หน้าท้องแตกลายหลังคลอด หายเองได้ไหม? มีวิธีแก้และรักษาอย่างไร
สำหรับคุณแม่หลังคลอดที่มีการยืดขยายตัวของผิวหน้าท้องอย่างรวดเร็ว เนื่องจากขนาดครรภ์ที่ใหญ่ขึ้นมักทำให้เกิดปัญหาหน้าท้องแตกลาย เนื่องจากอีลาสตินและคอลาเจนฉีกขาด ซึ่งปัญหานี้มักทำเอาคุณแม่หลายๆคนรู้สึกเป็นกังวล หรือหมดความมั่นใจกันไปเลยทีเดียว ดังนั้นวันนี้เราจะมาเอาใจคุณแม่ทั้งหลายด้วยการแชร์วิธีรักษาปัญหาหน้าท้องแตกลายหลังคลอด พร้อมบอกสาเหตุเพื่อเป็นป้องกันรอยแตกลายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ปัญหาหน้าท้องแตกลายหลังคลอด
ปัญหารอยแตกลายหลังคลอดเป็นในด้านสุขภาพทางผิวหนังที่เกิดจากการขยายตัวของหน้าท้องอย่างรวดเร็วเนื่องจากขนาดของอายุครรภ์ที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จึงส่งผลให้ผิวหนังมีการยืดขยายขึ้น จน คอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนังฉีกขาด นอกจากนี้หลังคลอดผิวหนังยังต้องเจอกับภาวะผิวหนังที่มีการหดตัวออกอย่างรวดเร็ว จึงทำให้เกิดรอยแตกลายที่สามารถเห็นได้ชัดตรงบริเวณหน้าท้อง ซึ่งรอยแตกลายนี้ไม่สามาถหายไปได้เอง ดังนั้นหลังการคลอดคุณแม่จึงจำเป็นต้องหาตัวช่วยในการลดรอยแตกลายให้จางลง
รอยแตกลายหลังคลอดมีกี่แบบ?
รอยแตกลายหลังคลอด มักเป็นรอยแตกลายที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน และรอยแตกลายหลังคลอดจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 คือ
รอยแตกลายแดง หรือ Striae Rubra
เป็นรอยแตกลายใหม่ที่เกิดจากการยืดขยายและการหดตัวของผิวหนังอย่างรวดเร็ว จนทำให้เกิดการฉีกขาดของคอลลาเจนที่ใต้ชั้นผิว ส่งผลทำให้เกิดรอยแตกลายที่มีสีแดง หรือสีม่วงเนื่องจากมีหลอดเลือดอยู่ภายใต้ผิวหนัง(ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วย)โดยรอยแตกลายแดงชนิดนี้จะสามารถตอบสนองต่อการรักษาได้ง่ายและให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่ารอยแตกลายขาว
รอยแตกลายขาว หรือ Striae Alba
เป็นรอยแตกลายที่อยู่นานหรือรอยแตกลายเก่า เมื่อขาดการรักษาอย่าถูกวิธี หลอดเลือดบริเวณรอยแตกจะค่อยๆ จางหายไปรอยแตกลายเปลี่ยนสภาพกลายเป็นรอยแตกลายสีขาวนั่นเอง ซึ่งรอยแตกลายชนิดนี้เป็นรอยแตกลายที่ไม่ค่อยตอบสนองในรักษา ทำให้หายได้ยากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับรอยแตกลายสีแดง
รูปท้องลายหลังคลอด
นอกจากบริเวณท้องแล้วรอยแตกลายสามารถเกิดที่บริเวณไหนได้บ้าง?
รอยแตกลายหลังคลอดนี้ นอกจากจะเกิดขึ้นที่บริเวณหน้าท้องของคุณแม่แล้ว ยังสามารถเกิดขึ้นในบริเวณส่วนอื่นๆของร่างกายคุณแม่ได้อีกด้วย อย่างเช่น
- รอยแตกลายบริเวณก้น สะโพก
- รอยแตกลายบริเวณต้นแขน ต้นขา
- รอยแตกลายบริเวณหน้าอก
เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณที่ผิวหนังค่อนข้างบาง ทำให้เมื่อเกิดการฉีดขาดของผิวหนังชั้นกลางอย่างรวดเร็ว จึงส่งผลให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าวมีรอยแตกลายได้ง่ายกว่าบริเวณอื่นๆ
วิธีลดและรักษารอยแตกลายหลังคลอด
เลเซอร์ท้องลายหลังคลอด
การใช้เลเซอร์รักษารอยแตกลายด้วยการส่งพลังงานแสงอนุภาคเล็กมาก ๆ ลงไปยังชั้นใต้ผิวเพื่อเป็นตัวกระตุ้นให้ collagen และ Elastin ใต้ผิวหนังในบริเวณรอยแตกลายที่มีกสรเลื่อมสภาพ กลับมาทำงานได้ดีอีกครั้ง ส่งผลทำให้รอยแตกลายดูจางลงได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะรอยแตกลายที่มีสีแดง เหมาะกับคุณแม่หลังคลอดที่มีปัญหารอยแตกลายจากการยืดขยายของผิวอย่างรวดเร็ว ด้วยเทคโนโลยีพิเศษ Holographic Fractional Handpiece ของ PicoWay Resolve ซึ่งจะทำให้ปัญหารอยแตกลายของคุณแม่หลังคลอดหายไปอย่างรวดเร็ว พร้อมช่วยปรับสีรอยแตกลายให้มีความใกล้เคียงกับสีผิวเดิมตามปกติมากที่สุด โดยการสร้างผิวหนังใหม่ขึ้นมาทดแทน ซึ่งจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรก และเห็นผลชัดเจนเมื่อกลับมาทำอย่างต่อเนื่องประมาณ 3-5 ครั้ง
ครีมทาท้องแตกลายหลังคลอด
การทาครีมบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิว หรือครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินต่างๆที่ช่วยในการฟื้นฟูสภาพผิวเช่น Vitamin C และ Vitamin E ที่มีความเข้มข้นสูง หรือบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ AHA และ BHA ให้ทั่วตรงบริเวณผิวหนังที่มีรอยแตกลายทุกวันอย่างเป็นประจำทั้งในทุกๆตอนเช้า และก่อนนอน โดยควรทาทุกครั้งหลังอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ เพื่อให้เนื้อคนีมซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวได้ดีขึ้น เพื่อช่วยลดเลือนรอยแตกลายของผิว และช่วยป้องกันการเกิดรอยแตกลายใหม่ได้ที่ผิวหนัง ทั้งนี้ขอแนะนำว่าไม่ควรปล่อยให้ตรงบริเวณที่ผิวหนังที่แตกลายเกิดความแห้งเป็นอันขาด เพราะจะทำให้มันรอยแตกลายมีการขยายเพิ่มขึ้น
Fraxel Restore ผิวแตกลาย
เป็นการใช้เครื่องเลเซอร์ระดับ Gold Standard ในการปล่อยลำแสงเลเซอร์ที่มีขนาดเล็กแบบนับล้านๆ จุด ลงสู่ผิวหนัง เพื่อก่อให้เกิดความร้อนในชั้นผิวหนังชั้นลึก โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อบริเวณเนื้อเยื่อบริเวณข้างเคียงให้เกิดเสียหาย เป็นการช่วยทำลายเซลล์ผิวหนังที่อ่อนแอกว่า เพื่อทำให้ร่างกายเกิดการสร้างเซลล์ผิวหนังใหม่ขึ้นมาทดแทนได้ง่าย และช่วยขจัดเม็ดสีส่วนเกินให้จางลง ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระ และรอยแตกลาย นอกจากนี้ยังสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว จึงทำให้ผิวหนังแข็งแรงขึ้น แต่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง 3-5 ครั้งขึ้นไป จึงจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
กรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี
เป็นการอาศัยเทคนิคการพ่นอณู crystal ของอลูมิเนียมออกไซด์ลงบนผิวหนัง แล้วใช้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงบริเวณผิวชั้นบน ในระดับของหนังกำพร้าให้หลุดออกไปได้ในบางส่วนเท่านั้น แต่ไม่สามาถใช้ได้ถึงระดับที่จะทำให้ผิวหนังเกิดบาดแผลขึ้นได้ เป็นการช่วยกำจัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมเผยผิวให้ดูใสขึ้น ซึ่งเป็นอีกวิธีที่จะช่วยลดรอยแตกลาย รอยด่างดำ หรือรอยแผลต่างๆ ให้จางลง และปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ใช้เวลาประมาณ 15 – 30 นาที เดือนละ1 – 2 ครั้ง
Oxy Peel
อีกหนึ่งนวัตกรรมกับรูปแบบใหม่ของทางการแพทย์ โดยเป็นการใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในการช่วยขจัดเซลลูไลท์ หรือช่วยขจัดรอยแตกลายให้ดูจางลง และทำให้ผิวหนังกลับมาสดใสขึ้น ซึ่งการรักษาแบบ Oxy Peel แบบนี้จึงไม่ต้องต้องใช้เข็ม แต่จะใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่อยู่ในรูปแบบของเจลทาผิวหนังแทน และยังมีมาร์คที่เป็นตัวช่วยทำปฏิกิริยากับชั้นผิวกลางให้ได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยทำให้รอยแตกลายของคุณแม่หลังคลอดค่อยๆจางลงเรื่อย ๆ
Microneedling
เป็นวิธีการใช้เข็มที่มีขนาดเล็กมากเจาะลงไปยังผิวหนังเพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและช่วยผลิตอีลาสติน ซึ่งในขณะทำอาจทำให้รู้สึกเจ็บเล็กน้อย ซึ่งหลังการทำคุณแม่จะสังเกตเห็นได้เลยว่ารอยแตกลายหลังคลอดนั้นดูจางลง และสามารถสังเกตเห็นผลลัพธ์ได้เป็นอย่างดี โดยวิธีนี้เป็นที่ยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลายรวมถึงยังได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) มีความปลอดภัยสูงและให้ประสิทธิภาพในการรักษาที่ชัดเจน และยังสามารถช่วยลบเลือนรอยแตกลายได้ภายใน 4 สัปดาห์อีกด้วย
การดูแลหน้าท้องแตกลายหลังคลอด
ดื่มน้ำเยอะๆ
การดื่มน้ำที่สะอาดบริสุทธิ์ให้ปริมาณที่เพียงพอสำหรับทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2 ลิตรขึ้นไป หรือประมาณ 8-11 แก้ว เพราะน้ำจะช่วยบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้น ผิวหนังมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และช่วยขจัดของเสียออกจากร่างกายได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงช่วยทำให้ผิวหนังที่เกิดแตกลายไม่แห้ง แถมยังช่วยให้ผิวหนังนุ่นขึ้น และทำให้รอยแตกลายดูจางลง นอกจากนี้ขอแนะนำให้รับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังควบคู่ไปด้วย เช่น ข้าวกล้อง, น้ำมันมะกอก, อะโวคาโด, แตงโม, ปลาทะเลต่างๆ เพื่อช่วยให้ผิวหนังที่เกิดรอยแตกลายดูเจือจางลง
ขัดผิว
การขัดและสครับผิวเป็นประจำ จะช่วยทำให้การกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปได้รวดเร็วขึ้น และเป็นการช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ให้ขึ้นมาทดแทนได้ไวขึ้น ดังนั้นในระหว่างอาบน้ำควรใช้ใยบวบ หรือผลิตภัณฑ์สครับผิวเพื่อช่วยขัดผิวในบริเวณที่มีรอยแตกลายเป็นประจำ อย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ขอแนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สครับผิวที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการซ่อมแซมและซึมซาบสู่ผิวได้ดีขึ้น และเละเพื่อป้องกันการแพ้หรือการระคายเคืองผิวจากสารเคมี
งดอาบน้ำอุ่น
สำหรับคุณแม่ท่านไหนที่มีปัญหารอยแตกลายหลังคลอด แนะนำให้เลือกอาบน้ำในอุณภูมิปกติ แทนการอาบน้ำอุ่น เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหนังเกิดความแห้งและผิวหนังอาจแตกเป็นขุยได้ นอกจากนี้การอาบน้ำอุ่นยังส่งผลให้ผิวขาดความชุ่มชื้น จนบางคนอาจมีอาการคันตามผิวหนังได้ง่าย เพราะฉะนั้นคุณแม่หลังคลอดจึงควรอาบน้ำในอุณหภูมิที่ปกติ เพื่อช่วยลดปัญหาการเกิดรอยแตกลายใหม่นั่นเอง
ทานวิตามินบำรุงผิว
การทานอาหารเสริมหรือวิตามินที่มีประโยชน์ต่อผิวอย่างเช่น Vitamin C, Vitamin B3, Vitamin E และ Vitamin K Vitamin D สังกะสี และอาหารผิวอย่างคอลลาเจน ก็จะช่วยทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ช่วยลดรอยแตกลายให้แลดูจางลง และช่วยป้องกันการเกิดรอยแตกลายในอณาคตได้อีกด้วย
สรุป
เพราะรอยแตกลายหลังคลอดสามารถเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ทุกคน ดังนั้นเมื่อป้องกันไม่ได้ก็ควรหาวิธีรักษาที่ดีที่สุดไว้สำหรับการรับมือ อย่างการทำเลเซอร์ลบรอยแตกลาย ซึ่งเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูงเนื่องจากทำโดยแพทย์ ซึ่งคุณแม่ท่านไหนที่สนใจสามารถปรึกษาเพื่อรับฟังคำแนะนำได้ที่กังนัมคลินิกทุกสาขา