี

เลือกคลินิกลดแก้ม ที่ไหนดี ให้ปลอดภัย

การเลือกคลินิกสำหรับแก้ปัญหาด้านความงาม ควรพิจารณาถึงองค์ประกอบต่างๆดังต่อไปนี้

  • ความเชี่ยวชาญของแพทย์และทีมงาน ควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์และทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลแบบเฉพาะทาง
  • เลือกคลินิกที่มีการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ปลอดภัย และเป็นไปตามมาตรฐานการผลิตที่รับรองโดยองค์กรที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์กรอนามัยโลก (WHO)
  • เลือกคลินิกที่ดีควรมีมาตรฐานความสะอาดที่สูง เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคและสภาวะการติดเชื้อ
  • เลือกคลินิกที่ดีควรมีการให้บริการที่เป็นมิตร และมีความรวดเร็ว พร้อมให้คำปรึกษาอย่างละเอียดและการเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับลูกค้า
  • เลือกคลินิกที่มีราคาเหมาะสมกับคุณภาพและการให้บริการ โดยสามารถเปรียบเทียบราคากับคุณภาพได้
  • เลือกคลินิกที่มีรีวิวจากลูกค้าจริง แล เลือกคลินิกที่ไม่มีประวัติทอดทิ้งลูกค้าหลังให้บริการ

สรุป ลดแก้มด้วยวิธีไหนดีที่สุด

วิธีลดแก้มที่ดีที่สุดนั้น จะขึ้นอยู่กับสภาพและความต้องการของแต่ละบุคคล รวมถึงเป้าหมายของผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยแพทย์จะเป็นผู้แนะนำวิธีการลดแก้มที่เหมาะกับแต่ละบุคคล ทำให้อาจมีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งในการเลือกวิธีการลดแก้มควรพิจารณาความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และราคา ร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและตรงกับความต้องการของตัวคนไข้มากที่สุด

อ้างอิงจากข้อมูล

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง