รู้จักหมอกระเป๋าคืออะไร ถูกกฎหมายหรือไม่

หมอกระเป๋าถือเป็นอีกหนึ่งชื่อเรียกที่สามารถพบได้ในวงการที่เกี่ยวข้องกับหัตถการความงามต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโบท็อก ฟิลเลอร์หรือการฉีดหน้ากลุ่มเมโส ซึ่งถือเป็นสิ่งที่พบได้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ดังนั้นในบทความนี้เราเลยจะมาให้ความรู้ถึงคําว่า “หมอกระเป๋า” ว่าคืออะไร ถูกกฎหมายไหมและควรใช้บริการหรือไม่

หมอกระเป๋าคืออะไร

หมอกระเป๋า คืออะไร

หมอกระเป๋าคือกลุ่มคนที่แอบอ้างการแสดงตัวว่าเป็นแพทย์เพื่อไปรับบริการทําหัตถการความงามให้กลุ่มลูกค้านอกสถานที่ เช่น ตามบ้าน ตามคอนโด อพาร์ทเม้นต์ต่าง ๆ หรือไม่ก็เปิดสถานพยาบาลเองในที่พักอาศัยหรือที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า “คลินิกเถื่อน” โดยกลุ่มเหล่านี้มักจะมีการนัดพบลูกค้าที่ไปพร้อมกับอุปกรณ์ทางการแพทย์รวมไปผลิตภัณฑ์ที่จะใช้สําหรับทําหัตถการทางความงาม ซึ่งหัตถการส่วนใหญ่จะเน้นไปที่กลุ่มการฉีดหน้าไม่ว่าจะเป็นเมโสหน้าใส เมโสแฟต โบท็อกซ์ หรือฟิลเลอร์ต่าง ๆ เป็นต้น

หมอกระเป๋าเป็นหมอจริง ๆ ไหม

หมอกระเป๋า เป็นหมอจริงไหม

โดยส่วนใหญ่แล้วหมอกระเป๋ามักจะไม่ใช่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่จะมักพบเยอะในกลุ่มสายงานวิชาชีพแพทย์ หรือผู้ที่ทํางานเกี่ยวข้องกับวงการหัตถการความงามต่าง ๆ เช่น

  • พยาบาล
  • ผู้ช่วยพยาบาล
  • นักศึกษาแพทย์
  • หมอที่ถูกถอดใบวิชาชีพแพทย์ไปแล้ว
  • เจ้าหน้าที่ในคลินิกความงาม

ที่อาจจะมีความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการฉีดในหัตถการต่าง ๆ แบบเบื้องต้นจากการเล่าเรียนบ้าง จากการครูพักลักจํามาบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะขาดความรู้เกี่ยวกับหลักกายวิภาคของมนุษย์แบบลึกซึ้งจึงทําให้อาจเกิดอันตรายขึ้นได้ในระหว่างทําหัตถการ

หมอกระเป๋าถือว่าผิดกฎหมายไหม

หมอกระเป๋าผิดกฎหมายไหม

แน่นอนว่าในแง่ของกฎหมายในประเทศไทยการที่กลุ่มคนเหล่านี้มารับบริการเป็นหมอกระเป๋าเช่นนี้จะถือว่า ผิดกฎหมายอย่างยิ่งตามข้อบังคับของแพทย์สภาที่ได้มีการระบุไว้ว่า ผู้ที่จะทําการรักษาวินิจฉัยรวมไปถึงการเสริมความงามกับมนุษย์นั้นจะต้องมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขาต่าง ๆเท่านั้นหากไม่มีจะไม่สามารถทําได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

รวมไปถึงการเปิดสถานพยาบาล คลินิกเสริมความงามต่าง ๆ จะต้องมีการขออนุญาตการเปิดกิจการกับทางกระทรวงสาธารณสุขก่อนทุกครั้ง และที่หน้าคลินิกจะต้องมีการโชว์ใบอนุญาตการเปิดสถานพยาบาลที่มีการระบุเลข 11 หลักอยู่อย่างชัดเจน และไม่สามารถเปิดสถานพยาบาลภายในที่พักอาศัยโดยไม่ผ่านการขออนุญาตได้

หมอกระเป๋าสามารถเป็นหมอจริง ๆ ได้ไหม

ในปัจจุบันก็ต้องยอมรับว่าหมอกระเป๋าบางคนก็อาจจะเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจริง ๆ ที่มีการรับจ๊อบเสริมนอกเหนือจากงานทางคลินิก แต่ว่าก็ถือเป็นส่วนน้อยมาก ๆ เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวนี้ขัดกับหลักจริยธรรมทางวิชาชีพแพทย์อย่างมาก หากมีผู้พบหรือแจ้งกับทางแพทย์สภาก็อาจถูกทําโทษด้วยการถอดถอนใบประกอบวิชาชีพแพทย์ได้ ดังนั้นจึงทําให้หมอผู้เชี่ยวชาญหรือมีประสบการณ์ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยเอาอาชีพการงานไปเสี่ยงกับการเป็นหมอกระเป๋านั่นเอง

ทําไมหลายคนถึงเลือกรับบริการกับหมอกระเป๋า

สาเหตุส่วนใหญ่ที่คนมักจะตัดสินใจรับบริการกับหมอกระเป๋านั้นก็คือเรื่องของค่าใช้จ่าย ซึ่งการทําหัตถการกับกลุ่มหมอกระเป๋าหรือหมอเถื่อนนั้นส่วนมากจะมีราคาที่ถูกกว่าการทํากับคลินิกความงาม แต่ทว่าก็ย่อมมีความไม่คุ้มเสียกับการที่ต้องเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายได้สูงมาก ๆ เช่นกัน

อันตรายที่อาจเกิดขึ้นหลังรับบริการกับหมอกระเป๋า

อันตรายจากหมอกระเป๋า

การรับบริการกับหมอกระเป๋านั้นนอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายเกิดขึ้นในระหว่างทําได้อีกด้วย เช่น

1. เจอตัวยาปลอม หรือยาไม่ได้มาตรฐาน

ซึ่งยาปลอมนั้นเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างมาก เพราะเราไม่สามารถทราบได้เลยว่าในตัวยามีส่วนผสมอะไรที่เป็นอันตรายต่อร่างกายหรือไม่ โดยส่วนใหญ่ตัวยาที่หมอกระเป๋าเลือกใช้มักจะไม่ผ่านการตรวจสอบจากทางอย. ก่อนจึงเสี่ยงต่ออันตรายที่อาจเกิดขึ้นหลังทําได้เป็นอย่างยิ่ง

ที่สําคัญตัวยาของแท้ในไทยไม่ว่าจะเป็นโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ เมโสหน้าใสหรือเมโสแฟตล้วนเป็นยานําเข้าที่มีบริษัทผู้จัดจําหน่ายอย่างเป็นทางการ และการจะจัดซื้อตัวยาแท้จากบริษัทเหล่านี้นั้นจะต้องเป็นการสั่งซื้อยาผ่านทางคลินิกความงามที่เปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น

นอกจากนั้นในกรณีที่ยาที่หมอกระเป๋าใช้เป็นของแท้ที่ลักลอบมาจากคลินิกความงามแห่งใดแห่งหนึ่งก็ย่อมเสี่ยงอยู่ดี เนื่องจากตัวยาเหล่านี้จะต้องมีการจัดเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสมไม่สามารถหิ้วใส่กระเป๋าแล้วไปฉีดให้ลูกค้าตามสถานที่ต่าง ๆ ได้

2. ใช้อุปกรณ์การแพทย์ที่ไม่ได้มาตรฐาน

แน่นอนว่าในแต่ละหัตถการก็จะต้องมีการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ด้วยเสมอ ซึ่งในหมอกระเป๋าส่วนใหญ่มักจะเป็นการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่อาจสั่งมาทางออนไลน์ เนื่องจากจะมีต้นทุนที่ถูกกว่าแต่อาจไม่ใช่อุปกรณ์เกรดทางการแพทย์ที่ใช้กันตามคลินิกความงามทั่วไป

3. ทําแล้วไม่เห็นผลลัพธ์

ปัญหานี้เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ๆ เนื่องจากหมอกระเป๋าส่วนใหญ่จะใช้ยาที่ไม่ได้มาตรฐานทําให้ไม่สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของผลลัพธ์ได้ นอกจากนั้นตัวหมอกระเป๋าเองยังขาดความรู้ความเชี่ยวชาญในการทําหัตถการจึงทําให้หลังทําไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือทําแล้วเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์

4. มีการอาการแพ้ อักเสบ

ซึ่งมักเกิดขึ้นจากการใช้ตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐานไม่ว่าจะเป็นยาปลอม หรือยาของแท้ที่ไม่ได้ถูกจัดเก็บในอุณหภูมิที่ถูกต้องจนทําให้ตัวยาเสื่อมประสิทธิภาพ อีกแง่ก็อาจเกิดจากความไม่สะอาดในระหว่างทําหัตถการก็เป็นได้ เนื่องจากการรับบริการกับหมอกระเป๋านั้นไม่ได้ทําในห้องหัตถการที่มีการดูแลเรื่องความสะอาดและการฆ่าเชื้อเหมือนกับการไปทํากับคลินิกที่ได้มาตรฐาน

5. เสี่ยงต่อการเสียโฉม

ในเคสนี้ถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก ๆ ซึ่งสาเหตุมักเกิดมาจากการที่หมอกระเป๋าไม่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องสรีระของมนุษย์จึงทําให้เกิดการฉีดทําหัตถการในชั้นผิวที่ผิดจนทําให้เกิดการเสียโฉมได้ในที่สุด

6. ไม่มีอุปกรณ์ในกรณีฉุกเฉิน

เนื่องจากการรับบริการกับหมอกระเป๋าจะเป็นการรับบริการตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งจะทําให้ขาดเรื่องอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ไว้ในใช้กรณีฉุกเฉิน เช่น กลุ่มยาสลายฟิลเลอร์ เป็นต้น จึงทําให้ในกรณีทําหัตถการแล้วเกิดความผิดปกติเช่น อาการแพ้ หรือฉีดฟิลเลอร์โดยเส้นเลือด หรือฉีดโบท็อกซ์ผิดจุดแล้วเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายขึ้นจะไม่สามารถรักษาหรือแก้ไขได้อย่างทันถ่วงทีจนนําไปสู่ปัญหาใหญ่ได้ เช่น ฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอดนั่นเอง

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อควรระวังของฟิลเลอร์ : ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม? มีข้อควรระวัง เพื่อลดความสี่ยงได้อย่างไร

7. กรณีรักษาผิดพลาดแล้วไม่สามารถแก้ไขได้

นั้นก็เพราะว่าหมอกระเป๋าไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลือยามฉุกเฉินหรือหมอกระเป๋าไม่มีความเชี่ยวชาญ ความรู้เรื่องการรักษาช่วยเหลือในกรณีเกิดความผิดพลาดในระหว่างการรักษา ซึ่งหากโชคดีคนไข้อาจจะสามารถไปรับการรักษากับสถาพยาบาลที่อื่นได้ แต่หากโชคร้ายอาจถึงแก่ชีวิตก็ได้เช่นกัน

8. เสี่ยงต่อการเกิดความพิการ หรืออาจเสียชีวิตได้

เป็นอีกกรณีที่ถือเป็นเรื่องใหญ่และควรให้ความสําคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะในปัจจุบันนั้นแม้แต่การทําหัตถการกับหมอแท้ ๆ ที่ยังไม่มีประสบการณ์มากพอยังเสี่ยงทําให้เกิดความผิดพลาดในระหว่างการรักษาได้ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะทําหัตถการกับกลุ่มหมอเถื่อนแล้วจะเกิดอันตรายเกิดขึ้น ซึ่งอาจรุนแรงถึงระดับพิการ เช่น ตาบอด หรืออาจเสียชีวิตก็ได้เช่นกัน

9. ไม่สามารถหาตัวแพทย์เพื่อเอาผิดได้

เนื่องจากว่ากลุ่มหมอกระเป๋าเหล่านี้มักให้บริการตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งไม่มีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง รวมไปถึงในบางรายอาจถึงขั้นปลอมชื่อ-นามสกุลจึงทําให้ในกรณีเกิดความผิดพลาดขึ้นมานั้นจะมาสามารถหาตัวเพื่อเอาผิดตามกฎหมาย ได้ยากมาก ๆ

วิธีการแจ้งจับหมอกระเป๋า

วิธีแจ้งจับหมอกระเป๋า

หลังจากที่ทราบถึงความอันตรายของการรับบริการกับหมอกระเป๋าไปแล้ว ดังนั้นในกรณีที่หากท่านพบเห็นบุคคลใดที่มีพฤติกรรมแอบอ้างเป็นแพทย์ในลักษณะของหมอกระเป๋าสามารถแจ้งเบาะแสและส่งเรื่องร้องเรียนได้ทาง กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สบส. กระทรวงสาธารณสุข ได้ทั้งทาง Facebook, Email หรือเว็บไซต์ของทางกรม

เราสามารถสั่งซื้อยาเองแล้วให้หมอที่คลินิกฉีดให้ได้หรือไม่

คําตอบคือไม่ได้ เนื่องจากว่าเหตุด้านความปลอดภัยเนื่องจากหากคนไข้นําตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐานมาให้หมอที่คลินิกฉีดแล้วเกิดอันตรายเกิดขึ้น หมอผู้ฉีดจําเป็นจะต้องรับผิดในกรณีของการเป็นแพทย์ผู้ทําการรักษา ดังนั้นหมอตามคลินิกส่วนใหญ่จะไม่รับฉีดหัตถการต่าง ๆ ให้ในกรณีที่คนไข้ซื้อตัวยามาเอง

และนอกจากนั้นในความเป็นจริงแล้วคนไข้เองจะไม่สามารถสั่งซื้อตัวยาไม่ว่าจะเป็นโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์หรือกลุ่มเมโสต่าง ๆ ของแท้ตามบริษัทผู้นําเข้าอย่างเป็นทางการได้ ซึ่งผู้จะสั่งซื้อได้จะต้องเป็นคลินิกที่มีใบอนุญาตและมีแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพประจําอยู่เท่านั้นถึงจะสามารถสั่งซื้อตัวยาของแท้ที่ผ่านมาตรฐานของอย.ไทยได้นั่นเอง

สรุป

หมอกระเป๋าคือกลุ่มคนที่มีการแอบอ้างสิทธิ์ว่าเป็นหมอเพื่อรับบริการทําหัตถการให้กับกลุ่มลูกค้าตามสถานที่ต่าง ๆ หรือนอกสถานที่พยาบาลอย่างคลินิก ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้มักหมอเถื่อน เช่น ผู้ช่วยพยาบาล พยาบาล ไม่ใช่แพทย์ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะมีความรู้ ความเชี่ยวชาญในการทําหัตถการได้น้อยมาก หากเข้ารับบริการอาจเกิดความอันตรายต่อตัวคนไข้ได้ดังนั้นจึงไม่ควรใช้บริการกลุ่มคนเหล่านี้อย่างยิ่ง

สําหรับใครที่สนใจอยากทําหัตถการความงามกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ทํากับแพทย์ที่มีความรู้ มีความเชี่ยวชาญขอแนะนําที่กังนัมคลินิก โดยสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Line : @gangnamclinic หรือได้ที่กังนัมคลินิกทุกสาขา

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง