ทำ Thermage เจ็บไหม ตอนทำให้หมอใช้ยาชาให้หรือไม่
การทำ Thermage นั้นถือเป็นอีกหนึ่งวิธีในการช่วยยกกระชับผิวและสลายไขมันส่วนเกินได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยการยิงส่งพลังงานที่จะถูกเปลี่ยนเป็นความร้อนลงสู่ชั้นผิว จึงทำให้หลายๆ คนกังวลเรื่องความเจ็บในระหว่างทำอย่างมาก ซึ่งในบทความนี้หมอจะมาให้คำตอบกันว่าการทำ Thermage เจ็บไหมและเจ็บมากไหม
เครื่อง Thermage คืออะไร
Thermage (เทอร์มาจ) เป็นอีกหนึ่งเครื่องช่วยยกกระชับผิวด้วยการใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (Monopolar RF) ในการยิงส่งพลังงานลงไปยังชั้นผิวได้ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ซึ่งตัวพลังงานจะถูกเปลี่ยนเป็นความร้อนเพื่อเข้าไปช่วยแก้ปัญหาผิวตามตำแหน่งต่างๆ
เครื่อง Thermage ช่วยเรื่องอะไร
- ผิวมีความกระชับขึ้น เต่งตึงขึ้น
- ผิวมีความเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น รูขุมขนกระชับ
- กรอบหน้าชัดขึ้น สามารถทำเพื่อปรับหน้าทรงวีไลน์
- ช่วยลดริ้วรอย ร่องลึกตามจุดต่างๆ
- ช่วยสลายไขมันส่วนเกินทำให้หน้าเรียวเล็กขึ้น
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินในผิวเพิ่มมากขึ้น
อ่านบทความเพิ่มเติม : รู้ก่อนทำ Thermage คืออะไร? ช่วยกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดได้จริงไหม?
ตอนทำ Thermage เจ็บไหม
เนื่องจากในระหว่างยิงตัวค่าพลังงานจะถูกเปลี่ยนเป็นความร้อนจึงทำให้คนไข้อาจรู้สึกเจ็บจี๊ดในขณะยิงได้ ดังนั้นการทำ Thermage จึงต้องมีการแปะยาชาก่อนทำจนทำให้ในระหว่างยิงคนไข้อาจจะรู้สึกได้ถึงความร้อนเล็กน้อย แต่ทั้งนี้การทำ Thermage จะเป็นการทำโดยคุณหมอที่มีประสบการณ์จึงจะมีการสอบถามความรู้สึกเจ็บในระหว่างยิงอยู่ตลอด
ผลข้างเคียงหลังจากทำ Thermage
หลังทำ Thermage นั้นในคนไข้บางรายอาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ โดยอาการส่วนใหญ่ที่พบก็คือ
- การชาผิว หลังจากทำเสร็จใหม่ ซึ่งอาจมาจากการออกฤทธิ์ของยาที่ยังมีอยู่
- อาการผิวแดง ที่เกิดจากความร้อนของคลื่นพลังงาน ซึ่งจะหายไปเองภายใน 1-2 ชั่วโมงหลังทำ
- อาการบวม สามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติหลังจากทำไปแล้ว ซึ่งจะหายไปเองภายใน 1-2 วัน
- อาการปวดระบมผิว ถือว่าเป็นอีกอาการที่เกิดได้ตามปกติ เนื่องจากตัวเครื่องมีค่าพลังงานที่สูงจึงทำให้เกิดการเจ็บระบมได้ โดยคนไข้สามารถใช้การประคบเย็นเพื่อช่วยบรรเทาอาการหรือทานยาแก้ปวดตามคำแนะนำของหมอได้
Thermage ทำแล้วอันตรายไหม
ในส่วนเรื่องของความปลอดภัยหลังทำนั้นถือว่าการทำ Thermage มีความปลอดภัยอย่างมาก เนื่องจากตัวเครื่องได้ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก US FDA และอย.ไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และยังมีงานวิจัยจากหลายๆ แห่งที่มารองรับถึงผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงหลังทำอีกด้วย
แต่ทั้งนี้ก่อนทำคนไข้เองก็ควรทำการตรวจสอบคลินิกให้แน่ชัดก่อนว่าคลินิกมีการใช้เครื่อง Thermage ของแท้ที่นำเข้ามาอย่างถูกกฎหมายและทำโดยคุณหมอที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญในการใช้เครื่อง Thermage และมีใบประกอบวิชาชีพแพทย์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากตัวเครื่อง Thermage เองก็มีหลายระดับค่าพลังงานจึงต้องอาศัยประสบการณ์ของหมอในการปรับพลังงานให้ตรงตามกับปัญหาที่คนไข้มี
ทำ Thermage ไปแล้วกี่วันถึงจะเห็นผล
หลังทำ Thermage คนไข้จะสามารถสังเกตเห็นผลลัพธ์ได้เลยแบบทันทีประมาณ 20% และผลลัพธ์จะเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ หลังทำไปแล้ว 2-3 เดือน เนื่องจากกระบวนการทำงานจะเป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวเพิ่มขึ้นและการสลายเซลล์ไขมันส่วนค่อยที่จะต้องใช้ระยะเวลาในการเห็นผล
หากทำ Thermage แล้วไม่รู้เจ็บจะเห็นผลไหม
แน่นอนว่าด้วยเครื่อง Thermage มีค่าพลังงานที่สูงและแม่นยำจึงทำให้ระหว่างยิงคนไข้จะรู้สึกเจ็บจี๊ดอย่างแน่นอนแต่จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับค่าพลังงานที่ใช้ยิง แต่หากในระหว่างยิงอยู่นั้นไม่รู้สึกถึงความเจ็บก็อาจสันนิษฐานได้ว่าใช้พลังงานที่ต่ำเกินไป หรือใช้เครื่องที่ไม่ได้มาตรฐานจึงทำให้ผลลัพธ์หลังทำอาจไม่ชัดเจนมากนัก
Thermage เหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ที่ต้องการปรับยกกระชับผิวโดยไม่อยากผ่าตัดศัลยกรรม
- ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวเหี่ยวย่น
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึก
- ผู้ที่ต้องการสลายไขมันส่วนเกิน เซลลูไลท์ตามส่วนต่างๆ
- ผู้ที่ต้องการปรับผิวให้เรียบเนียน ปรับรูขุมขนให้กระชับ
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียว วีเชฟขึ้น
ข้อดี-ข้อเสียของการทำ Thermage
ข้อดีของการทำ Thermage | ข้อเสียของการทำ Thermage |
– สามารถเห็นผลได้ทันที 20% หลังทำ – สามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ – หลังทำไม่รอยแผล ให้กวนใจ – ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ หลังทำสามารถใช้ชีวิต ได้ตามปกติ – ใช้เวลาในการทำไม่นานเพียงแค่ 60-90 นาที | – หากต้องการเห็นผลลัพธ์แบบ 100% จะต้อง ใช้ระยะเวลาที่นาน – มีราคาค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง – ปัจจุบันมีเครื่องปลอมค่อนข้างเยอะ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัดก่อนตัดสินใจทำทุกครั้ง |
Thermage ทำบริเวณไหนได้บ้าง แต่ละบริเวณเจ็บไหม
การทำ Thermage นั้นสามารถทำได้หลายตำแหน่ง หลายบริเวณที่มีปัญหาผิว ซึ่งบริเวณที่ได้รับความนิยมมากๆ ได้แก่
- ใบหน้า
- ลำคอ
- ต้นแขน
- หน้าอก
- ต้นขา
- หน้าท้อง
ซึ่งแต่ละบริเวณก็จะมีความรู้สึกเจ็บที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับระบบประสาทสัมผัสในบริเวณนั้นๆ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วการทำ Thermage ที่ใบหน้าจะมีความเจ็บที่มากที่สุดกว่าบริเวณอื่นๆ
นอกจาก Thermage แล้วมีเครื่องไหนช่วยยกกระชับผิวอีกบ้าง แล้วเจ็บไหม
ในความจริงแล้วเครื่องช่วยยกกระชับผิวนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ Thermage เท่านั้นแต่ยังมีอีก 2 เครื่องเด่นๆ คือ
- Hifu (ไฮฟู) : เป็นเครื่องที่ใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง (High Intensity Focused Ultrasound) ในการเข้าไปช่วยปรับยกกระชับผิวได้ถึงชั้นผิว SMAS จึงช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อยได้ดี
อ่านบทความเพิ่มเติม : 10 ข้อควรรู้ก่อนทำ Hifu คืออะไร? มีกี่แบบ? เลือกยี่ห้อไหนดี ให้เหมาะกับเรา
- Ulthera (อัลเทอร่า) : เป็นเครื่องที่ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง (High Intensity Focused Ultrasound) และส่งพลังงานได้ลึกถึงชั้นผิว SMAS เช่นเดียวกับเครื่อง Hifu แต่ตัวเครื่อง Ulthera มีความพิเศษกว่าตรงที่มาพร้อมกับระบบหน้าจอแสดงผลคล้ายกับเครื่องอัลตร้าซาวด์สำหรับดูทารกในครรภ์ จึงทำให้หมอสามารถมองเห็นถึงปัญหาผิวได้ลึกถึงผิวชั้นใน จึงทำให้ผลลัพธ์มีความแม่นยำและเห็นผลได้ชัดเจนกว่าเครื่อง Hifu
อ่านบทความเพิ่มเติม : รู้ก่อนทำ Ulthera คืออะไร? ช่วยยกกระชับ แก้ปัญหาผิวแบบไหนได้บ้าง?
ซึ่งแน่นอนว่าทั้ง 2 เครื่องอย่าง Hifu และ Ulthera มีความแตกต่างอย่างชัดเจนกับเครื่อง Thermage ตรงที่ตัวพลังงานที่ใช้ จึงทำให้เครื่อง Thermage มีความพิเศษกว่าทั้ง 2 เครื่องในเรื่องของการช่วยสลายไขมันและเซลลูไลท์นั่นเอง
สรุป
การยกกระชับผิวด้วยเครื่อง Thermage นั้นในระหว่างทำคนไข้อาจจะรู้เจ็บจี๊ดในขณะที่หมอทำการยิงได้ ซึ่งถือเป็นความเจ็บในระดับที่สามารถทนได้และนอกจากนั้นก่อนทำหมอจะทำการแปะยาชาก่อนทุกครั้งอยู่แล้ว ดังนั้นคนไข้ไม่ต้องกังวลใจไป และหากในตอนทำรู้สึกเจ็บก็สามารถแจ้งหมอเพื่อปรับลดค่าพลังงานได้
สำหรับใครที่สนใจอยากสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำ Thermage ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดการทำ ราคาโปรโมชั่น หรือการสำรองจองคิวสามารถสอบถามข้อมูลได้ได้ที่ Line : @gangnamclinic หรือได้ที่กังนัมคลินิกทุกสาขา